หน.ปชป.วอนรัฐบาลยอมรับความจริง ทบทวนนโยบายจำนำข้าว แฉ ครม.อนุมัติเงินในช่วงข้าวนาปี แต่ไม่ครอบคลุมนาปรังส่อขาดสภาพคล่อง “หมอวรงค์” แฉ “โกตี๋” แกนนำแดงแสร้งเป็นชาวนาอาชีพประท้วงนิด้า หวังดิสเคตรดิตนักวิชาการ ชี้ไทยเสียแชมป์ข้าวดีที่สุดในโลกให้อินโดนีเซีย ด้าน “องอาจ” แนะฟัง “โกร่ง” ทบทวนด่วน ก่อนเสียหายเกินแก้ไข
วันนี้ (3 ต.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่นายวีรพงษ์ รามางกูร ประธานกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศไทย (กยอ.) และประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาเตือนขอให้รัฐบาลยุติการดำเนินการโครงการรับจำนำข้าว ก่อนที่รัฐบาลนี้จะพังเพราะโครงการนี้ว่า ตนเป็นห่วงพราะโครงการนี้ได้สร้างปัญหาตามมาจำนวนมาก อยากให้รัฐบาลยอมรับความจริงและได้ทบทวนนโยบายนี้ โดยการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรด้วยวิธีการอื่นๆ ที่มันไม่สูญเสียและสูญเปล่ามากเท่าที่ใช้งบประมาณในโครงการนี้ เพราะหลายฝ่ายทั้งนักวิชาการต่างๆ ก็เห็นตรงกัน ซึ่งได้วิเคราะห์กันมานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งจะเตือน และสิ่งที่เตือนมาก็เกิดขึ้นจริงทั้งหมด ที่ได้เตือนไปว่าจะเกิดผลอะไรตามมา
เมื่อถามย้ำว่า แต่ล่าสุด ครม.เพิ่งจะมีมติอนุมัติเงินงบประมาณเพิ่มให้ทำโครงการนี้ต่อ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนก็ไม่แปลกใจเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเองก็เพิ่งให้สัมภาษณ์ว่าจะต้องทำโครงการนี้ต่อไปอีกกี่ปี ส่วนที่ ครม.มีมติอนุมัติเงินงบประมาณช่วยในโรงการจำนำข้าวนาปี ไม่ครอบคลุมถึงข้าวนาปรัง สะท้อนถึงปัญหาสภาพคล่องด้านงบประมาณ ซึ่งตนยืนยันว่า มันจะสะสมไปเรื่อยๆ เพราะขณะนี้เกิดปัญหาเรื่องเงินกับที่เก็บข้าวเป็นรูปธรรม คือชาวนาในหลายพื้นที่ไม่สามารถเข้าโครงการได้หลายพื้นที่ หรือเอาข้าวไปจำนำแล้วแต่ยังไม่ได้เงิน ชี้ให้เห็นแล้วว่าโครงการจำนำข้าวมีปัญหาแล้ว
ส่วนที่รัฐบาลยืนยัน ไม่ทบทวนและยังมีการปลุกระดมชาวนาขึ้นมาอีก อาจเกิดกระแสสงครามชนชั้นตามมาหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยากให้ทุกฝ่ายทำความเข้าใจ ทุกฝ่ายต้องการช่วยเหลือเกษตรกร ชาวนาแต่มีวิธีการอื่นอีก เพราะวิธีการนี้สุดท้ายจะส่งผลเสียต่อชาวนาเอง เพราะจะไม่มีใครซื้อข้าวในอนาคต จึงเป็นเรื่องที่ต้องช่วยทำความเข้าใจ เพราะตนลงพื้นที่ จ.สุโขทัย พบชาวนาเขาก็เข้าใจว่ามีวิธีการที่ดีกว่า แม้จะผลสำรวจออกมาว่ามีชาวนา 1 ใน 3 ที่ชอบจำนำมากกว่า และมี 1 ใน 3 ที่ชอบประกันรายได้มากกว่า ก็เป็นความเห็นต่าง และอยู่ที่สื่อมวลชนจะช่วยวิเคราะห์และนำเสนออย่างเป็นกลางของคนที่ไม่มีส่วนได้เสียว่าผลของโครงการนี้เป็นอย่างไร
เมื่อถามว่า แต่รัฐบาลนี้หาเสียงเรื่องนโยบายจำนำข้าวไว้ ยืนยันไม่ยกเลิกแน่นนอนจะทำอย่างไร นายอภิสิทธ์ กล่าวว่า เขารู้หมดแล้วว่าคนอื่นคิดอย่างไร แต่เขาก็ยังดันต่อ สุดท้ายจะเป็นปัญหาที่ย้อนกลับมากลายเป็นปัญหาตกค้างให้รัฐบาลต้องแก้ไขและเดือดร้อนกับเกษตรกร ซึ่งก็เป็นความรับผิดชอบของพรรคเพื่อไทยเพราะเป็นคนคิดนโยบายนี้มาใช้ที่วันนี้ทำให้ปรเทศชาติต้องสูญเงินไปมากกว่าแสนล้านบาท โดยที่เม็ดเงิน 1 ใน 3 เท่านั้นที่ตกไปถึงเกษตรกรชาวนาตามผลการวิจัย และไม่ควรมีการขยายผลสร้างความแตกแยกเพราะยังมีวิธีการที่ดีที่สามารถช่วยเหลือชาวนา
ส่วนคืบหน้าในการยื่นญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนั้น ทางพรรคกำลังรวบรวมประเด็นที่จะยื่นในเดือนตุลาคมเพราะสภาจะปิดในปลายเดือนพฤศจิกายนก็ต้องให้เวลารัฐบาลในการเตรียมตัว และจะไม่รอให้รัฐบาลต้องแถลงผลงานก่อน เพราะดูแล้วก็ไม่ชัดเจนว่ารัฐบาลจะแถลงผลงานเมื่อไหร่ ส่วนประเด็นต่างๆที่จะยื่นอภิปรายนั้น กำลังให้วิปฝ่ายค้านรวบรวมอยู่
ด้าน น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รมช.พาณิชย์เงาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกลุ่มที่อ้างตัวว่าเป็นชาวนาเดินทางไปประท้วงที่หน้าสหาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า ที่มีนักวิชาการออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านโครงการจำนำข้าวที่สร้างความเสียหายต่อประเทศชาติ ว่า ไม่ใช่พฤติกรรมชาวนาจริงๆ เพราะถ้าเป็นชาวนาจริงเมื่อได้รับความเดือดร้อนจะรวมตัวไปอำเภอ ร้องเรียนที่ศาลากลางจังหวัด ไปจนถึงการปิดถนน แต่เมื่อวานนี้ไม่ใช่ชาวนาอาชีพเป็นเครือข่ายจัดตั้งทางการเมือง เพราะคนนำไปคือ นายโกตี๋ ที่เคยนำม็อบมาคุกคามนายอภิสิทธิ์ และเดินทางมาคุกคามที่ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ด้วย ดังนั้นกลุ่มที่อ้างว่าเป็นชาวนาคือมวลชนเสื้อแดงของรัฐบาลที่ต้องการดิสเครดิตนักวิชาการนิด้า ทั้งนี้เห็นว่ารัฐบาลต้องใจกว้างรับการตรวจสอบจากทุกภาคส่วน เพราะอาจารย์นิด้ามีความชอบธรรมที่จะให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ และต้องเคารพคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญด้วย
นพ.วรงค์ กล่าวว่า ความเสียหายจากโครงการจำนำข้าวทุกเม็ดยังส่งผลกระทบต่อการพัฒนาสายพันธุ์ข้าวด้วย โดยผลพวงที่ออกมาคือในการประชุมข้าวโลกเมื่อวันที่ 26-28 กันยายน ที่เกาะบาหลี อินโดนีเซีย ผลการประกวดข้าวที่ดีที่สุดในโลก ข้าวหอมมะลิที่ได้รับรางวัลประจำปี 2012 คือข้าวของประเทศกัมพูชา นี่เป็นสัญญาณเตือนที่รัฐบาลต้องตระหนัก เพราะนโยบายมีผลกระทบต่อการพัฒนาสายพันธุ์ข้าว วันนี้ข้าวไทยไม่ใช่ข้าวที่ดีที่สุดในโลกแล้ว เพราะกัมพูชาได้รับเลือกให้เป็นข้าวหอมมะลิที่ดีที่สุดในโลกปีนี้ จึงขอส่งสัญญาณไปถึงรัฐบาลว่าผลกระทบของโครงการนี้นอกจากสูญเสียแชมป์การส่งออกให้เวียดนามยังเสียแชมป์ข้าวหอมะลิที่ดีที่สุดในโลกให้กับกัมพูชาด้วย
ส่วนนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส.กทม.พรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคอยากให้รัฐบาลทบทวนนโยบายจำนำข้าว เพราะนอกจากจะสร้างผลเสียหายให้กับประเทศชาติแล้วซึ่งจะส่งผลกระทบทั้งในเชิงเศรษฐกิจและสังคมต่อไป เพราะเสียงไม่เห็นด้วยในเรื่องจำนำข้าวไม่ได้มีเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น แต่คนที่ติดตามอยาางใกล้ชิดเช่น หน่วยงานด้านวิชการที่ไม่มีผลประโยชน์ได้เสียจากโครงการนี้ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม เช่น ทีดีอาร์ไอ และอาจารย์จากนิด้า ก็ได้ชี้ให้เห็นถึงความไม่ถูกต้องของนโยบายนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลควรจะรับฟัง
อีกทั้งการที่นายวีรพงศ์ออกมาแสดงความเห็นอย่างชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้ ยิ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องเปิดใจกว้างรับฟังเพราะเป็นคนของรัฐบาลเองที่ออกมาท้วงติง จึงขอว่ารัฐบาลอย่าทำเป็นตาบอดหูหนวก เป็นบอดเป็นใบ้ ไม่เช่นนั้นผลกระทบจะร้ายแรงจนเกินแก้ไข ทั้งนี้ขอฝากถึง ยิ่งลักษณ์ควรให้ความใส่ใจกับนโยบายี่จะกระทบกับประเทศชาติ ไม่ควรฟังข้อมูลจากรัฐมนตรีสายตรงของเจ๊ต่าง ๆ ที่ป้อนข้อมูลเพื่อให้อยุ่ในตำแหน่งและแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบต่อไป แต่นายกต้องมีความรับผิดชอบในเรื่องนี้ พรรคจะติดตามเรื่องนี้ต่อว่ารัฐบาลดำเนินการอะไรบ้าง