“เหวง”หน้าหงาย "ไก่อู"เปิดคลิปยันมีชุดดำ-เอี่ยว เสธ.แดง

“เหวง” ยันชุมนุมแดงเผาเมืองไม่มีกองกำลังติดอาวุธร่วมก๊วน โบ้ยข้อสรุป คอป.โน้มเอียง แถ “เสธ.แดง” ไม่เกี่ยวข้องแกนนำแดง ด้าน “เสธ.ไก่อู” เปิดคลิป “ไอ้กี้ร์” ปิดปากบ่งชัดมีกลุ่มคนถืออาวุธหนุนหลังเสื้อแดง เตรียมเชิญ “คณิต-จตุพร-ณัฐวุฒิ-คำรณวิทย์-วิชัย” ให้ข้อมูลครั้งต่อไป 5 ต.ค.นี้

วันนี้ (26 ก.ย.) ที่ห้องกรรมาธิการ 2 นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานอนุกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการสื่อสารมวลชน ร่วมกับนายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ นายธนิก มาศรีพิทักษ์ อนุกรรมาธิการ เชิญ นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด อดีตโฆษก ศอฉ. นายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาฯ สมช. นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ มาให้ข้อมูลช่วงการชุมนุมทางการเมือง 2553 โดยเฉพาะประเด็นชายชุดดำที่เข้ามาแฝงในการชุมนุมจนนำไปสู่การก่อเหตุการณ์ความวุ่นวายต่างๆ ตลอดการชุมนุมในช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. 2553 ทั้งนี้นายธาริตได้ติดภารกิจไม่ได้มาร่วมชี้แจงในครั้งนี้ด้วย

โดย นพ.เหวงเริ่มชี้แจงว่า คนเสื้อแดงถูกกล่าวหาว่ามีชายชุดดำร่วมอยู่ในการชุมนุม ซึ่งต้องนิยามคำว่าชายชุดดำ ในความหมายตนคือเป็นกองกำลังที่ติดอาวุธ อาทิ AK47, M79, อาร์พีจี หรือมีอาวุธสงครามชนิดอื่น และสวมชุดไอ้โม่ง แต่ชายชุดดำที่ปรากฏเป็นคำกล่าวหาจาก ศอฉ.ในสมัยรัฐบาลที่ผ่านมา ขอยืนยันการชุมนุมคนเสื้อแดงไม่มีกองกำลังติดอาวุธร่วมกับเสื้อแดง เมื่อมีการกล่าวหาอยากให้ผู้กล่าวหามีหลักฐานมายืนยัน เหมือนตนถูกกล่าวหาคบชู้สู่สาว คนกล่าวหาต้องนำหลักฐานช่วงที่อยู่สองต่อสองกับสาว หรือช่วงปฏิบัติการกับสาว หรือนำคราบอสุจิมาตรวจสอบว่าตนได้ทำอย่างที่กล่าวหาจริงหรือไม่ นอกจากนี้ ภาพถ่ายชายชุดดำที่ปรากฎในรายงานสรุปของ คอป.เป็นการนำภาพมาจากสื่อต่างประเทศ ไม่สามารถยืนยันแหล่งที่มาทั้งช่วงเวลา สถานที่ มีแต่การกล่าวอ้างว่าเป็นชายชุดดำ ข้อสรุป คอป.จึงค่อนข้างหละหลวม แนวโน้มเอียง ไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ เพื่อให้ข้อมูลครบถ้วนรอบด้าน การชี้แจงครั้งต่อไป อยากให้เชิญนายคณิต ณ นคร อดีตประธาน คอป. นายสมชาย หอมลออ กรรมการ คอป. และเจ้าหน้ที่ตำรวจระดับสูงมาให้ข้อมูลด้วย

จากนั้น นพ.เหวง ขอต่อที่ประชุมเปิดคลิปหลายเหตุการณ์ช่วงชุมนุมทางการเมืองปี2553 อาทิ คลิปที่นำมาจากสถานีทีวีช่องหนึ่งอ้างว่ามีคนแต่งกายลักษณะคล้ายชายชุดดำ ปฏิบัติการร่วมกับทหาร ยิงไปยังฝั่งผู้ชุมนุม คลิปคล้ายพลซุ่มยิง ยิงปืนไปยังกลุ่มผู้ชุมนุม คลิปที่อ้างว่าบริเวณหน้า รพ.หัวเฉียว หลังเสธ.แดงถูกยิงมีชายชุดดำ พยายามเข้าไปยัง รพ.เพื่อขอร่างกายเสธ.แดง และยังนำภาพถ่ายชายสวมเสื้อแดงขี่จักรยานยนต์ สะพายอาวุธ ขณะขับเข้าไปในเขตทหาร มาแสดงต่อที่ประชุม พร้อมกับระบุว่าจากคลิปและภาพที่เปิดเผย แสดงให้เห็นว่าชายชุดดำไม่ใช่พวกที่อยู่กับคนเสื้อแดง

ขณะที่ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ได้เปิดคลิปนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำเสื้อแดง ขณะปราศรัยหน้ากองบัญชาการ กองทัพบก ช่วงหนึ่งว่า การต่อสู้ครั้งนี้เป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้าย ขอบอกว่าเดิมทีคนเสื้อแดงมีพรรคและมวลชน แต่แก้วอีกประการหนึ่ง เรามีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายพร้อมสนับสนุนคนเสื้อแดง พร้อมเป็นปฏิปักษ์กับกองทัพหากทหารทำร้ายประชาชน จากคลิปดังกล่าวจะทราบว่า กองกำลังที่ว่าคงหมายถึงชายชุดดำ ถ้าคนกินข้าวก็น่าเข้าใจได้ว่ามีกลุ่มคนถืออาวุธสนับสนุนอยู่ ขณะที่อีกคลิปเป็นเหตุการณ์ 10 เม.ย.ที่เปิดให้ดู เมื่อฟังเสียงจะได้ยินผู้ตะโกนมาจากกลุ่มผู้ชุมนุมบอกว่า ต่อไปนี้ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น ให้บอกไม่รู้ ไม่เห็น จากคลิปดังกล่าวนั้นเหมือนเป็นการบอกนัยอะไรหรือไม่ เช่นเดียวกับคลิปที่ทหารขณะขับรถออกจากที่เกิดเหตุหลังการปะทะกัน แต่ถูกกลุ่มคนเสื้อแดงหลายคนล้อมรุมทำร้าย ฟาดตี จนทหารได้รับบาดเจ็บทำให้ต้องหนีมาจากรถคันดังกล่าว ซึ่งจำนวนนั้นถูกราดน้ำมันด้วย หมายความว่า ทหารเหล่านั้นกำลังจะถูกเผา รวมไปถึงคลิปคนเสื้อแดงยึดอาวุธจากเชิงสะพานปิ่นเกล้า ช่วงบ่ายวันที่ 10 เม.ย. ทำให้น่าเชื่อว่าอาวุธดังกล่าวถูกนำไปก่อเหตุในช่วงค่ำวันเดียวกันหรือไม่

เมื่อถึงช่วงนี้ นพ.เหวง โต้แย้งคลิปนายอริสมันต์ว่า หากนายอริสมันต์พูดเช่นนั้นก็ต้องรับผิดชอบคำพูด ส่วนวีรกรรมเสธ.แดงเรารับทราบ ชื่นชม เคารพ แต่ว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับแกนนำคนเสื้อแดง และขอยืนยันว่าเหตุการณ์ปล้นอาวุธ ไม่ได้เป็นแกนนำอยู่ที่เวทีสะพานผ่านฟ้าฯ แต่ในการปราศรัยก็ได้เน้นย้ำให้เอาอาวุธไปส่งคืนเจ้าหน้าที่ เข้าใจว่าช่วงนั้นได้ประสานไปยัง พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ไปแล้วเพื่อขอให้ส่งมอบให้นายทหารแล้ว

ขณะที่ พ.อ.สรรเสริญกล่าวแย้งว่า ได้สอบถามไปยัง พล.ต.ต.วิชัย และได้รับการยืนยันว่าไม่เคยได้รับการส่งมอบ แต่อาวุธที่ได้ เกิดจากเราตรวจยึดได้ในภายหลังตามสถานที่ต่างๆ อาทิ ใต้ฐานพระในวัดปทุมวนาราม โดยส่วนตัวจึงค่อนข้างเชื่อว่าอาวุธที่กลุ่มผู้ชุมนุมยึดได้นำไปก่อเหตุปะทะกับเจ้าหน้าที่ทหารแน่นอน

อดีตโฆษก ศอฉ.ยังแสดงภาพถ่าย พร้อมกล่าวถึงบทบาท พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดงนั้นว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้รับรายงานว่า เสธ.แดงเป็นผู้ฝึกให้กลุ่มชายชุดดำใช้อาวุธที่บริเวณสนามหลวง ซึ่งในรูปจะเห็นว่าแต่ละคนมีตัวตนจริง ตำรวจสามารถจับกุมตัวคนในภาพได้ หลายคนให้การยอมรับว่าเคยนำอาวุธไปก่อเหตุในพื้นที่ต่างๆ หลายครั้ง เช่น วันที่ 10 เม.ย.ยิงใส่ตึกไทยคู่ฟ้า วันที่ 8 พ.ค.ยิงใส่โรงแรมอินทรา ประตูน้ำ วันที่ 12 ก.ย.ยิงใส่ บ.เชียงใหม่ คอนสตรัคชั่น เป็นต้น ซึ่งจากข้อมูลที่แสดงคงเห็นได้ชัดว่ากลุ่มชายชุดดำมีความสัมพันธ์กับคนเสื้อแดง แต่แกนนำบางคนอาจจะรู้เรื่อง หรืออาจจะแกล้งไม่รู้เรื่อง

นายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการ สมช.กล่าวว่า ไม่เฉพาะเหตุการณ์ชายชุดดำที่ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐต้องข้าไปควบคุมและแก้ไขสถานการณ์ แต่การชุมนุม นปช.ในช่วงนั้นไม่ได้เป็นไปอย่างสงบ การเคลื่อนไปชุมนุมแต่ละสถานที่เหมือนเป็นการไปคุกคามก่อให้เกิดความตระหนก การประชุมของ ศอฉ.ที่กรมทหารราบ 11 ได้รับรายงานทุกวันมีการไปยิงยังสถานที่ต่างๆ อีกทั้งชายชุดดำไม่ได้รวมเป็นกองทัพหรือกองกำลัง แต่แฝงอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม ทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานลำบาก โดยคนชุดดำที่ปรากฏตัวอย่างชัดเจนคือวันที่ 10 เม.ย.หลายเหตุการณ์เห็นได้ชัดว่าการชุมนุมของ นปช.ไม่ได้เป็นไปอย่างสงบ เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องขอพื้นที่คืนจากผู้ชุมนุมวันที่ 19 พ.ค. 53 เจ้าหน้าที่ที่ออกปฏิบัติการนั้นถูกกำชับห้ามใช้ความรุนแรง และทำหน้าที่เป็นไปตามหลักการ

นายวัชระกล่าวว่า เพื่อให้ได้ข้อมูลครบถ้วนรอบด้าน ในการชี้แจงครั้งต่อไปวันที่ 5 ต.ค. กรรมาธิการได้ทำหนังสือเชิญนายคณิต ณ นคร นายสมชาย หอมลออ อดีตกรรมการ คอป. นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำเสื้อแดง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ มาให้ข้อมูลด้วย