“เหลิม บางบอน” ท่องบทเดิม ชม “เพรียวพันธ์” เก่ง แต่จะนั่งรองนายกฯอยู่ที่ “ปู” ทำนิ่งไม่ตอบควบ มท.1 โต้ “มาร์ค” เข้าใจผิด ปัดใช้งบสานเสวนาไปหาเสียง อ้างเดินสายปราบยา หากลุยสานเสวนา “ธงทอง” ต้องร่วมด้วย แถ 2 อดีตสมาชิกไทยรักไทยมีประสบการณ์ เหมาะถกปรองดอง แย้มว่างอาจปราศรัยด้วย-เผยเตรียมถก ตร.ภูธร ภ.8 ดูแลต่างชาติ ในสมุย รับเปิดประชาคมอาเซียน
วันนี้ (21 ต.ค.) ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการปรับคณะรัฐมนตรี หลังโพลระบุ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สมาชิกพรรคเพื่อไทย เหมาะสมนั่งรองนายกรัฐมนตรี ว่า เรื่องปรับ ครม.ไปก้าวล่วงไม่ได้ ขอไม่พูดอะไรมาก ในส่วนของ พ.ต.อ.เพรียวพันธ์ ถือเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ มีชื่อเสียง เชียร์มานานแล้ว แต่จะมาเป็นรองนายกฯหรือไม่ ตอบไม่ได้ ส่วนที่มีข่าวว่า นายกฯจะให้ไปนั่งเป็น รมว.มหาดไทย นั้น เป็นเรื่องที่นายกฯจะพิจารณา ไปพูดอะไรมากไม่ได้
ร.ต.อ.เฉลิม ยังได้กล่าวถึงกรณีการสานเสวนาเพื่อความปรองดองของรัฐบาล ของพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งข้อสังเกตว่า ไม่สามารถนำไปสู่ความปรองดองได้จริง แต่เป็นการเอางบประมาณไปปราศรัยหาเสียง ว่า ที่ผ่านมา ตนเป็นรองนายกฯ ดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินขจัดสิ้นยาเสพติด มีโอกาสได้เดินสายไปประชุมร่วมกับตำรวจ ผู้ว่าราชการจังหวัด รวมถึงกระทรวงมหาดไทย การเดินทางไปแต่ละครั้ง จึงไปเพื่อภารกิจปราบปรามยาเสพติด ใช้งบประมาณหน่วยใครหน่วยมัน กรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุเช่นนั้น จึงเป็นการเข้าใจผิด หากตนทำในฐานะประธานคณะกรรมการประสานและติดตามผลการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.) จะมี นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการเดินทางไปด้วย ทั้งนี้ เพื่อสานเสวนาหาข้อยุติเพื่อความปรองดอง
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีการนำ นายอดิศร เพียงเกษ นายสุธรรม แสงประทุม อดีตสมาชิกพรรคไทยรักไทย ที่เดินทางไปร่วมด้วยนั้น เป็นเพราะทั้ง 2 เคยมีประสบการณ์ ได้รับผลประโยชน์จากการปรองดอง เป็นอดีตรัฐมนตรีด้วยกันทั้งคู่ จึงเข้าใจ ซึมซับเรื่องดังกล่าวดี สามารถบอกแนวคิดได้ ทั้งนี้ ทั้ง นายอดิศร และ นายสุธรรม พร้อมจะรับผิดชอบเนื้อหาที่พูด ถ้าผิดกฎหมายก็ต้องถูกดำเนินคดี ส่วนตนถ้าไปนอกเวลาราชการก็สามารถปราศรัยได้
ขณะเดียวกัน ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวถึงการให้นโยบายเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 8 ในวันนี้ (21 ต.ค.) ว่า จะเน้นการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ทั้งคนไทยและต่างชาติ การดูแลเรื่องการปราบปรามยาเสพติด และในฐานะที่พื้นที่เกาะสมุย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวนานาชาติ จะให้แนวทางของการเตรียมการเปิดประชาคมอาเซียน เพื่อให้เหมาะกับสถานการณ์ให้ตำรวจเป็นที่รัก และชื่นชอบของประชาชน นักท่องเที่ยวทั้งในและนอกพื้นที่