“พิภพ” เชื่อ “ยิ่งลักษณ์” ตกม้าตายปมเงินชดเชย 7 ล้าน ข้องใจ “มาร์ค” อยากปรองดองทำไมไม่ใช้เสียงในสภาเสนอ พ.ร.บ. ด้าน “ชัชวาลย์” ยันนักการเมืองล้วนเจ้าเล่ห์ แนะจับตาดันทุรังทำในเรื่องไม่ถูกต้อง ค่อยออกมาชุมนุม
วานนี้ (2 ส.ค.) นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และนายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย นักวิชาการอิสระ ร่วมวิเคราะห์พ.ร.บ.ปรองดองจะทำให้บ้านเมืองปรองดองได้จริงหรือไม่ผ่านรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV
นายพิภพกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เลือกที่จะส่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คนที่ไม่มีประสบการณ์ทางการเมือง ความสวยสวนทางกับความฉลาดมานั่งเก้าอี้นายกฯ วางเป้าทำหน้าที่ ยกเลิกคดีความทั้งหมดและคืนเงินที่ถูกยึด เพราะจับได้ว่าสังคมไทยอินตามละครน้ำเน่า นางเอกสวยไม่ค่อยฉลาด หากถูกรังแกแล้วจะเรียกความสงสารได้
ทั้งหมดถูกวางหมากไว้อย่างแยบยล จัดให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นสมาชิกพรรคอย่างเดียว ไม่ต้องเป็นกรรมการบริหารพรรคเพื่อป้องกันไม่ให้ติดบ่วงทางกฎหมาย เหมือนนายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เพราะหากทำผิดพลาดถึงขั้นยุบพรรค ก็ยังสามารถเอาเป็นตัวชูโรงรวมรวมตั้งพรรคขึ้นใหม่ได้
นอกจากนี้ยังพยายามยื้อให้อยู่จนครบ 4 ปี ด้วยการดึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ออกจากความเสี่ยงทั้งหลาย ไปสภาให้น้อยที่สุดเพื่อเลี่ยงถูกฝ่ายค้านไล่บี้จนมุมในสภา โยนความเสี่ยงให้เป็นหน้าที่ของสภาทั้งหมด แต่ก็ยังพลาดในเรื่องเงินชดเชย 7 ล้าน ที่ไม่ออกเป็น พ.ร.บ. แม้ช่วงหลังจะพยายามไปเล่นกลทางกฎหมาย แต่ตนเชื่อว่าอย่างไรก็หนีไม่พ้น เพราะความเป็นนายกรัฐมนตรี
นายพิภพกล่าวถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าไม่เข้าใจเป็นถึงนักเรียนดีกรีจบนอก แสดงออกทางปรองดองได้แค่ไปใส่เสื้อแดง ถ้าหากจะสื่อว่ากฎหมายฉบับที่อยู่ในสภาไม่ปรองดอง จะนำไปสู่ความแตกแยก แล้วทำไมไม่ออกเป็นกฎหมายใหม่ เสนอแนวทางปรองดองว่าจะทำอย่างไร ทั้งที่เสียงในสภาก็ยังมีพอให้เสนอเป็นพระราชบัญญัติได้
พันธมิตรฯไม่ใช่ไม่ต้องการให้เกิดความสามัคคี แต่เห็นว่า พ.ร.บ.ปรองดองฯฉบับนี้ จะนำไปสู่ความแตกแยกขนานใหญ่ แล้วจะลุกลามกระทบชาติ ราชบัลลังก์ในที่สุด
ด้าน นายชัชวาลย์กล่าวว่า ไม่ว่าพรรคเพื่อไทย หรือพรรคประชาธิปัตย์ เข้ามาต่างเล่นการเมืองด้วยกันทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับว่าใครจะเป็นรัฐบาล ดูได้จากเรื่องเสียดินแดน เริ่มมาจากประชาธิปัตย์ทำ MOU43 มาถึงยุคทักษิณก็ต่อยอด ผ่านมารัฐบาลนายอภิสิทธิ์แทนที่จะยกเลิก กลับโยนไปให้ศาลโลกตัดสิน เพื่อต้องการให้คนมองว่าเป็นเรื่องของหลักสากล หวังให้ตัวเองพ้นจากการถูกประณามว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นต้นตอทำให้เสียดินแดน ทั้งที่พันธมิตรฯค้านแล้วค้านอีกว่าอย่าไป ศาลโลกเป็นศาลการเมือง คนที่นั่งในศาลโลกทั้งฝรั่งเศส ญี่ปุ่น อเมริกา ล้วนมีส่วนได้เสียในบ่อน้ำมันเขมร
“นักการเมืองเจ้าเล่ห์ไม่มีความจริงใจต่อประชาชน เขารู้จักกันทั้งนั้น ทักษิณ สุเทพ อภิสิทธิ์ รู้จักกันหมด ทักษิณก่อนตั้งพรรคเคยเป็นนายทุนให้ประชาธิปัตย์ ชวนก็ยังเคยชมทักษิณ นักการเมืองพอไปถึงจุดหนึ่งเขาไม่ฆ่ากัน พอเจรจากันได้เขาก็เกี้ยเซี้ยกัน เห็นได้จากกี่ปีมาแล้วพรรคประชาธิปัตย์ ยังถอดยศทักษิณไม่ได้เลย”
เราในฐานะประชาชน อย่าไปสนใจเลยว่าใครเสนอกฎหมายปรองดองอย่างไร ขอให้ดูอย่างเดียวว่าธาตุแท้คนพวกนี้กะล่อน เห็นแก่ตัวเอาแต่ได้ เป็นผีโม่แป้งรับจ้าง หากเขาทำในเรื่องไม่ถูกต้อง กระทบสังคม เราค่อยออกมาชุมนุม