xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กโอ๋” เย้ย “มาร์ค” อยากฟ้องศาลถูกปลดทหารก็ฟ้องไป ท้าเปิดหลักฐานกลางสภา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม (ภาพจากแฟ้ม)
“สุกำพล” ไม่หวั่น “อภิสิทธิ์” ฟ้องศาลปกครองไต่สวนปลดทหารมิชอบ มั่นใจไม่ได้ทำอะไรผิด ยันไม่ได้กลั่นแกล้ง ท้ากางหลักฐานกลางสภา อ้างคนละเรื่องถอดยศทักษิณเพราะเข้าเป็นตำรวจถูกต้อง ลั่นถ้าผิดจริงพร้อมขอโทษแถมขอขมา

วันนี้ (15 พ.ย.) ที่กระทรวงกลาโหม เมื่อเวลา 16.00 น. พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นฟ้องศาลปกครองเพื่อขอให้ดำเนินการไต่สวนกรณีที่ลงนามปลดนายอภิสิทธิ์ออกจากราชการว่า ถือว่าเป็นเรื่องของนายอภิสิทธิ์ หากมีการฟ้องร้องต้องสู้กัน ส่วนเงื่อนไขที่นายอภิสิทธิ์ใช้เป็นข้ออ้างในการฟ้องร้องทำได้หรือไม่นั้น คงเป็นเรื่องเร็วเกินไปที่จะตอบ เพราะยังไม่ทราบว่าเขาจะฟ้องอะไร ทั้งนี้ตนมั่นใจว่าการดำเนินการดังกล่าวไม่ได้กระทำผิดตามมาตรา 157 ตามที่พรรคประชาธิปัตย์กล่าวหา ถ้าเขาฟ้องก็ให้ฟ้องไปแล้วมาสู้กัน ไม่มีปัญหา ขอยืนยันว่าดำเนินการทุกอย่างตามขั้นตอนที่ถูกต้อง

เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่ากระทรวงกลาโหมกำลังดำเนินการสอบสวนนายกรณ์ จาติกวณิช และนายศิริโชค โสภา เรื่องการหนีทหาร พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า ทางกระทรวงกลาโหมไม่เคยมีความคิดเรื่องนี้และตนไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้ เรื่องนี้ไม่ได้ออกมาจากกระทรวงกลาโหม และตนไม่เคยตรวจสอบทั้งสองบุคคล เพราะเราจะตรวจสอบเฉพาะคนที่มีเรื่องร้องเรียนเข้ามาเท่านั้น เช่นกรณีนายอภิสิทธิ์ ส่วนนายกรณ์กับนายศิริโชคไม่ได้ตรวจสอบและไม่คิดจะสอบ ไม่ทราบว่าใครเป็นคนกุข่าว เพราะตนไม่เคยพูดถึงสองชื่อนี้เลย ทั้งนี้ตนไม่รู้สึกหนักใจทุกรูปแบบ ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะยื่นถอดถอนออกจากตำแหน่ง หรือจะฟ้อง ป.ป.ช. ตนดำเนินการมาอย่างนี้แล้วจะหนักใจได้อย่างไร ขอร้องว่าอย่าพูดโกหกกันมาก ไปอ้างโน่นอ้างนี่ว่าทางกฤษฎีกาไม่ให้ลงโทษแล้ว ถ้าไปอ่านให้ดี เป็นคนละเรื่อง พูดไม่ตรงประเด็น ซึ่งตนไม่กลัว และพิสูจน์ได้ว่านายอภิสิทธ์ไม่ได้ผ่านการเกณฑ์ทหารจริง รวมทั้งการใช้เอกสารเท็จในการเป็นทหาร ถ้าแน่ใจต้องมาถามกันที่สภาฯ จะได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ไม่ต้องรออกทีวี ขอให้ออกสภาฯ เลยดีกว่า โดยมาชี้แจงกันตามหลักฐาน นายอภิสิทธิ์กล้านำเอกสารมายื่นหรือไม่ เพราะหลักฐานไม่มีความจริง

“วันนี้เรื่องต่างๆ ค่อนข้างชุกเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการเดินขบวน การอภิปรายไม่ไว้วางใจ การยื่นถอดถอนนายอภิสิทธิ์ อยากให้เกิดแล้วจบกันตรงนี้ไปเลย ผมขอย้ำว่าไมได้แกล้ง อยากให้คนกลางช่วยดูว่าผมกลั่นแกล้งหรือไม่ ผมเตรียมข้อมูลต่างๆ ที่คิดว่าน่าจะถูกอภิปราย ตั้งแต่เรื่องการถอดถอนนายอภิสิทธิ์ ซึ่งเรื่องนี้อยากให้ฝ่ายค้านถามผม จะได้รู้ว่าเป็นอย่างไร ผมมีสิทธิ์ออกคำสั่งหรือไม่ ผมไม่อยากตอบเรื่องนี้แล้ว อยากเก็บไว้ตอบในสภาฯ ทีเดียว การที่ผมลงนามคำสั่งปลดนายอภิสิทธิ์เมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา การลงนามก่อนหรือหลังยื่นอภิปรายมีค่าเท่ากัน คิดว่าการลงนามก่อนที่จะยื่นอภิปรายฯ ดีกว่าเสียอีก แต่คิดว่าไม่ใช่ประเด็นหลักว่าจะยื่นก่อนหรือหลัง แต่ขอให้ไปดูที่สาเหตุแรกว่าคืออะไร นายอภิสิทธิ์หนีทหาร และใช้เอกสารเท็จจริงหรือไม่ อยากให้พูดถึงประเด็นหลัก อย่าพูดถึงประเด็นรอง หาว่าตนแกล้งอย่างโน่นอย่างนี้หรือมีคนอยู่เบื้องหลัง เพราะความจริงก็คือความจริง วันอภิปรายจะได้เห็นกัน ขอให้ถามมา เรื่องนี้เป็นเรื่องของลูกผู้ชาย คนที่สอนทหารให้เป็นทหาร แต่ใช้เอกสารเท็จในการเป็นทหาร ถ้าผมเป็นนักเรียน จปร.อยู่ตรงนั้น ผมก็ไม่พอใจ ส่วนสัสดีที่เคยช่วยกันไว้ก็ไปกล่าวหาว่า ออกเอกสารเท็จให้ ผมจะพิสูจน์ให้ดูว่าเป็นอย่างไร” พล.อ.อ.สุกำพลกล่าว

เมื่อถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์อ้างว่า พล.อ.นิพนธ์ ธีระพงษ์ อดีตเจ้ากรมสื่อสารทหารบกที่เคยถูกดำเนินการให้ถอดยศ แต่คณะกรรมการกฎีการะบุว่าไม่สามารถทำได้ เพราะ พล.อ.นิพนธ์เกษียณอายุราชการไปแล้ว พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า ตนสามารถดำเนินการได้ เพราะขณะนี้นายอภิสิทธิ์อายุ 46 ปี เป็นทหารนอกประจำการ ต้องไปดูคำจำกัดความให้ดีว่าทหารมีกี่ชนิด และตนยังสามารถควบคุมได้หรือไม่

พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า ตนดำเนินการตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยวินัยทหารปี 2476 ธรรมเนียมทหารต้องดูให้ดีว่าดำเนินการอย่างไร ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินระบุว่า หลังตรวจสอบแล้วให้ยุติการดำเนินการเรื่องนี้ เพราะหน้าที่ต่อไปเป็นหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งก็ถูกต้อง แต่เป็นการยุติเรื่องที่มีผู้ร้องเรียนตนว่า ตนไม่ทำเรื่องนี้ ส่วนกระทรวงกลาโหมจะดำเนินการอะไรต่อก็เป็นสิทธิของกระทรวงกลาโหม และสามารถดำเนินการได้เลย และรายงานให้สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินทราบ โดยไม่ได้บอกให้หยุดดำเนินการ ส่วนที่นำกรณีดังกล่าวไปเทียบเคียงกับกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นั้นไม่ถูกต้อง เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณเข้ามารับราชการตำรวจอย่างถูกต้อง แต่ในส่วนของนายอภิสิทธิ์นั้น ยศที่ได้ไป คือ ทรัพย์สินของกระทรวงกลาโหมถือเป็นสิ่งมีค่าของกระทรวงกลาโหม ซึ่งนายอภิสิทธิ์ได้ไปไม่ถูกต้องจึงต้องดำเนินการปลอดและทวงเอายศคืนมา ถ้าทำถูกต้องตนจะไม่ทวง เรื่องนี้หากตนทำไม่ถูกต้องพร้อมขอโทษและขอขมา ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์หนังสือขอความเป็นธรรมมานั้น ตนจะดำเนินการตอบไปว่า เรื่องนี้ไม่มีปัญหา ส่วนเรื่องยืดยาวไม่จบสักทีเพราะมีคนไม่จริงจังทำเรื่องนี้สักทีจึงไม่จบ เพราะมีการช่วยเหลือกัน แต่วันนี้ตนจริงจังในเรื่องนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น