“เหวง” อารมณ์ค้าง ถูก “เสงี่ยม” ยัดต้มคนเสื้อแดง เฉ่งซ้ำอีกรอบ ชี้ข้อมูลมั่ว ถามมีใครบงการอยู่เบื้องหลัง ส่วนจะให้เมียรักพ้นประธานแก๊งแดงนั้นต้องเป็นไปตามขั้นตอนการคัดเลือกประธาน นปช. ด้าน “ลูกสาวชัจจ์” เฉ่ง “เสงี่ยม” กล่าวหารุนแรงไป
นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวย้ำที่ที่ทำการพรรคเพื่อไทย กรณีที่ พ.ต.ท.เสงี่ยม สำราญรัตน์ ข้าราชการการเมืองประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และแกนนำเครือข่ายกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ยื่นหนังสือถึงประธานสภาฯ ให้ตรวจสอบตน และกล่าวหาว่าตนและนางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธาน นปช. ผู้เป็นภรรยา โกหกคนเสื้อแดงว่าศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือไอซีซี รับเรื่องการสั่งสลายการชุมนุมปี 2553 เข้าสู่การพิจารณาแล้วว่า เป็นความเท็จโดยสิ้นเชิง มีความสับสนและไม่มีความเข้าใจในเรื่องของกฎหมาย ทั้งนี้ตนยินดีที่จะชี้แจงต่อประธานรัฐสภาไปตามกระบวนการ และตั้งคำถามไปยัง พ.ต.ท.เสงี่ยม ว่ามีคนบงการอยู่เบื้องหลังหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ความคิดเห็นที่แตกต่างในกลุ่มคนเสื้อแดงนั้นสามารถมีได้ แต่จะนำไปสู่ความแตกแยกหรือไม่นั้นไม่อยากไปตีกรอบความคิดตรงนั้น ส่วนที่ พ.ต.ท.เสงี่ยมเรียกร้องให้เปลี่ยนแปลงประธาน นปช.จากนางธิดา ภรรยาของตน เป็นนายจตุพร พรหมพันธุ์นั้น ต้องไปถามนางธิดากับนายจตุพรโดยตรง ซึ่งสามารถทำได้และมีกระบวนการคัดเลือกประธาน นปช. อยู่แล้ว
ด้าน น.ส.จารุพรรณ กุลดิลก ส.ส.พรรคเพื่อไทย บุตรสาว พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.มหาดไทย กล่าวยืนยันว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับการสั่งสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ปี 2553 เพราะคำสั่งของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) มีความเชื่อมโยงกับรัฐบาลขณะนั้น ดังนั้นนายอภิสิทธิ์จะต้องรับผิดชอบต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้น ส่วนที่มีการกล่าวหานางธิดา และ นพ.เหวงว่าต้มตุ๋นนั้น ข้อเท็จจริงศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือไอซีซี ได้เดินทางเข้าพบกับนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอย่างเป็นทางการแล้ว และทางไอซีซีก็มีการพิจารณาข้อกฎหมายอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นข้อกล่าวดังกล่าวจึงเป็นการกล่าวหาที่รุนแรงเกินไป
ขณะที่ นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความขัดแย้งที่เกิดขึ้นว่า คนเสื้อแดงต่อสู้ด้วยความถูกต้อง ใครมีความสามารถอะไรก็ดำเนินการไป อย่าเพิ่งขัดแย้งกัน และยืนยันว่าไอซีซีพร้อมเปิดรับคดีหากรัฐบาลลงนามไป และเชื่อว่าไม่เข้ามาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญ ส่วนการที่ พ.ต.ท.เสงี่ยมออกมาเคลื่อนไหน คงเป็นความหวังดีต่อเสถียรภาพของรัฐบาล แต่เรื่องนี้ควรดำเนินการด้วยความรอบคอบ และขอให้ความขัดแย้งอยู่เพียงแค่ภายในของกลุ่มคนเสื้อแดงที่เป็นการพูดคุยกันเท่านั้น