รมช.เกษตรฯ แกนนำแดง หยัน “พล.อ.บุญเลิศ” พูดถึงปฏิวัติบ่อยๆ ยิ่งทำให้เสียแต้ม เย้ยชุมนุมไม่กี่ครั้งก็น่าจะเลิก อ้างไม่มีใครเข้าร่วม มั่นใจกองทัพไม่เอาด้วย เชื่อเสื้อแดงรู้ทันไม่ป่วนให้เข้าเกมฝั่งตรงข้าม ปัดข่าวตกลง “จตุพร” เรื่องโควตา รมต.เสื้อแดง อ้างโยนนายกฯ ตัดสิน
วันนี้ (24 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 11.45 น. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การพิทักษ์สยาม ออกมายอมรับว่ามีการพูดคุยเรื่องการทำปฏิวัติว่า การแสดงออกอะไรทางการเมืองแม้จะมีเสรีภาพแต่ก็ต้องเต็มไปด้วยความรับผิดชอบและระมัดระวัง ทั้งนี้ เห็นว่าการชุมนุมของ พล.อ.บุญเลิศ ถือเป็นเรื่องที่ทำได้ แต่ไม่ใช่จะมาชุมนุมโดยกล่าวหาทำลายรัฐบาลโดยปราศจากหลักฐาน แล้วก็พูดถึงการปฏิวัติอย่างคล่องปาก ทั้งที่หากเกิดขึ้นจริงแม้แต่ พล.อ.บุญเลิศก็คงไม่สามารถคาดเดาผลของมันได้ และก็จะไม่มีใครรับผิดชอบสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากการปฏิวัติได้ ดังนั้นคิดว่าประชาชนต้องใช้วิจารณญาณและตัว พล.อ.บุญเลิศนั้นหากอยากจะแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ตนก็อยากจะให้ติดตามสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้นในรอบ 6 ปีที่ผ่านมาให้ชัดเจนเสียก่อนว่าวันนี้ประเทศไทยยืนอยู่ตรงจุดไหน และมีความละเอียดอ่อนอย่างไรที่จะพยายามทำลายรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งด้วยวิธีการที่ไม่ชอบธรรม จึงเกรงว่าสิ่งที่ พล.อ.บุญเลิศทำแทนที่จะได้แต้มอาจจะกลายมาเป็นเสียหาย
“บ้านเมืองนี้ใครอยากทำอะไรก็ทำ โดยเฉพาะคนที่คิดว่ามีอำนาจมีบารมีหรือพรรคพวกที่ทรงอิทธิพล พล.อ.บุญเลิศก็เป็นเพื่อนสนิท พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรีและอดีตนายกฯ ก็มีเครือข่ายเส้นสายโยงใยในแวดวงฝ่ายความมั่นคงพอสมควร แต่ผมถือว่าเมื่อผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่หลักคือทหารที่ประจำการในเวลานี้ และเขาก็ยืนยันชัดเจนว่าการเมืองเป็นเรื่องของการเมือง เราก็สบายใจได้ระดับหนึ่ง แต่คนที่อยู่นอกแวดวงการเมืองและราชการที่ยังไม่ละวางความพยายามที่จะมาสร้างความวุ่นวายทำลายระบอบประชาธิปไตย ผมว่าประชาชนรับไม่ได้ และคิดว่าการที่ พล.อ.บุญเลิศพูดถึงเรื่องการปฏิวัติรัฐประหารบ่อยๆ การชุมนุมของท่านก็คงไปได้ไม่กี่ครั้ง เพราะหาคนร่วมด้วยยาก และการเริ่มต้นแบบนี้ถือว่าล้มเหลวไปแล้วตั้งแต่ต้น” นายณัฐวุฒิกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า อยากให้ พล.อ.บุญเลิศหยุดเคลื่อนไหวเพื่อให้รัฐบาลทำงานก่อนหรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ปล่อยให้ พล.อ.บุญเลิศทำไป จะได้ทราบว่าของจริงเวลาออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองต่างจากสิ่งที่นั่งวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลอยู่ที่ราชตฤณมัยสมาคม (สนามม้านางเลิ้ง) อย่างไร ทั้งนี้ การออกมาสักครั้งสองครั้งก็จะเข้าใจและเชื่อว่าในที่สุดก็จะหยุดไปเอง
เมื่อถามว่า เชื่อว่ากระแสจะไม่จุดติดทำให้เกิดม็อบต่างๆ ออกมาเพิ่มใช่หรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ยังไม่ทันชุมนุม พล.อ.บุญเลิศก็ระบุว่าหากปฏิวัติได้จะปฏิวัติทันที แบบนี้ตนก็ไม่เห็นว่าฝ่ายประชาธิปไตยหรือฝ่ายประชาชนไหนจะมาร่วมชุมนุม และการออกมาพูดแบบนี้นั่นก็หมายความว่า การชุมนุมของกลุ่มดังกล่าวหากเดินต่อไปข้างหน้าจะเป็นการสร้างโอกาสให้มีการปฏิวัติใช่หรือไม่ และระหว่างการชุมนุมก็อาจจะมีการชักชวนใครต่อใครให้ออกมาปฏิวัตรัฐบาลใช่หรือไม่ แต่ตนยังมั่นใจในท่าทีของฝ่ายกองทัพที่ทำหน้าที่อยู่ เพราะชัดเจนมาตลอด
เมื่อถามว่าจะห้ามกลุ่มคนเสื้อแดงไม่ให้เข้ามาชุมนุมหรือไม่ รมช.เกษตรฯ กล่าวว่า ตนคิดว่าคนเสื้อแดงเรียนรู้บทบาทของแต่ละฝ่ายได้ การที่ พล.อ.บุญเลิศแสดงแบบนี้มาตั้งแต่ต้นยกตนยิ่งชอบ และอยากให้สัมภาษณ์บ่อยๆ จะได้เห็นว่าผลตอบกลับที่มาจากประชาชนเป็นอย่างไร ตนคิดว่าคนเสื้อแดงเริ่มชอบ พล.อ.บุญเลิศแล้ว เพราะดูแล้วยิ้มๆ ขำๆ และมั่นใจว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจะไม่ออกมาก่อกวนแน่นอน เพราะรู้ทันว่าหากมีกลุ่มคนเสื้อแดงมาเติมบรรยากาศด้วยนั่นถือว่าเป้าหมายของกลุ่ม พล.อ.บุญเลิศสำเร็จ ฉะนั้นพี่น้องคนเสื้อแดงคงไม่เดินเข้าเกมนี้
เมื่อถามว่า นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ระบุว่า พล.อ.บุญเลิศ มีกลุ่มบ่อนการพนันหนุนเรื่องทุน รมช.เกษตรฯ กล่าวว่า พล.อ.บุญเลิศไม่ได้เดินคนเดียวอยู่แล้วแน่นอน มีพรรคมีพวกและมีเครือข่าย แต่ถ้าไม่มีจิตวิญญาณประชาธิปไตยก็ยากที่จะได้รับการสนับสนุนจากประชาชน เมื่อถามว่า การชุมนุมดังกล่าวถึงขั้นจะล้มรัฐบาลได้หรือไม่ รมช.เกษตรฯ กล่าวว่า เราไม่ได้ปรามาสอะไร แต่เชื่อว่ารัฐบาลชุดนี้แข็งแรงเพียงพอที่จะได้รับการโอบอุ้มจากประชาชนและผลงานที่ผ่านมา
นอกจากนี้ นายณัฐวุฒิยังกล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้มาตกลงกับนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.ว่าใครจะได้เป็นรัฐมนตรีเพียงคนเดียวเท่านั้นว่า การเดินทางไปฮ่องกงเพื่อพบ พ.ต.ท.ทักษิณครั้งนั้น ไม่ได้มีการหารือเรื่องการปรับ ครม. แต่เป็นการเดินทางไปพบปะเพื่อพูดคุยเยี่ยมเยียนกันเท่านั้น ส่วนเรื่องกระแสข่าวที่ว่าให้ตนไปตกลงกับนายจตุพรเรื่องเก้าอี้รัฐมนตรีนั้น ยืนยันว่าไม่มีข้อเท็จจริงแม้แต่น้อย ส่วนตัวคุยกับนายจตุพรทุกเรื่อง แต่เรื่องการปรับ ครม.นั้นเป็นเรื่องที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องใช้วิจารณญาณและขึ้นอยู่กับดุลยพินิจอำนาจหน้าที่ของนายกฯ โดยตรง ตนเองไม่มีอำนาจไปตัดสิน รวมถึงไม่มีเรื่องโควตาที่ว่าจะมีรัฐมนตรีแกนนำ นปช.ได้เพียงตำแหน่งเดียว ทั้งนี้จะไม่ขอตั้งเงื่อนไขใดๆกั บรัฐบาล และพรรคเพื่อไทยในการปรับ ครม.สิ้น