โฆษกเพื่อไทย นัดประชุม ส.ส.ซ้อมซักฟอกอังคารนี้ โว “ยิ่งลักษณ์” มีข้อมูลแจงได้ ให้ถ่ายสด 3 วัน โอ่นายกฯ แวะเซ็นชื่อเข้าประชุมตลอด ขาสั่นม็อบ เสธ.อ้าย ปูดก๊วนการเมืองใช้ยุทธศาสตร์ 2 ขา เกณฑ์คนร่วม อ้าง “โอบามา” มาไทยเชื่อมั่นเศรษฐกิจ ห่วงชุมนุมกระทบภาพลักษณ์ จวก อพส.คิดสุดโต่ง หวั่นมือที่ 3 ป่วน แนะมวลชนดูแลกันเอง กุมีจ่ายหัวละ 1,500 จ่อฟ้องผิด ม.68 โวย “อภิสิทธิ์” ฟ้อง “สุกำพล” เบี่ยงเบนข้อเท็จจริง ปัด “ปู-เจ๊แดง” เบรกเด็ก กทม.ส่ง “เจ๊หน่อย” ชิงผู้ว่าฯ
วันนี้่ (18 พ.ย.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ในวันอังคารที่ 20 พฤศจิกายน จะมีการประชุม ส.ส.พรรค เพื่อซักซ้อมความพร้อมก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทั้งนี้ เชื่อว่า นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี มีข้อมูลพร้อมสามารถชี้แจงได้ อย่างไรก็ตาม การอภิปรายทั้ง 3 วัน ที่มีการถ่ายทอดสด ก็จะเป็นการเปิดให้ประชาชนได้ติดตาม ว่า การชี้แจงและซักถามไปตามหลักการทางประชาธิปไตยหรือไม่ ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านออกมา ระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่ให้ความสำคัญกับรัฐสภานั้น มองว่า เป็นการกล่าวหาที่ไม่มีเหตุผล และยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีเข้าเซ็นชื่อร่วมประชุมทุกครั้งที่มีการประชุมสภา ดังนั้น การกล่าวหาของฝ่ายค้าน จึงมองว่าเป็นเพียงแค่เกมการเมืองเท่านั้น
ทั้งนี้ นายพร้อมพงศ์ ยังเปิดเผยด้วยว่า พรรคมีความกังวลเรื่องของการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม เนื่องจากพบว่ามีกลุ่มการเมือง และสมาชิกบางพรรค ใช้เครือข่ายหัวคะแนนชักชวนคนมาร่วมชุมนุม ในลักษณะยุทธศาสตร์สองขา ซึ่งอาจทำให้ประชาชนสับสนกับบทบาทการเมืองทั้งในสภาและนอกสภาได้ พร้อมระบุว่า วันนี้ นานาชาติกำลังเชื่อมั่นเศรษฐกิจการลงทุนของประเทศไทย เห็นได้จากการเดินทางมาประเทศไทยของ นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ดังนั้น เป้าหมายการแช่แข็งประเทศของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามนั้น จึงเป็นความคิดที่สุดโต่ง เผด็จการเสียงข้างน้อย ไม่เคารพเสียงของประชาชน และไม่เป็นผลดีต่อความเชื่อมั่น การลงทุน และการท่องเที่ยวของไทย จึงขอให้ผู้ชุมนุมทบทวนถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น
นอกจากนี้ นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า รู้สึกกังวลกับมือที่ 3 ที่จะเข้ามาสร้างสถานการณ์ให้เกิดความวุ่นวาย จึงอยากฝากผู้ชุมนุมช่วยกันสอดส่องบุคคลต่างๆ ที่มาร่วมชุมนุม ซึ่งในวันอังคารที่ 20 พ.ย.นี้ พรรคจะมีการหารือและจะเสนอหน่วยงานความมั่นคงเข้ามาดูแลการชุมนุมเป็นพิเศษ เนื่องจากหวั่นกระทบภาพลักษณ์ของประเทศ พร้อมเรียกร้องให้ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การพิทักษ์สยาม ทบทวนเป้าหมายล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน พร้อมเปิดเผยว่า ขณะนี้มีการเชิญชวนคนมาร่วมชุมนุมด้วยการจ่ายค่าตอบแทนหัวละ 1,500 บาท อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ตนมองว่า การชุมนุมของ พล.อ.บุญเลิศ อาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญ ดังนั้น พรรคจะรวมข้อมูลทั้งหมด เพื่อร้องเอาผิดต่อไป
นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.เอาผิด พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่กรณีถอดยศ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่า เป็นการเบี่ยงเบนข้อเท็จจริงเพื่อปกป้องพวกพ้อง ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่า เป็นการยื่นฟ้องผิดที่ พร้อมตั้งคำถามว่า ทำไม นายอภิสิทธิ์ จึงไม่ฟ้องศาลยุติธรรม เหมือนกรณีที่เคยฟ้อง นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.ก่อนหน้านี้ จึงมองว่า การกระทำของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นการปกป้องพวกเดียวกันเอง โดยไม่คำนึงถึงข้อเรียกร้องของประชาชนที่ต้องการให้พรรคประชาธิปัตย์ดำเนินการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว
ส่วนกรณีที่มี ส.ก.และ ส.ข.เข้าชื่อเสนอ คุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เป็นผู้สมัครลงเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ นางสาวเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ไม่เห็นด้วยนั้น นายพร้อมพงศ์ ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง ทั้งสองคนไม่เกี่ยวข้อง เพราะการเลือกผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.นั้น เป็นหน้าที่ของสมาชิกพรรคทั้ง 3 โซน กทม.ที่จะต้องไปหาข้อสรุป ก่อนพิจารณาและเป็นมติของพรรคต่อไป