“ปู” ขอพิทักษ์สยามชุมนุมใต้ กม. นิ่งปรับ ครม.-ชูอุตฯ รถยนต์-เกษตรรับประชาคมอาเซียน

รบ.ถกเตรียมพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน นายกฯ วางยุทธศาสตร์ 8 ด้าน เล็งตั้งคณะ กก.ย่อยร่วมทำงาน พร้อมขับเคลื่อนจากกระทรวงสู่พื้นที่รวมไปถึงเอกชน ชี้ภาพใหญ่เห็นตรงกัน ยกอุตสาหกรรมรถยนต์ การเกษตร จุดเด่นไทยดันเป็นศูนย์กลางอาเซียน ลุยขยายเส้นทางลอจิสติกส์เชื่อมการท่องเที่ยว-อุตฯ แก้ปัญหาถนนขาด ขอ ปชช.ปรองดองรับประชาคม อ้าง ตปท.เชื่อมั่น วอนพิทักษ์สยามชุมนุมใหญ่สงบพร้อมฟัง แต่เจอคำถามปรับ ครม.เดินหนี

วันนี้ (24 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน 2558 ครั้งที่ 2 ว่า การประชุมวันนี้ถือว่าเป็นการประชุมเพื่อเตรียมแผนปฎิบัติการในครั้งที่ 2 โดยได้มีการเสนอยุทธศาสตร์รวมทั้งหมด 8 ด้าน ในการทำงานเพื่อเตรียมรองรับการก้าวสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งในส่วนนี้เบื้องต้นจะมีการบูรณาการแผนรวมกัน จากนั้นจะให้ทุกกระทรวงดูในรายละเอียดขั้นตอนการปฎิบัติของแต่ละกระทรวงว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง และเราจะเสนอให้มีการตั้งคณะกรรมการย่อยขึ้นมาทำงานร่วมกัน โดยในระดับกระทรวงวันนี้ได้มีการทำแล้ว และกำลังจะบูรณาการในเชิงลึกลงไป รวมถึงคณะทำงานในระดับพื้นที่ เพราะการทำงานทั้งหมด และการขับเคลื่อนจะลงไปยังแต่ละจังหวัด ก็จะได้เข้าใจแผนและไปดูความพร้อมของแต่ละพื้นที่ว่ามีความพร้อมอย่างไร อย่างในระดับกระทรวงจะดูในเรื่องอุตสาหกรรมว่าแต่ละอุตสาหกรรมมีความพร้อมอย่างไร รวมทั้งในส่วนของภาคเอกชน ซึ่งตรงนี้เป็นการประชุมที่ต่อเนื่อง ทั้งนี้ หลังจากทุกกระทรวงได้รับทราบแผนในวันนี้ (24 ต.ค.) ก็จะนำกลับไปบูรณาการในรายละเอียด เพื่อที่จะกำหนดระยะเวลา และความสำคัญเร่งด่วน จากนั้นเราจะไปนัดประชุมร่วมกันในส่วนของภาคเอกชนและส่วนของจังหวัดอีกครั้งหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้ทุกภาคส่วนมีแนวทางและความเห็นที่ตรงกันแล้วหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ภาพใหญ่เห็นตรงกัน แต่ภาพย่อยต้องลงตามรายละเอียด เช่น ความพร้อมในแต่ละอุตสาหกรรม เราเองอาจจะมองภาพใหญ่ในภาครัฐว่าอุตสาหกรรมนี้เรามีความพร้อม แต่หากเราไปคุยในภาคเอกชนอาจจะต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งแต่ละมุมไม่เหมือนกัน ซึ่งเราจะเสริมในส่วนนี้เข้าไป หรือบางอุตสาหกรรมเมื่อลงไปทำในรายย่อยในจังหวัดเราก็ต้องการเสริมความพร้อมในพื้นที่บ้าง ตรงนี้เราจะลงไปทำเรียกว่าหมุนในแกนของรายอุตสาหกรรมและรายภาค

เมื่อถามว่า การก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน คิดว่าประเทศไทยมีอะไรที่โดดเด่นที่สามารถโชว์ในกลุ่มประชาคมอาเซียนได้ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ในภาคที่เราโดดเด่นคือด้านอุตสาหกรรมรถยนต์ ขณะเดียวกันเราอยากเสริมเรื่องของแรงงานต่างๆ ซึ่งเป็นส่วนที่ต้องคุยกัน นอกจากนี้ยังมีความโดดเด่นในภาคการเกษตร โดยเราต้องพัฒนาพื้นที่ต้นน้ำ ความโดดเด่นในภาพใหญ่เราเห็น แต่รายละเอียดต้องลงไปทำงานในพื้นที่ ซึ่งต้องขอให้พื้นที่ทำงานทั้งหมดก่อน พร้อมบูรณาการกับภาคเอกชน จึงจะเห็นได้ว่าแต่ละที่มีความต้องการอย่างไร ดังนั้นวิธีการทำงานจะมองในมุมที่ว่าส่วนไหนมีความพร้อม วิธีการดูแลภาพรวมจะเป็นอย่างไร แต่ถ้าส่วนไหนยังไม่พร้อมจะเข้าไปช่วยเหลืออย่างไร เป็นการเรียงลำดับความสำคัญและความเร่งด่วนของงาน

เมื่อถามว่า ภาคอุตสาหกรรมอยากให้ปรับลดค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท นายกฯ กล่าวว่า วันนี้เป็นภาพใหญ่ยังไม่ไปรายละเอียดตรงนั้น เมื่อถามว่าความตั้งใจที่จะเป็นศูนย์กลางอาหารและคมนาคม นายกฯ กล่าวว่า ทุกอย่างยังอยู่ ความตั้งใจตรงนั้นยังอยู่ตามนโยบายที่เราได้แถลงไว้ แต่วันนี้อยู่ที่ขั้นตอนการปฎิบัติ ซึ่งจะต้องเรียงลำดับอย่างไร เช่น เรื่องของการเชื่อมต่อขยายเส้นทางระบบโลจิสติกส์ ซึ่งจะต้องเชื่อมด้านภาคอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว หรือการเชื่อมโยงกับหน่วยใหญ่ หรือเมืองสำคัญต่างๆ หรือการขนส่งที่จะลดระยะเวลาในการทำงานซึ่งตรงนี้ต้องมีการบูรณาการ ทั้งนี้จะเห็นว่า จากการที่เราลงไปในพื้นที่ฝั่งอ่าวไทย และหลายๆพื้นที่จะเห็นว่าบางพื้นที่เส้นทางขาดการเชื่อมโยงประมาณ 2-3 กิโลเมตร ซึ่งตรงนี้ก็จะลงในรายละเอียดเพิ่มเติม

เมื่อถามว่า ไทยจะก้าวสู่ประชาคมอาเซียนในระหว่างที่ประชาชนในชาติยังปรองดองไม่สำเร็จ นายกฯ จะขอความร่วมมืออย่างไร เพราะประชาชนเป็นส่วนหนึ่งที่จะผลักดันให้ไทยก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนอย่างสวยงาม น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า เราพูดกันหลายครั้ง อยากเห็นเราร่วมกันพูดคุยกัน และหารือเพื่อหาทางออกให้ประเทศ เพราะพื้นฐานสำคัญของทุกประเทศในการพัฒนาเศรษฐกิจ คือทำอย่างไรให้บรรยากาศของประเทศมีความราบรื่นปรองดอง ซึ่งตรงนี้จะส่งเสริมให้ทางด้านต่างประเทศเกิดความมั่นใจ ดังนั้นต้องขอความร่วมมือ

เมื่อถามว่า กลุ่มองค์กรพิทักษ์สยามจะชุมนุมใหญ่หยุดวิกฤตและหายนะของชาติ ในวันที่ 28 ต.ค. จะทำให้สะดุดหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ถ้าเป็นการชุมนุมโดยสงบถือเป็นสิทธิ์ในเชิงประชาธิปไตยทำได้ แต่อย่างไรขอความร่วมมือให้อยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย และอยู่ในความสงบ อันนี้จะทำให้หลายๆท่านไม่มีความกังวล เรายินดีพร้อมรับฟังข้อคิดเห็น

เมื่อถามว่า ถึงเวลาปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ตอบคำถาม พร้อมเดินขึ้นรถยนต์ประจำตำแหน่งเตรียมที่จะเข้าตึกไทยคู่ฟ้า เมื่อถามว่ากลิ่นปรับ ครม.แรงมาก นายกฯ ชะโงกหน้าในรถพร้อมกับถามว่า “กลิ่นอะไรคะ” สื่อมวลชนจึงตอบว่ากลิ่นปรับ ครม. นายกฯ ถึงกลับยิ้มแบบอารมณ์ดีแต่ไม่ตอบว่าจะปรับ ครม.หรือไม่