xs
xsm
sm
md
lg

ในวัดปทุวนารามมีชายชุดดำและอาวุธสงคราม รายงาน คอป.ที่คนเสื้อแดงไม่กล้าอ่าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ไม่ใชเรื่องเหนือความคาดหมายที่รายงานของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองกองแห่งชาติ หรือ คอป. จะถูกแกนนำ นปช.กลุ่มคนเสื้อแดง ทนายทักษิฯ นักวิชาการเด็กกาเหว่า และสื่อเครือมติชนวิพากษ์วิจารณ์ ไม่เห็นด้วย ถึงแม้ว่ารายงานของ คอป.นั้น มีข้อสรุปว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในช่วงของการชุมนุมเมื่อเดือนมีนาคม -พฤษภาคม 2553 มีสาเหตุทั้งจากกลุ่มชายชุดดำติดอาวุธสงคราม ที่ใช้ความรุนแรงต่อจ้าหน้าที่ประชาชน และทั้งจากความบกพร่องในปฏิบัติการคววบคุมฝูงชน ของ ศอฉ.ที่ใช่ทหารและอาวุธสงครามในการปฏิบัติการ

แต่ นชป.คนเสื้อแดง นักวิชาการและข่าวสด มติชน ก็เลือกหยิบเฉพาะกรณีของชายชุดดำขึ้นมาโจมตี รายงาน คอป. ฉบับนี้ เพราะรายงานของคอป. ดังกล่าวขัดแย้งกับสิ่งที่คนเหล่านี้พยายามโกหกบิดเบือนให้สังคมเชื่อมาตลอดว่า เหตุการณ์เมื่อเดือนมีนาคม – พฤษภาคมนั้น คือการที่ทหารฆ่าประชาชน

คนเหล่านี้พยายามโกหกว่า ไม่มีชายชุดดำ มีแต่ทหารหน่วยซุ่มยิงบนตึกสูง ที่ใช้อาวุธสงครามยิงผู้ชุมนุม การที่จะให้พวกเขายอมรับรายงาน ของ คอป.จึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะมันคือการตบหน้าตัวเอง ยอมรับว่าที่ผ่านมาสิ่งที่พูด รายงานข่าว และเขียน เป็นเรื่องโกหกทั้งสิ้น

รายงานของ คอป.เรื่องเหตุการณ์ในวัดปทุมวนาราม ได้ทำลาย เรื่องโกหก กรณี 6 ศพในวัดปทุมวนาราม ที่โกหกว่า ในวัดปทุมวนาราม มีแต่ผู้ชุมนุมที่ปราศจากอาวุธที่หนีเข้าไปหลบ มีแต่หน่วยอาสาพยาบาลที่เข้าไปช่วยคนบาดเจ็บ แต่ถูกทหาร ยิงลงมาจากรางรถฟ้าบีทีเอส จนเสียชีวิต เพราะรายงานของ คอป.ได้นำเสนอข้อมูลที่สังคมไม่เคยรับรู้มาก่อนว่า ในวัดปทุมวนาราม ไม่ได้มีแต่หน่วยอาสาพยาบาล ไม่ได้มีแต่ผู้ชุมนุมที่ปราศจากอาวุธ แต่มีชายชุดดำ มีการ์ด นปช.มีอาวุธสงครามจำนวนมาก

บางส่วนของรายงานที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ในวัดปทุมวนาราม ระบุว่า

“ในวันที่ 19 พฤษภาคม หลังจากแกนนำ นปช.ประกาศยุติการชุมนุมในเวลาประมาณ 13.20 น.บริเวณเวทีแยกราชประสงค์เต็มไปด้วยความโกลาหล ทำให้ผู้ชุมนุมบางส่วนราว 4,000 คนได้ทยอยเข้าไปใช้พื้นที่ภายในวัดปทุมวนารามเป็นที่หลบภัย

ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. ขณะเจ้าหน้าที่หน่วยรบพิเศษเคลื่อนกำลังทางภาคพื้นดินจากแยกปทุมวันไปโรงหนังสยามเพื่อช่วยคุ้มกันและอำนวยความสะดวกให้แก่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงซึ่งเพลิงกำลังไหม้โรงหนังสยาม เกิดการยิงปะทะกับคนชุดดำจำนวนสองคนบริเวณแยกเฉลิมเผ่า

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวจึงได้ถอยกลับไปวางกำลังที่สถานีรถไฟฟ้าสนามกีฬาแห่งชาติ ต่อมาเวลาประมาณ 17.30 น. จึงได้รับคำสั่งให้เคลื่อนกำลังมาบริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยามอีกครั้ง โดยมีกำลังเพิ่มเติมและได้เข้าควบคุมพื้นที่ชานชาลาทั้ง 2 ชั้นของสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม

ก่อนเวลาดังกล่าวอันเป็น เวลาประมาณ 15.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานนายหนึ่งได้เห็นการ์ดผู้ชุมนุมสองคนถือวัตถุชนิดหนึ่งโดยมีผ้าพันไว้ ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นอาวุธปืนยาว เดินบนทางเท้าถนนอังรีดูนังต์ด้านกองพิสูจน์หลักฐาน เมื่อถึงแยกเฉลิมเผ่าได้เลี้ยวขวาไปทางกลุ่มผู้ชุมนุม และจากปากคำของนายตำรวจสันติบาลให้ข้อมูลว่า ในช่วงเวลาดังกล่าว ขณะที่ตนนั่งรถยนต์ผ่านสยามสแควร์มาถนนอังรีดูนังต์ ขณะที่จะเข้าประตูสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรงข้ามกับร้านโคคาสุกี้ ได้ถูกคนร้ายยิงไล่หลังมาจากแยกเฉลิมเผ่า โดยพื้นที่ดังกล่าวกลุ่มผู้ชุมนุมได้ตั้งเครื่องกีดขวางถนนอังรีดูนังต์จากฝั่งร้านโคคาสุกี้ข้ามถนนไปยังหน้ากองบัญชาการสอบสวนกลาง

ช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. มีเจ้าหน้าที่ทหาร 7 คน วางกำลังอยู่บนรางรถไฟฟ้าชั้น 1 ด้านหน้าวัดปทุมวนาราม และบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม 5 นาย ทุกนายถืออาวุธปืนเอ็ม 16 กระสุนจริง พบว่า เจ้าหน้าที่ทหารเล็งและยิงลงไปในทิศทางวัดปทุมวนาราม จากการตรวจพื้นที่ของเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษบนรางรถไฟฟ้าชั้น 1 บริเวณเดียวกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด .223 (5.56) จำนวน 2 ปลอกยิงมาจากปืนกระบอกเดียวกันและพบกระสุนชนิดเดียวกันอีกหนึ่งนัด

นอกจากนี้พระวัดปทุมวนารามชั้นผู้ใหญ่รูปหนึ่งแจ้งว่า เห็นเจ้าหน้าที่ทหารอยู่บนรางรถไฟฟ้าหลายคนและในช่วงค่ำได้ยินเสียงปืนดังขึ้นบริเวณหน้าวัดจำนวนมาก และยังแจ้งว่า มีการ์ดผู้ชุมนุม ประมาณ 7 คนขอเข้ามาซ่อนตัวอยู่ในกุฏิและฝากถุงเงินถุงใหญ่ไว้ด้วย ซึ่งต่อมาได้มารับคืนไป

พบรอยกระสุนจำนวนมากบนพื้นถนนบริเวณประตูทางออกและ ประตูทางเข้าวัด เสากั้น (รั้ว) ริมถนนพระราม 1 และด้านนอกของกำแพงวัดปทุมวนาราม โดยมีทิศทางการยิงมาจากรางรถไฟฟ้าด้านหน้าวัดปทุมวนาราม และรอยกระสุนบนผนังด้านหลังศาลาสินธุเสก โดยมีทิศทางการยิงมาจากบริเวณสะพานลอยตรงแยกเฉลิมเผ่า ซึ่งเป็นบริเวณที่มีเจ้าหน้าที่ทหารปฏิบัติการอยู่ โดยมีความเป็นไปได้สูงว่าเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บบริเวณวัดปทุมวนาราม นอกจากนี้ยังพบกระจกอาคารภายในวัด และรถที่จอดภายในวัดได้รับความเสียหายจากกระสุนปืน

เหตุการณ์ความรุนแรงบริเวณวัดปทุมวนารามในวันที่ 19 พฤษภาคม ทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 คน โดยถูกยิงบริเวณหน้าประตูทางออกวัดปทุมวนาราม 1 คน คือนายอัฐชัย ชุมจันทร์ ที่เหลือถูกยิงภายในวัดปทุมวนาราม 5 คน ในจำนวนนี้ 2 คนเป็นอาสาสมัครหน่วยพยาบาลคือ นางสาวกมลเกด อัคฮาด และนายอัครเดช ขันแก้วโดยน่าจะถูกยิงบริเวณเต็นท์พยาบาลในวัด บริเวณประตูทางออกขณะเข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ และอีก 1 คน เป็นอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยถูกยิงขณะเข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ คือ นายมงคล เข็มทอง ทั้งหมดเสียชีวิตจากการถูกยิงด้วยกระสุนความเร็วสูง

จุดที่สันนิษฐานว่าผู้เสียชีวิตถูกยิงทั้งบริเวณประตูทางออกและด้านหลังศาลาสินธุเศก เป็นจุดที่สามารถยิงจากบริเวณที่ทหารปรากฏตัวอยู่บนรางรถไฟฟ้าได้ แต่มีข้อสังเกตว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุนั้นเป็น เวลาหลัง 18.00 น.และในจุดเกิดเหตุมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นปกคลุมอยู่ โดยเจ้าหน้าที่ทหารให้ข้อเท็จจริงว่ามีการยิงตอบโต้กันกับคนชุดดำในวัด

เจ้าหน้าที่ทหารให้ข้อมูลว่า เวลาประมาณ 18.00 น. บริเวณแยกเฉลิมเผ่า พบคนชุดดำถือปืนเอ็ม 16 ยิงใส่เจ้าหน้าที่แล้ววิ่งไปทางวัดปทุมวนารามโดยวิ่งเลียบไปตามกำแพงวัด และปรากฏภาพวีดิโอบันทึกเหตุการณ์ขณะเจ้าหน้าที่ทหารเคลื่อนกำลังไปบนถนนพระรามที่ 1 บริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสยาม ฝั่งสยามเซ็นเตอร์ โดยในวีดิโอเจ้าหน้าที่ทหารพูดว่า พบผู้มีอาวุธอยู่บริเวณเสาตอม่อรถไฟฟ้า สั่งให้เจ้าหน้าที่ทหารคุ้มกัน เจ้าหน้าที่ทหารบางคนยิง ปลย.และแก๊สน้ำตา และมีเสียงปืนดังอยู่กว่า 10 นาทีในภาพวีดิโอ

นอกจากนี้ ยังพบรอยกระสุนปืนบนทางเดิน SkyWalk และตอม่อรถไฟฟ้าบีทีเอส ตรงแยกเฉลิมเผ่า ซึ่งเป็นบริเวณที่มีผู้พบเห็นว่ามีคนชุดดำอยู่ โดยมีทิศทางการยิงมาจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสยาม ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ทหารอยู่ และพบร่องรอยกระสุนปืนที่สถานีรถไฟพ้า บีทีเอส สถานีสยาม ชั้นที่ 1 ที่มีเจ้าหน้าที่ทหารอยู่ ประมาณ 8 รอย โดยมีทิศทางการยิงมาจากด้านหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติบริเวณแยกเฉลิมเผ่าสดงว่ามีการยิงตอบโต้กันระหว่างเจ้าหน้าที่กับคนชุดดำจริง

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังแจ้งว่าในตอนเช้ามืดของวันที่ 20 พฤษภาคม ตนได้ไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุพบรอยเลือดของบุคคล 2 คน บริเวณแยกเฉลิมเผ่าถูกลากเป็นทางยาวไปตรงจุดก่อนถึงประตูทางเข้าของวัดปทุมวนาราม ซึ่งสอดคล้องกับการตรวจสอบจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ที่ตรวจพบรอยเลือดบริเวณแยกเฉลิมเผ่าเช่นกัน

ก่อนหน้าปฏิบัติการการกระชับพื้นที่ของ ศอฉ.ในวันที่ 19 พฤษภาคม มีผู้พบชายฉกรรจ์อยู่ในวัดปทุมวนารามและยังพบชายซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นหัวหน้าคนหนึ่งของการ์ด นปช. ในวัดด้วย นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งที่ได้พบกับผู้สื่อข่าวสตรีชาวจีนจำนวน 3 คนที่ขอให้ตนช่วยพาออกมาจากวัดปทุมวนารามในวันที่ 18 พฤษภาคมว่า ที่ไม่ประสงค์จะอยู่ต่อไปในวัดปทุมวนารามเพราะกลัว เนื่องจากเห็นว่ามีอาวุธอยู่ในวัด

วันที่ 20 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจที่เกิดเหตุพบปืนเอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก ใต้รถกอล์ฟภายในวัดจอดอยู่บริเวณศาลาสินธุเสกใกล้กำแพงหน้าวัด ตรวจสอบแล้วพบว่าปืนเอ็ม 16 กระบอกนี้เป็นปืนที่ผู้ชุมนุมยึดไปจากเจ้าหน้าที่ทหารบริเวณสามเหลี่ยมดินแดงเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม

ในวันที่ 21 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่ทหารร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจค้นพื้นที่และอาคารภายในวัดปทุมวนาราม พบปืนพกไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืน 7.62 มม. จำนวน 300 นัด แก๊สน้ำตา จำนวน 2 ลูก ประทัดยักษ์และระเบิดปิงปองจำนวนหนึ่ง[14]

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังตรวจพบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนหลายรายการซุกซ่อนอยู่ภายในสวนป่า วัดปทุมวนาราม เช่น ปืนเอ็ม 16 จำนวนหนึ่งกระบอก กระสุนปืนขนาด 7.62 มม. จำนวน 278 นัด ระเบิดขว้างชนิดสังหารจำนวน 4 ลูก และกระสุนปืน .223 (5.56 มม.) จำนวน 212 นัด และกระสุนระเบิดเอ็ม 79 ขนาด 40 มม. จำนวน 4 นัด[15] โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตรวจพบอาวุธให้ข้อมูลว่าได้รับข้อมูลจากประชาชนคนหนึ่ง จึงเข้าไปตรวจค้นบริเวณสวนป่า พบอาวุธหลายรายการดังกล่าวข้างต้นและบัตรการ์ด นปช.หนึ่งใบโดยอาวุธและสิ่งของดังกล่าวถูกซุกซ่อนอยู่ใต้ฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ในสวนป่าภายในวัดปทุมวนาราม”

ไม่น่าแปลกใจว่า ทำไมคนเสื้อแดงต้องฉีกรายงาน คอป.ทิ้ง ทั้งๆ ที่ คอป.ได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลนี้

กำลังโหลดความคิดเห็น