“สตช.” สองมาตรฐาน-ลักไก่ไม่ถอดยศนักโทษหนีคุก

>>> ตรงเป้า

ศรรามา

ประชุมสภาผู้แทนราษฎรไม่ไว้วางใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย 25-27 พฤศจิกายน 2555

อันที่จริงประชาธิปัตย์ตั้งใจจองกฐินแค่ 3 คน ยิ่งลักษณ์ พล.อ.อ.สุกำพล และ พล.ต.ท.ชัจจ์ ทั้งไม่ไว้วางใจและถอดถอนจากตำแหน่งเพราะทั้งสามใกล้ชิดแทบจะเป็นเนื้อเดียวกับทักษิณ ชินวัตร และฝ่ายค้านมีข้อมูลในด้านการบริหารที่ปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตเกิดขึ้นเมื่อตีวัวไม่ได้เพราะอยู่ไกลถึงดูไบก็ต้องตีคราดให้กระทบวัว

ส่วน ร.ต.อ.เฉลิมนั้นครั้งแรกประชาธิปัตย์ไม่เอา แต่ ร.ต.อ.เฉลิมท้าทายทุกวันให้ใส่ชื่อไปด้วย ประกอบกับนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ซึ่งอยู่ในซีกฝ่ายค้านและเป็นคู่กัดถาวรขออภิปราย ร.ต.อ.เฉลิมด้วย ประชาธิปัตย์จึงไม่ขัดข้องและวางตัวนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรังแตะมือกับนายชูวิทย์

นายสาทิตย์อภิปรายเรื่อง ร.ต.อ.เฉลิมซึ่งกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุก 2 ปี และคดีถึงที่สุดซ้ำยังเข้าหลักเกณฑ์ระเบียบการถอดยศนายตำรวจสัญญาบัตรด้วย

ก่อนหน้าจะมีการอภิปรายเรื่องนี้ ร.ต.อ.เฉลิมพูดเรื่องถอดยศทักษิณหลายครั้งหลายหน โดยยืนยันว่าเป็นเรื่องกลั่นแกล้งทางการเมืองเป็นคดีการเมืองไม่ใช่คดีอาญาซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิมบอกว่าแม้แต่ศาลที่ตัดสินคดีนี้ยังมีชื่อ “ศาลฎีกาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง” โดยจงใจไม่เอ่ยคำว่า “แผนกคดีอาญา”

“ทักษิณไม่ได้ทำผิดกฎหมาย แต่ทำในสิ่งที่กฎหมายห้าม” ร.ต.อ.เฉลิม ดอกเตอร์กฎหมายจากรามคำแหงเล่นลิ้น

“นอกจากไม่ถอดยศแล้วยังจะเพิ่มยศให้เป็นพลตำรวจเอกด้วย” ร.ต.อ.เฉลิมเหิมเกริมถึงขีดสุด ทั้งๆ รู้ดีว่าการแต่งตั้งยศสัญญาบัตรและการถอดยศนั้นเป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ และต้องเป็นพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ก็ไม่รู้ว่าขี้กลากกินกบาล ร.ต.อ.เฉลิมบ้างหรือเปล่า

ร.ต.อ.เฉลิมตอบคำถามนายสาทิตย์รอบแรกแล้วมาชี้แจงในรอบสองเอาเอกสารมาอ่าน 2 ฉบับ บอกว่าจะได้จบเรื่องนี้เสียทีจะได้ไม่ต้องมาเป็นประเด็นวนเวียนซ้ำซาก

เอกสารฉบับแรกเป็นหนังสือของ พล.ต.ท.ยงยศ นาคเฉลิม ผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล (ปัจจุบันเป็นหัวหน้าจเรตำรวจ สบ 8) ถึง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเรื่องการถอดยศทักษิณตามที่พล.ต.ต.ปัญญา เอ่งฉ้วน ผู้บังคับการกองวินัย (ปัจจุบันเป็นรองผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี) เสนอให้ถอดยศทักษิณได้ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาส่งผลการพิจารณามาให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

พล.ต.ท.ยงยศเสนอให้ชะลอเรื่องการถอดยศทักษิณไปก่อนเพราะสถานการณ์บ้านเมืองไม่ปกติไม่ว่าจะถอดยศทักษิณหรือไม่ถอดก็เกรงว่าจะเกิดความวุ่นวายขึ้นเนื่องจากมวลชนสองฝ่ายยังมีปัญหาขัดแย้งกันอยู่จนถึงปัจจุบันซึ่ง พล.ต.ท.ยงยศหมายถึงกลุ่มคนเสื้อแดงและเสื้อเหลือง

สาธารณชนรับรู้ว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติดองเรื่องถอดยศนักโทษหนีคุกไว้ก่อน เพราะ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ใกล้เกษียณอายุราชการ ไม่มีทางจะดำเนินการถอดยศน้องเขยตัวเองซึ่งก็เป็นดั่งที่คาดหมาย พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ชิ่งหนีภารกิจนี้แล้วหาจังหวะโอกาสจัดการกับปัญหา

และแล้ว ร.ต.อ.เฉลิมก็เปิดเผยเอกสารสำคัญเป็นคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติลงวันที่15 กรกฎาคม 2555 ลงนามโดย พล.ต.ท.เจตน์ มงคลหัตถึ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติโดยมีใจความสรุปว่าไม่สมควรดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เนื่องจากเป็นผู้สร้างคุณประโยชน์แก่ตำรวจและไม่ได้นำความเสื่อมเสียมาสู่หมู่คณะ

ร.ต.อ.เฉลิมประกาศก้องสภาถ้าใครไม่พอใจก็ไปแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ได้ไม่ใช่มาดำเนินคดีกับตนและย้ำว่าทักษิณไม่ได้ทุจริตศาลแพ่งพิพากษาแล้วให้สัญญาซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษกเป็นโมฆะเท่ากับทักษิณไม่ได้กระทำผิดไม่ได้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงจึงไม่เข้าหลักเกณฑ์การถอดยศ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านยืนยันว่าสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาแล้ว ความผิดของทักษืณเข้าหลักเกณฑ์เพราะถูกพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกการที่ศาลแพ่งพิพากษาก็ยึดคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นหลัก เมื่อศาลฎีกาฯ พิพากษาว่าเป็นความผิดตามกฎหมาย ป.ป.ช.มาตรา 100 สัญญาซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษกก็ต้องเป็นโมฆะไปตามระเบียบ

ถ้าอย่างนั้นมาดูกฎหมาย ป.ป.ช.หมวด 9 การขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวมมาตรา 100 ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดดำเนินกิจการดังต่อไปนี้

(1) เป็นคู่สัญญาหรือมีส่วนได้เสียในสัญญาที่ทำกับหน่วยงานของรัฐที่เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้นปฏิบัติหน้าที่ในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีอำนาจกำกับดูแลควบคุมตรวจสอบหรือดำเนินคดี

เจ้าหน้าที่ของรัฐตำแหน่งใดที่ต้องห้ามมิให้ดำเนินกิจการตามวรรคหนึ่งให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา

ให้นำบทบัญญัติในวรรคหนึ่งมาใช้กับคู่สมรสของเจ้าหน้าที่ของรัฐตามวรรคสองโดยให้ถือว่าการดำเนินกิจการของคู่สมรสดังกล่าวเป็นการดำเนินกิจการของเจ้าหน้าที่ของรัฐ

สำหรับประกาศของคณะกรรมการ ป.ป.ช.เรื่องกำหนดตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ต้องห้ามมิให้ดำเนินกิจการตามความในมาตรา 100 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 พ.ศ. 2544 อันดับ 1 นายกรัฐมนตรี อันดับ 2 รัฐมนตรี

ก็เป็นอันว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ “ลักไก่” ไม่ถอดยศทักษิณนักโทษหนีคุก เป็นคำสั่งที่ออกในสมัย พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่ให้ พล.ต.ท.เจตน์เซ็นคำสั่งในฐานะรักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแล้วปิดบังไม่ให้สาธารณชนรับรู้มาเป็นเวลากว่า 4 เดือน ร.ต.อ.เฉลิมเพิ่งนำมาเปิดเผยในสภา

ปัจจุบัน พล.ต.ท.เจตน์ มงคลหัตถีได้รับความดีความชอบเลื่อนตำแหน่งเป็นที่ปรึกษา สบ 10 และเลื่อนยศเป็นพลตำรวจเอก

นายชลอ เกิดเทศ อดีตพลตำรวจโท ต้องคำพิพากษาศาลถึงที่สุด ถูกถอดยศและถูกเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ มันแตกต่างจากคดี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตรงไหน!?