xs
xsm
sm
md
lg

จำนำข้าวเป็นความลับ-หลุดขายอินโดฯแค่3แสนตัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน /บิสเนส รีคอร์เดอร์ - รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศแจงกมธ.วุฒิ ท่องคาถายืนยันตามรมว.พาณิชย์ กั๊กตัวเลขส่งออกข้าวจีทูจี อ้างเป็นความลับ “คำนูณ” ตั้งปมเอื้อเปอร์เซ็นต์ให้นายหน้า ด้านบุญทรงน้ำขุ่นๆ แจงข้าวจีทูจีมีสัญญารวม 7.32 ล้านตัน ส่งมอบแล้ว 1.46 ล้านตัน จะส่งหมดในปีหน้า หลุดขายอินโดฯได้แค่ 3 แสนตัน ที่เหลือเจรจาอยู่ สื่อนอกชี้ลักลอบข้าวเพื่อนบ้านเข้าไทยเพียบ

วานนี้ (11 ต.ค.) เว็บไซต์ข่าว บิสเนส รีคอร์เดอร์ สื่อมวลชนของปากีสถานรายงานว่าข้าวราคาถูกจากกัมพูชาและพม่า กำลังหาหนทางลักลอบเข้าสู่โกดังข้าวของรัฐบาลไทย และนักวิเคราะห์ของเวียดนามบางส่วนก็คาดคะเนว่าบางทีข้าวเปลือกของเวียดนามเองกว่า 50,000 ตัน ก็อาจถูกลักลอบนำเข้าไทยผ่านทางกัมพูชา

โดยนายฝั่งกวางเสี่ยว (Pham Quang Dieu) ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยตลาดบริษัท บริษัท Agromonitor กล่าวว่า โดยปกติแล้วเวียดนามจะนำเข้าข้าวเปลือกจากกัมพูชาไม่กี่ล้านตันในแต่ละปีเพื่อส่งเสริมการส่งออก แต่ในปีนี้ แม้แต่ข้าวเปลือกของเวียดนามเองก็ยังถูกลักลอบเข้าสู่ไทยโดยข้ามพรมแดนจากฝั่งกัมพูชา พร้อมคำนวณด้วยว่ายอดการจัดหาข้าวเปลือกที่ลดลงในปีนี้ อาจทำให้ยอดการส่งออกของเวียดนามในปีนี้ไม่ตรงกับเป้าที่รัฐบาลวางไว้ที่ 7.2 ล้านตัน หรืออย่างดีที่สุดเวียดนามก็คงส่งออกได้ราวๆ 7 ล้านตัน จากเหตุที่ปริมาณข้าวเปลือกไม่เพียงพอ

**ท่องคาถายืนยันตาม “บุญทรง”

คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล ได้ประชุมตามญัตติที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน สว.สรรหา ยื่นให้พิจารณาศึกษาตรวจสอบเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล โดย กมธ.ได้เรียกอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) มาชี้แจงข้อมูลการส่งออกขายข้าวแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (จีทูจี) แต่อธิบดีฯได้มอบหมายให้นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ รองอธิบดีคต.มาชี้แจงแทน

นายคำนูณ สิทธิสมาน สว.สรรหา ซักถามนายสุรศักดิ์ กรณีที่นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ระบุว่าการขายข้าวแบบจีทูจีมีการขายออกไปจริงโดยเป็นการขายหน้าโกดัง ส่วนตัวแล้วเห็นว่าเป็นกระบวนการที่ผิดปกติ ซึ่งเป็นการขายผ่านระบบนายหน้าใช่หรือไม่ และตัวเลขการส่งออกข้าวไปในแต่ละประเทศ

นายสุรศักดิ์ ยืนยันว่า หากรัฐบาลจะขายให้ประเทศใดต้องแน่ใจได้ว่าคนที่ซื้อเป็นรัฐบาลจริง มีหนังสือรับรองจากรัฐบาลนั้นๆ โดยขณะนี้ได้ระบายข้าวไปหลายประเทศ ได้แก่ จีน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ บังกลาเทศ และโกตดิวัวร์ แต่ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลตัวเลขการส่งออกได้ เนื่องจากอาจเกิดกลุ่มต่อต้านในบางประเทศที่มีนโยบายการพึ่งพาตนเอง ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความขัดแย้งของประชาชนในประเทศคู่ค้าได้ ดังนั้นไม่สามารถเปิดเผยได้จนกว่ากระบวนการขายข้าวจะเสร็จสิ้นโครงการ

ส่วนระยะเวลาในการส่งมอบข้าวนั้น เป็นอำนาจของคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.)ในการตัดสินใจเรื่องนี้ ส่วนเงินที่ได้รับจากการขายข้าวก็จะส่งไปให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)แล้วจำนวน 4 หมื่นกว่าล้านบาท สิ้นปีนี้จะส่งได้ถึง 8 หมื่นล้านบาท และสิ้นสุดโครงการคาดว่าจะส่งให้เป็นเงิน 2 แสนกว่าล้านบาท ขณะนี้ยืนยันได้เพียงว่ามีการระบายข้าวไปแล้ว 7.32 ล้านตัน ยังเหลือข้าวในสต๊อกอีก 12 ล้านตัน

พร้อมกับยืนยันว่า การขายข้าวแบบจีทูจีดังกล่าวนี้ ไม่มีการแลกเปลี่ยนข้าวกับรถไฟความเร็วสูงของประเทศจีนอย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นสัญญาซื้อขายระหว่างรัฐต่อรัฐ

ทั้งนี้ ทางกมธ.จะส่งหนังสือถึงคต.ให้ส่งเอกเอกสารข้อมูลรายละเอียดการส่งออกทั้งหมดมายัง กมธ.เพื่อประกอบการอภิปรายไม่ลงมตินโยบายจำนำข้าวของรัฐบาลตามรัฐธรรมนูญมาตรา 161

เป็นที่น่าสังเกตว่า นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า ขั้นตอนการขายข้าวนั้นมีการขายหน้าคลังจริง แต่พอสว.ย้ำอีกครั้งพร้อมระบุว่าการชี้แจงครั้งนี้มีการบันทึกหลักฐานเป็นข้อมูลให้สว.ยื่นอภิปรายไม่ลงมติในสภา รองอธิบดีคต.ก็เปลี่ยนคำพูดเป็นไม่แน่ใจ แต่ได้พูดไปตามที่ รมว.พาณิชย์เคยให้สัมภาษณ์แทน

นายคำนูณ กล่าวว่า การที่นายสุรศักดิ์ ยืนยันตาม รมว.พาณิชย์ว่ามีระบบการขายข้าวหน้าคลังนั้นเป็นที่น่าแปลกใจ เพราะส่วนตัวแล้วไม่เชื่อว่าประเทศคู่ค้าจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบกระบวนการขนส่งข้าวหลังจากนั้นทั้งหมด อยากตั้งข้อสังเกตว่าระบบการขนสินค้าหน้าคลังนี้อาจเอื้อให้มีระบบนายหน้าส่งข้าวไปยังองค์กรรัฐวิสาหกิจแทน หรืออาจมีนายหน้าที่ได้เปอร์เซ็นต์จากการรับหน้าที่ระบายข้าวตรงจุดนี้

***รมว.พาณิชย์ชี้แจงน้ำขุ่นๆ

นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ แถลงข่าวชี้แจงวิธีการระบายข้าวของรัฐบาลแบบจีทูจีตามคำสั่งน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ไปดำเนินการชี้แจงเพื่อให้เกิดความชัดเจนและโปร่งใสว่า การขายข้าวจีทูจี ยืนยันปริมาณ 7.32 ล้านตัน ภายใต้ 6 สัญญา โดยได้ทำการส่งมอบข้าวไปแล้ว 20% ของปริมาณข้าวที่ทำสัญญาทั้งหมด หรือประมาณ 1.46 ล้านตัน โดย 3 เดือนสุดท้ายจะส่งออกข้าวตามสัญญาจีทูจีได้อีกประมาณ 3 แสนตัน รวมแล้วจะส่งมอบได้ทั้งหมด 1.7-1.8 ล้านตัน คงเหลือข้าวประมาณ 5.56 ล้านตันที่จะส่งมอบได้เสร็จภายในปี 2556

ส่วนกรณีที่มีความสับสนในเรื่องการขายข้าวจีทูจี ระหว่างการทำเอ็มโอยูกับการทำสัญญา ขอชี้แจงว่าการเจรจาซื้อขายข้าวกับประเทศต่างๆ ได้ดำเนินการมาโดยตลอด โดยการทำเอ็มโอยูจะเป็นการตกลงซื้อขายเบื้องต้น เช่น ทำกับอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ บังคลาเทศ โกตดิวัวร์ เป็นต้น ซึ่งในเอ็มโอยูได้กำหนดกรอบปริมาณ และระยะเวลาเอาไว้ หลังจากนั้น กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าต่างประเทศ จะเข้ามาเจรจาต่อในรายละเอียดภายใต้เอ็มโอยูที่จัดทำกันไว้

“ปกติเมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางไปเจรจาการค้ากับประเทศต่างๆ ก็มีการเจรจาซื้อขายข้าวกัน และทำเอ็มโอยูกัน การมากล่าวหาว่าผมพูดขัดแย้งกับนายกฯ ไม่จริง นายกฯ พูดเอ็มโอยู 8 ล้านตัน จริง ถูกต้อง เพราะมีการทำไว้จริง แต่หลังจากมีเอ็มโอยูแล้ว กรมการค้าต่างประเทศ ก็ไปเจรจาในรายละเอียดการซื้อขายกันต่อ สุดท้ายก็มีการทำสัญญาจีทูจีกันได้ 7.32 ล้านตัน ทำให้การซื้อขายเกิดขึ้นจริง และได้ดำเนินการส่งมอบข้าวให้ประเทศผู้ซื้อแล้ว”นายบุญทรงกล่าว

ทั้งนี้ ไทยได้มีการทำเอ็มโอยูกับประเทศต่างๆ เช่น บังคลาเทศ 2 ปี ปริมาณ 1 ล้านตัน ฟิลิปปินส์ 3 ปี ปริมาณ 1 ล้านตัน และมีกรอบภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) อีก 3 แสนตัน อินโดนีเซีย 5 ปี ปริมาณ 1 ล้านตัน เป็นต้น

**ขายอินโดฯได้แค่3แสนที่เหลือคุยอยู่

นายบุญทรง กล่าวว่า กรณีอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ ที่มีข่าวออกมาว่าไม่มีการซื้อข้าวจีทูจีกับไทย ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา โดยอินโดนีเซีย เมื่อต้นปีส่งไปแล้ว 3 แสนตัน เป็นส่วนหนึ่งของ 7.32 ล้านตัน พร้อมระบุอีกว่า การขายจีทูจี เป็นแนวทางที่กระทรวงพาณิชย์จะดำเนินการต่อไปสำหรับข้าวที่ยังคงเหลืออยู่ และที่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดในแต่ละสัญญาได้ เพราะเกรงว่าจะเกิดปัญหาในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับประเทศที่ซื้อข้าวจากไทย

จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้พยายามที่จะสอบถามรายละเอียดของปริมาณข้าวจีทูจี 7.32 ล้านตัน ขายให้กับประเทศใดบ้าง และแต่ละประเทศขายไปในปริมาณเท่าไร ซึ่งนายบุญทรงไม่ตอบ เพียงแต่ระบุว่า ได้มีการขายข้าวจีทูจีให้กับประเทศผู้ซื้อหลายประเทศจริง เช่น อินโดนีเซีย จีน และโกตดิวัวร์ ซึ่งประเทศผู้ซื้อได้มีการชำระเงินและรับมอบข้าวไปแล้ว และกระทรวงพาณิชย์ได้เงินคืนให้ธ.ก.ส.ไปแล้ว 4.2 หมื่นล้านบาท

**ข้าราชการช่วยยันจีทูจีมีจริง

นางปราณี ศิริพันธ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวเสริมว่า การเจรจาซื้อขายจีทูจี ประเทศที่จะซื้อข้าว ก็จะมีหน่วยงานที่รับผิดชอบมาคุยกับกรมฯ ซึ่งจะมีการเจรจากันอยู่ตลอด บางประเทศไม่ได้ทำสัญญาครั้งเดียว แต่จะมีการทำสัญญากันหลายครั้ง ส่วนบางประเทศก็ตกลงกันได้ในครั้งเดียว

ขณะที่นายทิฆัมพร นาทวรทัต รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าหลายประเทศ การเมืองภายในประเทศมีความอ่อนไหวมาก หากจะมีการนำเข้าข้าว จึงมีการปฏิเสธมาโดยตลอดว่าไม่มีการนำเข้าข้าว แต่ในความเป็นจริง มีการนำเข้าปีละ 1-2 ล้านตันโดยตลอด ทั้งอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ แต่ไทยประกาศไม่ได้ว่าขายไห้ไปเท่าไร เพื่อรักษาความสัมพันธ์ และไม่อยากให้ประเทศผู้ซื้อมีปัญหา แต่ยืนยันได้ว่า ข้าวจีทูจี 7.32 ล้านตัน มีการขายจริง ขณะนี้ได้ทยอยส่งมอบ ทยอยเปิด L/C ซึ่งจะส่งได้หมดภายในปีหน้า

***"ปู"มอบนโยบาย77ผู้ว่าฯ เดินหน้าจำนำข้าว

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายของนายกรัฐมนตรี เรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกลแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เน้นย้ำเรื่องโครงการรับจำนำข้าวว่า หลักการของโครงการแบ่งผลผลิตออกเป็นสองส่วน คือส่วนที่บริโภคภายในประเทศให้เพียงพอ ส่วนที่เหลือให้ส่งออกไปขายต่างประเทศ โดยส่งออกแบบรัฐต่อรัฐ ขอให้พัฒนาระบบฐานข้อมูลการเกษตรเพื่อวางแผนการผลิตทั้งข้าวและผลผลิตทางการเกษตรให้มีความเหมาะสม เพื่อเพิ่มผลผลิตให้เพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศและส่งออกต่างประเทศ

“ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดร่วมกับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการลงพื้นที่สุ่มตรวจสอบหน้างานเพื่อไม่ให้ทุจริตเกิดขึ้น ทหากตรวจพบมีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตให้ดำเนินการทางวินัยทันทีโดยไม่ต้องปกป้อง”
กำลังโหลดความคิดเห็น