ศรพระราม
ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ ของดอกเตอร์เยสๆ โนๆ โอเค ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประกาศจับพ่อค้ายาเสพติดระดับเจ้าพ่อ ทั้งชายหญิง 25 คน ตั้งค่าหัวเป็นสินบนนำจับ รวม 12 ล้านบาท ทำให้นึกถึงประกาศจับผู้ร้าย ของกองทะเบียนประวัติอาชญากร ฉบับที่ 353/2551
น่าสงสารประกาศจับฉบับนี้ เป็นเอกสารสำคัญทางราชการ แต่ถูกผู้รักษากฎหมายถูกนักการเมืองทุกระดับ ทั้งๆ ที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐมีอำนาจจับกุมและไม่มีอำนาจจับกุมถูกเมินมองไม่ผิดอะไรกับ.....กระดาษชำระเพราะผู้ร้ายในประกาศจับ ชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2551 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุก พ.ต.ท.ทักษิณ 2 ปี คดีทุจริตซื้อที่ดินรัชดาภิเษก ของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร มีความผิดตามพระราชบัญญัติ ป.ป.ช.มาตรา 100 (1) วรรคสาม และมาตรา 122 วรรคหนึ่ง
ทักษิณไม่ไปฟังคำพิพากษา เพราะรู้ว่าหวยจะออกอะไร จึงหนีไปอยู่อังกฤษ แล้วประณามกระบวนการยุติธรรมประเทศไทย บ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง ไม่สำนึกผิด ไม่ใส่ใจกับคำพิพากษา ที่ว่า.....
ขณะเกิดเหตุ จำเลยที่ 1 เป็นนายกรัฐมนตรี ได้รับมอบหมายให้บริหารราชการแผ่นดิน เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ทางราชการและประชาชน
แต่จำเลยที่ 1 กลับฝ่าฝืนกฎหมาย ทั้งที่เป็นหัวหน้ารัฐบาล ต้องกระทำตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดี ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ประพฤติตนในสิ่งที่ดีงามตามจริยธรรมของนักการเมือง ให้เหมาะสมกับที่ได้รับความไว้วางใจ ในตำแหน่งหน้าที่อันสำคัญยิ่ง จึงไม่สมควรรอการลงโทษ
รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ถูกตั้งคำถาม “ทำไมไม่ดำเนินการถอดยศทักษิณ” ทั้งๆ เป็นนักโทษหนีคุก
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โยนความรับผิดขอบไปให้ตำรวจ ว่าเป็นหน้าที่ของตำรวจ ตัวเองจะไม่สั่งการอะไร
สาธุชนครางฮือ เพราะรู้ว่าสุเทพกับทักษิณมีความสัมพันธ์กันอย่างไร
ปี 2554 พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ที่ปรึกษา (สบ 10) ตอบคำถามสื่อเรื่องนี้แบบเลี่ยงบาลีว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการถอดยศตำรวจที่กระทำความผิดทุกปี ประชุมพิจารณาปีละสองครั้ง ทั้งต้นปีและปลายปี
พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกตำรวจแห่งชาติ อ้างคณะกรรมการกฤษฎีกากำลังพิจารณาเรื่องนี้อยู่ ....พูดเหมือนชาวบ้านกินแกลบ
ตอนนี้กฤษฎีกาก็ส่งคำพิจารณามาแล้ว สำนักงานตำรวจแห่งชาติสามารถดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณได้
เมื่อเดือนตุลาคม 2552 มีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องพระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้ถอดยศตำรวจ และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ นายตำรวจชั้นสัญญาบัตร 22 ราย ที่ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก และกระทำผิดวินัยอย่างร้าย ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ
พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ กับนายตำรวจชายหญิงอีก 21 คน ทั้งหมดยังอยู่ในคุกและนอกคุก แต่ไม่มีอดีตตำรวจคนไหน ก่นด่ากระบวนการยุติธรรมเหมือนทักษิณ
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ได้ชื่อว่าเป็นตำรวจน้ำดีคนหนึ่ง ก้าวขึ้นสู่ผู้นำสูงสุดขององค์กรสีกากี ย่อมรู้ดีว่าพฤติกรรมของทักษิณเป็นอย่างไร และสมควรถูกถอดย-ริบเครื่องราชย์หรือไม่
แม้ ผบ.ตร.ทุกคนที่ผ่านมา หัวหดอยู่ในกระดอง ไร้ความสง่างามในอาชีพ “เพรียวพันธ์” ยอมให้สิ่งไม่ถูกต้อง ทำลายศักดิ์ศรีวงศ์ตระกูล ก็ตามใจ