xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” อัด “ปู” ป้ายสี “ม็อบ เสธ.อ้าย” ขวาง ปชต.-เตือนใช้ “พ.ร.บ.มั่นคง” อย่าให้ตึงเครียด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร (ภาพจากแฟ้ม)
ผู้นำฝ่ายค้านตอกนายกฯ พูดที่อังกฤษกล่าวหาม็อบ เสธ.อ้ายขัดขวางประชาธิปไตย ท้าทายผู้ชุมนุม ซัดสร้างภาพเฉพาะ “รัฐบาล-เพื่อไทย” แต่พฤติกรรมตรงกันข้าม ชี้พูดแบบนี้ไร้ประโยชน์ วอนประสานผู้ชุมนุมทำตาม กม.ร้องหากใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงอย่าให้ตึงเครียด ไล่ “เฉลิม” ออกไปถ้ายังโยนภาระให้ข้าราชการประจำ เตือนคนรัฐบาลหยุดให้สัมภาษณ์ท้าทาย- ดูแคลน-ใส่ร้ายป้ายสี หันมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้มาก

วันนี้ (16 พ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการชุมนุมในวันที่ 24 พ.ย.นี้ว่า เริ่มมีความตึงเครียดมากขึ้น จึงอยากให้รัฐบาลคลี่คลายบรรยากาศด้วยการประสานผู้ชุมนุมเกี่ยวกับการชุมนุมตามกรอบของกฎหมาย เพราะยังไม่เห็นฝ่ายใดที่จะดำเนินการในลักษณะสร้างความวุ่นวาย แต่ถ้าคนของรัฐบาลยังให้สัมภาษณ์ในลักษณะตอบโต้กันไปมา หรือดูหมิ่น ท้าทาย จะทำให้บรรยากาศตึงเครียดเปล่าๆ ทั้งนี้ตนไม่ทราบว่าที่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. เสนอให้ใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงดูแลการชุมนุมครั้งนี้นั้น คงต้องดูว่ารัฐบาลมีข้อมูลอย่างไร แต่ขอว่าอย่าทำให้บรรยากาศตึงเครียด หรือเกิดความรู้สึกท้าทายกัน ทั้งนี้ เงื่อนไขในการประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคงต้องดูในเชิงเหตุการณ์ว่าจะลุกลามจนกระทบความมั่นคงอย่างไร และความจำเป็นว่าจะต้องใช้อำนาจเจ้าหน้าที่ส่วนไหนตามกฎหมายความมั่นคง

ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวด้วยว่า การที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า รัฐบาลเป็นคู่กรณีกับผู้ชุมนุมจึงมอบหมายให้ ผบ.ตร.เป็นผู้ดูแลว่า ฝ่ายการเมืองจะลอยตัวไม่ได้ เพราะในที่สุดอำนาจการใช้กฎหมายก็ต้องเป็นการตัดสินใจของฝ่ายการเมือง เช่นการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ก็ต้องเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. โดยฝ่ายการเมืองต้องติดตามปฏิบัติการต่างๆ ตามอำนาจหน้าที่โดยตรง ทั้งนี้ หากรัฐบาลจะใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงก็ต้องตั้งคณะกรรมการอำนวยการรักษาความสงบในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. ซึ่งตามโครงสร้างนายกรัฐมนตรีจะเป็นประธาน หรือมอบหมายให้รองนายกฯ เป็นประธานก็ได้ ดังนั้นฝ่ายการเมืองต้องเข้ามาแก้ปัญหาตามโครงสร้างของกฎหมายอยู่แล้ว เช่น กอ.รมน. นายกฯ ดำรงตำแหน่งและบุคคลที่นายกฯ มอบหมายสายการบังคับบัญชาจึงไม่มีความสับสน แต่มีความชัดเจนตามกฎหมาย จะโยนความรับผิดชอบให้กับข้าราชการประจำไม่ได้

“ผมคิดว่าในที่สุด ร.ต.อ.เฉลิม ซึ่งอยู่ในตำแหน่งรองนายกฯ และเป็นรอง กอ.รมน. ต้องทำหน้าที่ของตนเอง ถ้าได้รับมอบหมายจากนายกฯ ให้ทำหน้าที่อะไรก็ต้องปฏิบัติตามนั้น ไม่อย่างนั้นก็ต้องออกจากตำแหน่งไป ที่สำคัญผมคิดว่าการที่ ร.ต.อ.เฉลิมพยายามกล่าวหาพรรคการเมืองว่าอยู่เบื้องหลังการชุมนุมนั้นไม่เป็นความจริง ผมยังไม่เห็นพรรคการเมืองไหนไปทำอย่างนั้น การกล่าวหาแบบนี้ยิ่งทำให้เกิดความสับสนวุ่นวาย ตึงเครียด เพราะประชาชนที่อยากแสดงออก ถ้าไปหาว่าเขาเป็นคนรับจ้างมาก็จะยิ่งมีอารมณ์” นายอภิสิทธิ์กล่าว

นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า ตนแนะรัฐบาลว่าควรตั้งหลักด้วยการดูแลไม่ให้มวลชนสองกลุ่มปะทะกัน เพราะฝ่ายหนึ่งเป็นผู้สนับสนุนรัฐบาลก็ต้องพูดจากันได้ และคนในรัฐบาลมีความคุ้นเคยกับผู้จัดการชุมนุมก็ควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิการชุมนุมของแต่ละฝ่ายว่าเป็นอย่างไร หยุดให้สัมภาษณ์ที่จะสร้างบรรยากาศไม่ดี ทั้งการท้าทาย ดูแคลน หรือใส่ร้ายป้ายสี เป็นเรื่องไม่ควรทำ ทั้งนี้ตนอยากให้รัฐบาลเอาใจใส่กับปัญหาทางเศรษฐกิจให้มาก เพราะเงื่อนไขที่ประชาชนไม่พอใจมีส่วนจากเศรษฐกิจที่เป็นผลกระทบจากนโยบายของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นของแพง ผลกระทบเศรษฐกิจโลก นโยบายของรัฐบาลที่สร้างปัญหา เช่น นโยบายค่าแรง 300 บาทที่จะมีผลต้นปีหน้าจะเกิดปัญหาการเลิกจ้าง และธุรกิจขนาดกลางขนาดย่อมที่ยังไม่สามารถปรับตัวได้ รัฐบาลต้องไปดูแล

ส่วนกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวสุนทรพจน์ที่ประเทศอังกฤษในตอนหนึ่งระบุว่า ประเทศไทยยังมีกลุ่มบุคคลที่ขัดขวางระบอบประชาธิปไตยจะกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศหรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การพูดเช่นนี้จะยิ่งทำให้เกิดความรู้สึกท้าทายเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน ทั้งที่ควรทำความเข้าใจกันดีกว่า ทั้งนี้ตนคิดว่าที่นายกฯ พูดเช่นนั้นเพราะพยายามที่จะออกตัวแทนการสนับสนุนกลุ่มมวลชนที่ชุมนุมผิดกฎหมายครั้งที่ผ่านมา และพยายามจะให้สังคมโลกเข้าใจว่ามีเฉพาะรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยเท่านั้นที่เป็นฝ่ายประชาธิปไตย ซึ่งไม่เป็นความจริง และที่สำคัญคือพฤติกรรมของรัฐบาลไม่ได้บ่งบอกความเป็นประชาธิปไตยที่จะยอมรับการตรวจสอบอำนาจ และคำพูดของนายกฯ ยังทำให้เกิดความตึงเครียดภายในประเทศโดยเปล่าประโยชน์ ซึ่งตนอยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันให้บ้านเมืองผ่านสถานการณ์นี้ไปอย่างราบรื่น โดยเฉพาะรัฐบาลจะต้องเป็นผู้นำในการแก้ปัญหา ขณะที่แกนนำผู้ชุมนุมก็ขอให้ปฏิบัติตามกฎหมาย

สำหรับกรณีที่มีกระแสข่าวว่าจะมีแดงเทียม 5 พันคนเข้ามาสร้างสถานการณ์ปั่นป่วนการชุมนุมนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เป็นชุดเดียวกับแดงเทียมเดิมหรือไม่ ทั้งนี้อยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันป้องกันไม่ให้มีการสร้างสถานการณ์ที่จะนำไปสู่ความรุนแรง ซึ่ง พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย ที่เป็นผู้นัดการชุมนุมก็ต้องดูแลให้ทุกอย่างเรียบร้อย ส่วนกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิมระบุว่าการชุมนุมครั้งนี้เป็นการล้มรัฐบาลแต่การชุมนุมของคนเสื้อแดงในปี 52 และ 53 เป็นประชาธิปไตยนั้น ตนคิดว่ามีความชัดเจนอยู่แล้ว โดยเฉพาะในปี 2553 เป็นการชุมนุมที่ศาลได้ชี้แล้วว่าใช้สิทธิเกินขอบเขตของรัฐธรรมนูญ


กำลังโหลดความคิดเห็น