“ส.ว.ไพบูลย์” นำทีม 67 สมาชิกยื่นประธานวุฒิสภาส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสัญญาขายข้าวรัฐต่อรัฐ 7.32 ล้านตันเข้า ม.190 หรือไม่ เชื่อตุลาการคงรับเหตุใช้สิทธิตามกฏหมาย เตือนรัฐต้องโปร่งใส จวกสุดอนาถาต้องหารังเก็บข้าวทำด้อยศักดิ์ ปัดเคลื่อนไหวล้มรัฐ ยันถ้ารัฐทำดีจะได้รับการสรรเสริญเอง
วันนี้ (16 ต.ค.) ที่รัฐสภา นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา พร้อมด้วย ส.ว.จำนวน 67 คน ได้ยื่นหนังสือถึงประธานวุฒิสภา ผ่านนายสุรชัย เลี้ยงบุญชัย รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 เพื่อขอให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยกรณีสัญญาขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ จำนวน 7.32 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 114,000 ล้านบาท ว่าเข้าข่ายสัญญาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 วรรคสอง ที่คณะรัฐมนตรีจะต้องชี้แจงและขอความเห็นจากรัฐสภาเพื่อให้เกิดความถูกต้องและโปร่งใสในการทำสัญญาหรือไม่ โดยให้เหตุผลในการยื่นครั้งนี้ว่า 1. กระทบต่องบประมาณของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ เพราะต้องใช้งบประมาณแผ่นดินมาชดเชยในส่วนที่ขาดทุนจากการขายข้าวเป็นจำนวนเงิน 44,000 ล้านบาท 2. มีผลผูกพันทางด้านการค้า การลงทุน ทำลายเศรษฐกิจข้าวส่งออกของไทย และยังทำลายการลงทุนทั้งรายย่อยและรายใหญ่ในอุตสาหกรรมข้าวทั้งระบบ และ 3. มีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอย่างกว้างขวาง เพราะผลการขาดทุนจากการขายข้าวก่อให้เกิดหนี้สาธารณะเกินกว่ากำหนด ทำให้เกิดวิกฤตการคลัง
นายไพบูลย์กล่าวต่อว่า การยื่นเรื่องต่อประธานวุฒิสภาเพื่อให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญกรณีโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลนั้น เชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญจะรับไว้พิจารณา เนื่องจากเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 154 (4) ที่ ส.ว.จำนวน 1 ใน 10 สามารถยื่นเรื่องให้ประธานวุฒิสภาเพื่อส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ ซึ่งต่างจากภาคเอกชนที่เคยยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญแล้วศาลไม่รับเรื่อง ส่วนในการตรวจสอบเรื่องสัญญาซื้อขายข้าวของรัฐบาลแบบรัฐต่อรัฐนั้น เคยได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง เมื่อกรรมาธิการฯ ได้เรียกหาเอกสารสัญญาซื้อขายข้าว เจ้าหน้าที่ระดับรองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศระบุว่าไม่สามารถให้ได้เพราะถือเป็นความลับ ดังนั้นตนขอฝากไปยังรัฐบาลด้วยว่า การดำเนินการด้วยกลไกใดๆ ไม่ว่าจะเป็นรัฐต่อรัฐหรือไม่ ควรคำนึงถึงความโปร่งใสด้วย ซึ่งประเด็นการขายข้าวและส่อที่จะขาดทุน จนทำให้รัฐบาลต้องนำเงินงบประมาณไปอุดหนุนนั้น ถือว่าจะเป็นการสร้างความเสียหายต่อประเทศ
“ตอนที่มีเหตุการณ์น้ำท่วม ผมไม่โทษรัฐบาลเพราะเป็นเรื่องของธรรมชาติ แต่กรณีเรื่องข้าวที่ท่วมประเทศขณะนี้เป็นเพราะรัฐบาลที่ทำให้ข้าวท่วมประเทศ และตอนนี้ก็พยายามหาที่เก็บข้าว ซึ่งถือเป็นการสร้างความอนาถา และทำให้ข้าวไทยด้อยศักดิ์ เชื่อว่าหากรัฐบาลทำงานอย่างไม่โปร่งใสเรื่องข้าวจะเป็นสิ่งที่ทำให้รัฐบาลได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่พวกตนทำไม่ได้เพื่อล้มรัฐบาลตามที่รัฐมนตรีบางคนกล่าวหา เพราะหากท่านสุจริตจริง และขายข้าวได้กำไรท่านจะได้รับการสรรเสริญ แต่หากท่านทำงานอย่างไม่โปร่งใสท่านก็ต้องรับผิดชอบ” นายไพบูลย์กล่าว