xs
xsm
sm
md
lg

“ณัฐวุฒิ” หยันรายงาน คอป.แค่ข้อมูลระดับผิว อ้าง “นช.แม้ว” เป็นเหยื่อ ไม่ใช่ต้นตอปัญหา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ (แฟ้มภาพ)
“อำมาตย์แดง” ตามฟอร์ม หยันรายงาน คอป.เป็นข้อมูลระดับพื้นผิวที่หาอ่านได้ตาม นสพ. อ้าง “นช.แม้ว” เป็นเหยื่อไม่ใช่ต้นเหตุแห่งความขัดแย้ง พร้อมออกตัวแทนนายใหญ่ไม่ต้องการเป็นรัฐบุรุษ แต่จะขอเข้าถึงความยุติธรรม รับข้อมูล คอป.ไม่ตรงกับแก๊งเสื้อแดง ให้สังคมรอฟังศาล กล้าพูดไม่เคยรู้เรื่องชายชุดดำ ส่วนคนเผาเซ็นทรัลเวิลด์ ไม่ใช่คนเสื้อแดง เชื่อรายงาน คอป.จะไม่นำประเทศออกจากความขัดแย้ง แต่จะซ้ำรอยประวัติศาสตร์ที่เจ็บปวดมากกว่า

วันนี้ (18 ก.ย.) นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ แกนนำ นปช.ให้สัมภาษณ์ถึงรายงานของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ว่า ความจริง 2 ปีกว่าที่จะ คอป.ทำงาน ส่วนตัวคาดหวังว่าน่าจะมีข้อมูลเชิงลึกที่จะอธิบายภาพความขัดแย้งของสังคมไทย ซึ่งตนยืนยันว่าเป็นความขัดแย้งในทางโครงสร้าง

“ผมเห็นว่าสังคมไทยต้องจัดสมดุลใหม่เพื่อให้เกิดสมดุลทางการเมือง นำพาประเทศไปตามวิถีทางประชาธิปไตย และจะออกจากวิกฤตความขัดแย้งได้ในที่สุด แต่ของ คอป.เป็นข้อมูลในระดับพื้นผิว เป็นข้อมูลที่หาอ่านได้ตามสื่อสารมวลชน หรือรายงานเชิงวิเคราะห์อื่นๆ ซึ่งหากนำคำสัมภาษณ์ หรือท่าทีคู่ขัดแย้งแต่ละฝ่ายมาเรียบเรียงกันก็จะได้ข้อมูลไม่แตกต่างจากที่ คอป.สรุปรายงานมา ดังนั้นโดยส่วนตัวแล้วคาดหวังว่าน่าจะลึก น่าจะละเอียดมากกว่านี้ แต่เท่าที่เห็นเป็นลักษณะรายงานพื้นผิวของสถานการณ์จริงๆ”

ผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่าผิดหวังกับรายงานของ คอป.ที่ออกมา แกนนำ นปช.กล่าวว่า ตนไม่กล้าบอกว่าผิดหวังหรือสมหวัง เพียงแต่ตนเห็นว่าความขัดแย้งที่เกิดขึ้นตลอด 6 ปีที่ผ่านมามีความลึกซึ้ง มีความละเอียดอ่อนกว่าที่ คอป.รายงาน และดูเหมือนมิติของการรายงานก็จะมุ่งเน้นที่สถานการณ์ในเดือนเมษายนและพฤษภาคม 2553 ซึ่งข้อเท็จจริงก็ยังคงโต้แย้งกันอยู่ คอป.พยายามเจาะลึกถึงความมีตัวตนของชายชุดดำ แต่ก็ไปได้ไม่ลึกเกินกว่าที่นักการเมืองบางฝ่ายพยายามอธิบายมาตลอดเวลา ดังนั้น รายงานของ คอป.ไม่มีอะไรแตกต่างหรือลึกซึ้งเกินกว่าที่คนของพรรคประชาธิปัตย์ หรือบางกลุ่มพยายามจะพูดมาตลอด ขณะที่ข้อมูลการใช้กำลังของเจ้าหน้าที่ต่อประชาชน ซึ่งน่าจะมีเอกสาร หลักฐานทางราชการอยู่ครบถ้วนกลับไม่ปรากฎรายละเอียดที่ชัดเจนในรายงานของ คอป. ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลว่ามีสไนเปอร์อยู่กี่กระบอก มีเจ้าหน้าที่กี่คน คำสั่งออกมาอย่างไร ฯลฯ ซึ่งความจริงข้อมูลเหล่านี้ไม่น่าจะหายาก แต่เอาเอกสารทางราชการมาเรียงกันประชาชนก็จะได้เห็น แต่ปรากฏว่าไม่มี

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า การวิเคราะห์สาเหตุของความขัดแย้งที่ว่าเกิดจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้นตนก็ว่าไม่ใช่ ตนยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นหนึ่งในเหยื่อของความขัดแย้งของโครงสร้างอำนาจของสังคมไทย

“การที่นายคณิต ณ นคร ประธาน คอป.บอกว่าบ้านเมืองจะคลี่คลายได้ ต้องให้พ.ต.ท.ทักษิณเสียสละ หมายถึงรับทุกอย่างในชะตากรรมของชีวิตและจะกลายเป็นรัฐบุรุษในที่สุดนั้น ผมอยากให้นายคณิตทบทวนว่าสิ่งที่ท่านกำลังพูดนี้เท่ากับเป็นการซ้ำเติมรอยประวัติศาสตร์ที่เจ็บปวดของสังคมไทยมาตลอด ท่านไปยกตัวอย่าง ดร.ปรีดี พนมยงค์ ว่าไปอยู่ต่างประเทศแล้วเป็นรัฐบุรุษ นายคณิตไม่ทราบเลยหรือว่าชะตากรรมของ ดร.ปรีดีเจ็บปวดอย่างไร ไม่ทราบเลยหรือว่าคนไทยที่ได้สัมผัสความจริง เขาเจ็บปวดต่อชะตากรรมของผู้อภิวัฒน์เปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 ชื่อปรีดี พนมยงค์ อย่างไร ดังนั้นการจะเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นรัฐบุรุษด้วยการก้มหน้ายอมรับทุกอย่างนั้น ผมว่าเป็นต้องเรียกร้องที่ต้องทบทวน และผมเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้ต้องการเป็นรัฐบุรุษ แต่เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการเป็นมนุษย์ที่สามารถเข้าถึงความยุติธรรมได้เหมือนที่คนอื่นเขาพึงมีพึงเป็นเท่านั้นเอง ไม่มีใครในโลกนี้ที่เกิดมาเพื่อรองรับทุกสิ่งทุกอย่างโดยมีคนบางกลุ่มบางฝ่ายอ้างว่าเพื่อให้สังคมไปต่อข้างหน้าได้ สังคมจะไปต่อได้อย่างไรในเมื่อมันมีความอยุติธรรมปรากฎชัดแจ้ง เพราะมีการบังคับใช้กฎหมาย มีการบังคับใช้อำนาจนอกระบบเข้ามาจัดการโดยอ้างว่าเพื่อสร้างประชาธิปไตย ซึ่งผมว่ามันเป็นไปไม่ได้ในโลกของความเป็นจริง”

ผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่าข้อมูลของ คอป.ที่ออกมายังไม่ตรงกับแกนนำเสื้อแดงที่มีอยู่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ยอมรับว่าตนยังไม่ได้อ่านรายงานของ คอป.ทั้งหมด แต่เท่าที่เห็นจากข่าว ตนว่าสังคมไทยน่าจะรอความจริงรอบด้านจากศาลดีกว่า

เมื่อถามว่า นปช.จะมีการเคลื่อนไหวอะไรหรือไม่ แกนนำ นปช.กล่าวว่า ไม่มี เราเคารพ เพียงแต่อยากยืนยันว่าสิ่งที่ปรากฏในรายงาน ไม่น่าจะเป็นกุญแจในการนำประเทศไทยออกจากความขัดแย้งได้ เพราะในเมือเราไม่เข้าใจรากแก้วของปัญหา เราจะหาทางออกจากความขัดแย้งนี้ได้อย่างไร ซึ่งรายงานของ คอป.สำหรับตนคงสรุปได้ว่า คอป.ไม่ได้แตะต้องรากแก้วของปัญหาเลยแม้แต่น้อย

ส่วนชายชุดดำ ที่ คอป.สรุปว่ามีแน่นอนนั้น นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ตนไม่เคยสัมผัสหรือไม่เคยทราบข้อมูลเรื่องชายชุดดำ และหากใครก็ตามบอกว่ามีก็ต้องยืนยัน เพราะตนก็อยากรู้เหมือนกันว่าชายชุดดำที่ว่านั้นเป็นใคร หน้าตาเป็นอย่างไร ทำงานกันแบบไหน ใครเป็นคนสั่งการ เมื่อถามต่อว่าแสดงว่าปฏิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับชายชุดดำ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ตนไม่เกี่ยวข้อง และตลอดเวลาจนถึงวันนี้ตนก็ยังไม่ทราบอยู่ดีว่าใครคือชายชุดดำเหล่านั้น ซึ่งหากมีชายชุดดำคอยปฏิบัติการก็ไม่ใช่เรื่องที่ตนจะพอใจ เพราะคนเสี่ยงคือพวกตน เนื่องจากที่ผ่านมาพวกตนไม่มีอาวุธ ต่อสู้ตามแนวทางสันติวิธี เขาล้อมปราบกันวันที่ 10 เม.ย. 53 ตนก็วิ่งมาจากราชประสงค์ มาเพื่อยุติสถานการณ์ เพราะฉะนั้นตนก็อยากทราบว่าความจริงมันคืออะไร

ส่วนที่ในรายงานของ คอป.ระบุว่ามีความเกี่ยวข้องกับแกนนำนปช.นั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ถ้าอย่างนั้น คอป.ก็ชี้ให้ชัดเจมาเลย แต่นี่ 2 ปีกว่า คอป.ยังพูดได้เท่าที่พรรคประชาธิปัตย์กล่าวหา ตนก็ประหลาดใจ เพราะดูรายงานแล้วไม่ต่างจากที่หนังสือพิมพ์ลง หรือไม่ต่างจากที่พูดกันในสภาเลย 2 ปีกว่า คอป.น่าจะได้อะไรที่ชัดเจนและลึกซึ้งมากกว่านี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเผาเซ็นทรัลเวิลด์ที่ในรายงานของ คอป.ระบุว่ามาจากกลุ่มคนเสื้อแดง นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ตนก็ยิ่งประหลาดใจว่าที่ผ่านมาไม่เคยมีรายงานเลยว่า คอป.ได้ไปสัมภาษณ์ชุดผจญเพลิงของเซ็นทรัลเวิลด์หรือไม่ เพราะตนเคยคุยกับหัวหน้าชุดผจญเพลิงเขาพูดชัดว่ามีกำลังติดอาวุธเป็นเจ้าหน้าที่มาจี้คน 400 กว่าคนที่เฝ้าระวังเหตุในห้างให้ออกไปจากตึก และหลังจากนั้นก็เกิดเหตุเพลิงไหม้ ซึ่งเขายืนยันชัดเจนว่าคนเผาไม่ใช่คนเสื้อแดง แต่ไม่รู้ว่า คอป.มองข้ามคนพวกนี้ไปได้อย่างไร

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เห็นได้ชัดอย่างหนึ่ง แต่ปรากฏน้อยในรายงานของ คอป.คือ การบาดเจ็บ ล้มตายของประชาชนมือเปล่าที่พวกเขาไม่ใช่ชายชุดดำ ที่มาชุมนุมโดยบริสุทธิ์ใจเหล่านี้กลับไม่มีการหยิบยกออกมาให้เด่นชัด และเท่าที่ดูรายงานของนักวิชาการบางกลุ่มที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงยังมีความละเอียดและชัดเจนและลึกซึ้งกว่าด้วยซ้ำ ทั้งนี้ถึงอย่างไรก็ยอมรับรายงานของ คอป.เพราะถือเป็นหน้าที่ที่ทำมา แต่ก็เป็นเรื่องที่สังคมต้องใช้วิจารณาณ
กำลังโหลดความคิดเห็น