xs
xsm
sm
md
lg

เบื้องลึก “นารีปู” พิฆาตแดง “ส.ร่างอวบ” ตัวเร่งรัฐบาลพัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รายงานการเมือง

ชักจะเข้าสู่วังวนเดิมๆ อีกครั้งสำหรับพลพรรคเพื่อแม้ว ที่ระยะหลังๆ เริ่มเห็นความร้าวฉานคานอำนาจกันเองของคนภายในปะทุส่งเสียงดังจนคนภายนอกได้ยินบ่อยขึ้นถี่ขึ้น

โดยเฉพาะในช่วงนี้มีเล็ดรอดออกมาให้เห็นกันแทบทุกสัปดาห์ อย่างล่าสุดก็กรณีที่ “พ.ต.ท.เสงี่ยม สำราญรัตน์” ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จังหวัดชุมพร เดินทางไปยื่นหนังสือถึง “สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์” ประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมแอบกระแทกกระทั้นใส่สองสามีภรรยาเครือข่ายเสื้อแดงเหมือนกันอย่าง “นพ.เหวง โตจิราการ” ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และ “ธิดา ถาวรเศรษฐ์” ประธานใหญ่ นปช.

ข้อหาหลอกลวงต้มตุ๋นกลุ่มคนเสื้อแดงจากกรณีที่อ้างว่า ได้เดินทางไปยื่นเรื่องคดีสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อเดือนเมษายน-พฤษภาคม ปี 2553 กับศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ ไอซีซี โดย “บักเหงี่ยม” คนยื่นอ้างว่าสองสามีเดอะเรด กำลังจะทำให้รัฐบาลตกอยู่ในสภาวะอันตราย เพราะการไปกดดันให้กระทรวงการต่างประเทศลงนามรับอำนาจของไอซีซีโดยไม่ผ่านกระบวนการสภา อาจเข้าข่ายกระทำความผิดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ได้

ขณะที่ในรายแกนนำนปช.คนอื่นๆ ก็ยังมีข่าวแว่วมาหนาหูด้วยว่า ขณะนี้บรรดาแกนนำที่อยู่ในจำพวกฮาร์ดคอร์อย่าง “แรมโบ้อีสาน-สุภรณ์ อัตถาวงศ์” รองเลขาธิการนายกฯ และ “ชินวัตร หาบุญพาด” ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ก็แอบซุ่มประชุมลับหาช่องทางเลื่อยขาเก้าอี้อยู่เป็นระยะๆ เพราะไม่พอใจบทบาทของภรรยาหมอเหวงเอาเสียเลย

อย่างไรก็ตาม ศึกแดงชนแดงที่เกิดขึ้นก็คงยังดูเล็กน้อยเกินหากจะนำไปเปรียบเทียบกับคลื่นใต้น้ำที่เริ่มก่อตัวภายในพรรคเพื่อไทยและตัวรัฐบาลเอง โดยเฉพาะกับศึกภายในที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดขณะนี้ อันเนื่องมาจากผลของการปรับ “ครม.ปู 3” ล้วนๆ

ดังที่ปรากฎให้เห็นจากกรณีที่ “จตุพร พรหมพันธุ์” แกนนำ นปช. ต้องถอนสายบัวรอเก้อหลังจากวืดเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ “พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ตกปากรับคำสัญญาจะปูนบำเหน็จให้

แต่ทว่า พอเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของการจัดโผชื่อของ “ตุ๊ดตู่” ก็กลับหลุดจากวงโคจรออกไป จนทำให้บรรดาแฟนคลับออกมาตีโพยตีพายอาละวาดเหน็บจิก “นายใหญ่” และ “นายหญิง” กันขนานใหญ่

ตามคิวที่ “วรชัย เหมะ” ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำ นปช.ออกมาแฉเบื้องลึกเบื้องหลังว่า งานนี้ตัวตัดเกมที่เตะสกัดไม่ให้ “จตุพร” ขึ้นวอ ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นพวกเดียวกันเอง

กระแทกดังๆ ออกมาเป็นตัวอักษรย่อ “ส.เสือ” ร่างอวบ น่ะตัวดี!

ส่วนแผนการบล็อกหนนี้ก็ไม่ใช่อะไร เพียงเพราะต้องการพยุงอำนาจให้อยู่รอดปลอดภัย ไม่มีตัว “สายล่อฟ้า” มาล่อเป้าบั่นทอนเสถียรพภาพรัฐบาล เข้าจังหวะ “ทักษิณ” ไฟเขียว แต่ “นารีปู” ผู้ถืออำนาจในปัจจุบัน ที่มีทีมงานพรายกระซิบที่ตึกไทยคอยปั่นหูเล่นบทกดสัญญาณไฟแดงห้ามผ่าน!

ผลการปรับ ครม.เที่ยวล่าสุดที่ออกมาจึงได้เห็นหน้าค่าตาโควตาใหม่ที่เพิ่มขึ้น จากเดิมที่มีเพียงสายตรงนายใหญ่ สายตรงบ้านจันทร์ส่องหล้า สายเจ๊แดง-เยาวภาแอนด์สมชาย วงศ์สวัสดิ์ แต่บัดนี้มี “สายไทยคู่ฟ้า” ที่กำลังมาแรง

โดยเฉพาะทีมงานข้างกายผู้นำหญิงฯ ที่แต่ละคนพิสูจน์มาแล้วว่า ทนทานแข็งโป๊ก ไล่เรียงตั้งแต่ “โต้ง ไวต์ลาย-กิตติรัตน์ ณ ระนอง” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่แม้จะทำงานออกอ่าวออกทะเล และมีระดับบิ๊กในรัฐบาลจ้องแซะเก้าอี้อยู่ตลอดเวลา แต่จนแล้วจนรอด “นายกฯ หญิง” ก็ยังเหน็บเพื่อนซี๊พี่รักคนนี้ให้เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจมาจนถึงปัจจุบัน

ขณะที่อีกรายที่มาแรงจนแกนนำเสื้อแดงและ ส.ส.ในพรรคเพื่อไทยหมั่นไส้และวางแผนจ้องถล่มกันอยู่ก็หาใช่ใครที่ไหน แต่เป็น “ส.ร่างอวบ” ข้างต้นคนเดียวกับที่เป่าหูนายหญิงตึกไทยไม่ให้ “จตุพร” อยู่ในลิสต์รายชื่อ 35 เสนาบดี

ตามสภาพความเป็นจริงที่วันนี้ “ส.ร่างอวบ” ได้ดิบได้ดีเป็นสายตรงนายหญิงตึกไทย หลายๆตำแหน่งเจ้าตัวก็มีส่วนกระซิบว่านายกฯ หญิงควรจะเอาใครมาทำงาน

ขณะที่สาเหตุที่ “ส.ร่างอวบ” ต้องตกเป็นเป้าโจมตีของคนเสื้อแดงมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกขณะ ก็หาใช่เหตุผลใด นอกจากสไตล์การเลือกคนทำงานที่มักบล็อก “เสื้อแดง” อยู่เป็นประจำ

เพราะนอกจาก กรณีของ “จตุพร” ที่ต้องกินแห้วกระป๋องใหญ่จากสีเสื้อแล้ว ยังมีอีกหนึ่งรายที่ต้องถูกพิษ “ส.ร่างอวบ” เตะตัดขาจนตกกระป๋องเช่นกันอย่าง “ดีเจเสื้อแดง-อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ล่าสุดย้ายสำมะโนครัวจากทำเนียบรัฐบาล ไปพึ่งน้ำเย็นๆที่กระทรวงอุตสาหกรรมกับ “ฐานิสร์ เทียนทอง” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมคนใหม่

หลังโดนสกัดดาวรุ่งไม่ให้ขึ้นเป็น “เบอร์ 1 ทีมโทรโข่ง” มาแล้วถึงสองครั้งสองครา โดยรอบแรกเกิดขึ้นในช่วงที่ “ฐิติมา ฉายแสง” ประกาศไขก๊อกจากโฆษกรัฐบาล และเจ้าตัวได้ขึ้นเป็นรักษาการโฆษกรัฐบาลชั่วคราว ซึ่งขณะนั้นเจ้าตัวพยายามปั้นผลงานด้วยการออกมาตอบโต้ทางการเมืองกับพรรคฝ่ายค้านรายวัน ชนิดกะให้เตะตานายหญิงตึกไทย

แต่โค้งสุดท้ายก็มิวายถูก “ส.ร่างอวบ” เบรกสกัดและประเคนชื่อ “เจ๊ติ๋ว-ศันสนีย์ นาคพงศ์” เข้าไปเสียบแทน จนกระทั่งล่าสุด “เจ๊ติ๋ว” ได้พาสชั้นเป็นเสนาบดี เก้าอี้โทรโข่งรัฐบาลว่างอีกครั้ง

“ดีเจเสื้อแดง” ลูบปากไร้คู่แข่ง แต่ก็ต้องแห้วซ้ำสองเพราะโดน “ส.ร่างอวบ” คนเดิมอีกแล้วยกขาไม่ให้ผ่าน จนในที่สุดต้องตัดสินใจแยกทาง

กลายเป็นการตอกลิ่มอำนาจ “ส.ร่างอวบ” กันอีกรอบ

นอกจากเสื้อแดงที่ไม่พอใจพฤติกรรมของ “ส.ร่างอวบ” รายนี้แล้ว ในส่วนของมวลสมาชิกพรรคเพื่อไทยไล่ไปจนถึงแกนนำเกือบทั้งหมดเองก็หาได้นิยมชมชอบแต่อย่างใด มิหนำซ้ำยังอยู่ในระดับเกลียดเข้ากระดูกดำ ชนิดเดินเข้าพรรคไม่ได้จนทุกวันนี้

เพราะหลายคนยังฝังใจกับวันที่ “ไทยรักไทย” กำลังล่อแล่ “ส.ร่างอวบ” รายนี้นี่แหละที่รีบแยกตัวออกไป แล้วตั้งโต๊ะด่า “นายใหญ่” ด้วยตัวเอง แต่พอ “เพื่อไทย” ลุกขึ้นได้และกลับมามีอำนาจก็รีบแจ้นเข้าหา “นายหญิงตึกไทย” ป้อนผลงานให้จนได้ดิบได้ดีแซงคิวคนอื่นที่จงรักภักดีมาตลอด

พูดได้ไม่เกินเลยว่า วันนี้ "ส.ร่างอวบ" กับที่ทำการพรรคเพื่อไทย กลายเป็นของแสลงกันไปแล้ว วันไหนเยื้องย่างเข้าไปก็มีแต่เสียงซุบซิบนินทาไล่หลัง พรรคพวกเดินหนีไม่ทักทาย ตรงนี้เจ้าตัวเองก็รู้ดี

หนำซ้ำ ยังสวมบทพรายกระซิบปั่นหู “นายหญิงตึกไทย” ว่าจะเลือกคนไหน เขี่ยคนไหน ชนิดงานในทำเนียบฯแทบจะเคลียร์ให้ทั้งหมด แม้ “นายใหญ่” และสมุนจะไม่แฮปปี้แต่ก็ต้องจำใจยอมรับ เพราะวันนี้ “น้องรัก” ดันเป็นปลื้มฟอร์มพูดอะไรก็เชื่อเขาหมด

เรื่องนี้ก็เลยต้องจับตากันยาวๆ ว่า บรรดาพวกแอนตี้จะหาทางขจัด “ส.ร่างอวบ” กันอย่างไร หรือหากเจ้าตัวยังอยู่ ก็ต้องจับตาดูกำลังภายในของ “ทีมตึกไทยคู่ฟ้า” ว่า จะแบ่งโควตา แผ่อำนาจกันได้ขนาดไหน

รวมไปถึงผนังทองแดงกำแพงเหล็กอย่าง “คนเสื้อแดง” ที่ “นายใหญ่” เองจะต้องหาทางออกเรื่องนี้เพื่อรักษาเอาไว้คุ้มครองรัฐบาลในยามฉุกเฉิน
กำลังโหลดความคิดเห็น