แก๊งแม้วดาหน้าโต้กลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม “ก่อแก้ว” เบรกรัฐใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง แต่เสนอจับ “เสธ.อ้าย” ยัดคุกข้อหากบฏ ห้ามประกัน มองแค่ทหารแก่ไร้น้ำยา ร้อง “สุรยุทธ์” ห้ามปราม อ้างในหลวงไม่สบายพระทัย “เด็จพี่” โฆษกเพื่อไทยเอาอีก ซัดต้องการยึดอำนาจ โวประเทศชาติเติบโต นายกฯ เนื้อหอมฝรั่งจีบ ประชาชนอยู่ดีกินดี ถ้าล้มรัฐบาลจะถอยหลังเข้าคลอง ส่งสัญญาณแก๊งแดงต้านแบบสันติวิธี
วันนี้ (15 พ.ย.) ที่รัฐสภา นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย แถลงถึงการนัดชุมนุมของกลุ่มองค์กรพิทักษ์สยามในวันที่ 24 พ.ย.ว่า เท่าที่ตนได้ติดตามสถานการณ์ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เสนอให้รัฐบาลมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงนั้นตนไม่เห็นด้วย เพราะขณะนี้เรายังไม่เห็นสถานการณ์ที่ผิดปกติ ซึ่งการชุมนุมไม่ว่าจะเป็นกลุ่มใดก็ถือเป็นสิทธิที่สามารถกระทำได้ ส่วนที่ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย ประธานองค์กรพิทักษ์สยามระบุว่า จะมีประชาชนมาร่วมชุมนุมกว่า 1 ล้านคนนั้น ตนไม่เชื่อ ดังนั้นจึงขอให้รัฐบาลดูสถานการณ์ก่อน ที่จะมีการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง เพราะหากใช้มาตรฐานเช่นนี้กับประเทศไทยตนเกรงว่า อาจจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศได้
นายก่อแก้วยังกล่าวอีกว่า ถ้ารัฐบาลกลัว เสธ.อ้ายที่ขณะนี้ขอเลื่อนการมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ ตนก็ขอให้รัฐบาลมีการจับกุม เสธ.อ้ายพร้อมแจ้งข้อหากบฎ และไม่ให้มีการประกันตัว อีกทั้งขอเรียกร้องว่าไม่ว่าผู้ชุมนุมจะมาเป็นจำนวนเท่าไหร่รัฐบาลก็ต้องปฏิบัติตามที่ควรจะเป็น อย่าให้เหมือนในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะเป็นนายกรัฐมนตรี ที่มีการมองประชาชนเป็นศัตรู และใช้อาวุธในการสังหารประชาชน ดังนั้นรัฐบาลต้องไม่ส่งทหารติดอาวุธมาอย่างเด็ดขาด แต่ต้องใช้วิธีตามหลักสากล ตนในฐานะ ส.ส.พรรคเพื่อไทยแม้ว่าจะไม่เห็นด้วยกับการชุมนุม แต่ก็ไม่อยากเห็นรัฐบาลมีการดำเนินการดังเช่นรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ที่ขณะนี้ได้รับชะตากรรมแล้ว
“เสธ.อ้ายเป็นแค่ทหารแก่ ซึ่งผมมองว่าไม่น่ากลัว ถ้าเคลื่อนไหวอย่างเดียวผมเชื่อว่าไม่สามารถล้มรัฐบาลได้ แต่ถ้ามีทหารที่อยู่ในตำแหน่งมาร่วมมือรัฐบาลก็น่ากลัว ดังนั้น ขอให้รัฐบาลอย่ากลัวทหารแก่ แต่ขอให้กลัวทหารที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในตำแหน่ง ในส่วนกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น ผมขอห้ามคนเสื้อแดงมาชุมนุมและขอให้หลีกเลี่ยงการมาอยู่บริเวณที่ชุมนุม เพราะอาจจะตกเป็นเหยื่อได้” นายก่อแก้วกล่าว
อย่างไรก็ตาม ส่วนกรณีที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้ให้การสนับสนุนการชุมนุมของ พล.อ.บุญเลิศนั้น นายก่อแก้วกล่าวว่า ตนก็ขอขอบคุณ แต่ พล.อ.สุรยุทธ์ซึ่งเป็นองคมนตรีและเป็นเพื่อนของ พล.อ.บุญเลิศ หากปฏิเสธว่าไม่ได้ให้การสนับสนุนก็ต้องออกมาห้ามปราม พล.อ.บุญเลิศ เพราะในขณะนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงไม่สบายพระทัย พล.อ.สุรยุทธ์ควรจะหามปราม พล.อ.บุญเลิศไม่ให้ทำร้ายประเทศไทยเพื่อที่สังคมจะได้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก
ที่รัฐสภา นายก่อแก้วยังแถลงถึงกรณีที่ รมว.กระทรวงกลาโหม มีคำสั่งปลดยศของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านฯ เนื่องจากใช้เอกสารเท็จในการสมัครเข้ารับราชการว่า ขณะนี้นายอภิสิทธิ์ได้มีการยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยระบุว่าเป็นการเล่นงานทางการเมือง ทั้งนี้หากเปรียบเทียบในกรณีของนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.ที่มีเจตนาจะออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง แต่ศาลไม่อนุญาติจึงทำให้ถูดถอดพ้นจากการเป็นส.ส. ขณะที่ในกรณีของนายอภิสิทธิ์ก็เป็นที่ชัดเจนแล้วว่ามีเจตนาในการกระทำความผิด ดังนั้นหากไม่มีการถอดถอนให้พ้นจากการเป็น ส.ส. ประเทศจะอยู่ได้อย่างไร เพราะหากเป็นเช่นนั้นจะเป็นการสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับประเทศว่ามีคนที่หนีทหารมาเป็น ส.ส. แต่ตนที่มีเจตนาจะไปใช้สิทธิเลือกตั้งแต่ศาลไม่อนุญาตกลับถูกถอดถอน
ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคนี โฆษกองค์การพิทักษ์สยาม ระบุว่าองค์การพิทักษ์สยามและภาคีเครือข่ายต้องการให้รัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยุติการบริหารราชการแผ่นดินนั้น เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 63 โดยไม่ได้มีความคิดที่จะล้มล้างรัฐบาลหรือเป็นไปตามที่มีคนพยายามเบี่ยงเบนว่า องค์การพิทักษ์สยามจะล้มรัฐบาลโดยอาศัยรัฐธรรมนูญมาตรา 68 มาเป็นเครื่องมือว่า เป็นแนวคิดที่เป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตย เพราะต้องการที่จะเปลี่ยนรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ถือเป็นการยึดอำนาจอีกรูปแบบหนึ่งใช่หรือไม่ ทั้งนี้ อยากเตือนสติประชาชนที่จะมาร่วมชุมนุม รวมถึงกลุ่มทุนที่อาจจะอยากสนับสนุนด้วยว่า ขอให้คิดให้ดีก่อนว่าประเทศไทยวันนี้กำลังเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคม ประชาชนกำลังอยู่ดีกินดี และประเทศก็กำลังเนื้อหอมเพราะผู้นำของนานาประเทศกำลังจะเดินทางมาเยือนประเทศไทย เช่น สหรัฐอเมริกาและจีน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยได้รับความเชื่อมั่นในสายตาของนานาชาติ ตรงข้ามกับการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยามที่มีเป้าหมายหลักที่ต้องการจะล้มรัฐบาล มีแต่จะถอยหลังเข้าคลอง และอาจจะนำประเทศไปสู่ความตกต่ำหรืออาจจะถึงขั้นปิดประเทศได้
นายพร้อมพงศ์กล่าวอีกว่า อยากเรียกร้องไปยังประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยามด้วยว่า ขอให้สื่อสารผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อให้เห็นว่าเราไม่เห็นด้วยและไม่ยอมรับวิธีการขององค์การพิทักษ์สยามในทุกช่องทาง แต่ขอให้ต่อต้านแบบสันติเพื่อไม่ให้กระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ รวมถึงการลงทุนและการท่องเที่ยวภายในประเทศ เพราะหากนานาชาติไม่ยอมรับประเทศไทย ผลกระทบย่อมตกอยู่ที่ความเป็นอยู่ของประชาชน วันนี้ถึงเวลาแล้วที่ประชาชนต้องปกป้องและหวงแหนสิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตย อย่าให้พวกที่อยากจะมีอำนาจแต่ไม่ผ่านการเลือกตั้งมาเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตยได้ อย่างไรก็ตาม ตนได้ข้อมูลมาจากประชาชนด้วยว่า ขณะนี้มีการปลุกระดมประชาชนในท้องถิ่นต่างๆ ผ่านแกนนำและหัวคะแนนของกลุ่มการเมือง ซึ่งเป็นอันตราย เพราะไม่ใช่การชุมนุมเนื่องจากประชาชนได้รับความเดือดร้อน แต่เป็นการชุมนุมที่หวังผลและอำนาจทางการเมืองใช่หรือไม่