รายงานการเมือง
อีกประมาณหนึ่งสัปดาห์ต่อจากนี้ บรรดาข้าราชการทุกหน่วยงานก็จะเกษียณอายุราชการ เวลานี้ข้าราชการทั้งหลายโดยเฉพาะบรรดาบิ๊กๆ ในแต่ละหน่วยงานก็กำลังทำใจหรือนับถอยหลังลงจากอำนาจกันแล้ว
ภารกิจอะไรที่จะเป็นปัญหาให้ตัวเองหลังเกษียณอายุราชการ สิ่งไหนที่พอจะเกียร์ว่างได้ก็ต้องปล่อยให้เลยตามเลย เป็นเรื่องของผู้มาใหม่ รับ “เผือกร้อน” ไปแทน
อย่างที่ กระทรวงมหาดไทย” ตอนนี้ต้องติดตามการทำบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงคือพวกผู้ว่าราชการจังหวัด-ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยที่จะมีทั้งการแต่งตั้งเลื่อนขั้นและการโยกย้ายปรับเปลี่ยน ซึ่งตามข่าวที่สื่อนำเสนอบอกว่าแนวโน้มอาจจะมีการนำรายชื่อเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอังคารที่ 25 กันยายนนี้
นอกจากนั้นยังมีเรื่องที่น่าสนใจก็คือกระทรวงมหาดไทยจะทำอย่างไรกับเรื่องที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติด้วยเสียงข้างมากเอาผิด นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี-รมว.มหาดไทย กรณีสมัยเป็นรักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทยปี 45 ก่อนจะได้รับตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทยก่อนเกษียณอายุราชการไม่กี่วัน
ได้ใช้คำสั่งทางปกครองในฐานะรักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทยไปเพิกถอนคำสั่งกรมที่ดินที่สั่งเพิกถอนการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินหมู่บ้านและสนามกอล์ฟอัลไพน์ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานีตามมติที่ประชุมใหญ่คณะกรรมการกฤษฏีกาเมื่อปี 2544
ซึ่ง ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดนายยงยุทธเมื่อเร็วๆ นี้ว่า การกระทำดังกล่าว มีความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ อันเป็นความผิดทั้ง ตามพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 และความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
ป.ป.ช.ส่งเรื่องไปกระทรวงมหาดไทยเพื่อให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาลงโทษทางวินัยย้อนหลังนายยงยุทธ ภายใน 30 วัน ตั้งแต่เมื่อปลายเดือนสิงหาคม รวมถึงส่งสำนวนและความเห็น ป.ป.ช.ในคดีดังกล่าวไปให้ พระนาย สุวรรณรัฐ ปลัดกระทรวงมหาดไทยที่จะเกษียณอายุราชการ 30 ก.ย.นี้เพื่อให้ยกเลิกคำสั่งนายยงยุทธเมื่อปี 45 ย้อนหลังด้วย
สรุปให้เข้าใจง่ายก็คือ ป.ป.ช.ทำเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทยเพื่อให้ลงโทษทางวินัย ผู้เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของกระทรวงคือยงยุทธ ที่เป็น รมว.มหาดไทย และยังส่งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทยเพื่อให้เพิกถอนคำสั่งยงยุทธ มท.1 ย้อนหลังเพื่อให้คำสั่งกรมที่ดินเมื่อปี 45 กลับคืนสู่สภาพเดิม คือให้เพิกถอนการถือครองสิทธิในที่ดินของสนามกอล์ฟและหมู่บ้านอัลไพน์
เรื่องนี้เป็นเผือกร้อนเสียยิ่งกว่าเผือกร้อนสำหรับ “พระนาย” ปลัดมหาดไทยที่จะเกษียณอายุราชการอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้แล้ว ซึ่งแม้จะไม่ต้องเกรงใจใครโดยเฉพาะตัวยงยุทธ ผู้บังคับบัญชาเวลานี้
แต่เมื่อการตัดสินใจเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ มีผลกระทบวงกว้างมาก ขณะเดียวกัน ช่องทางการดำเนินการตามมติ ป.ป.ช.ยังพอมีอยู่ ไม่ต้องรีบตัดสินใจดำเนินการ จึงทำให้เรื่องการพิจารณาลงโทษทางวินัยตัวยงยุทธและการพิจารณาเพิกถอนคำสั่งย้อนหลังยงยุทธ จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ
เพราะกระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะข้าราชการที่เกี่ยวข้อง ก็ต้องพยายามศึกษาข้อกฎหมายต่างๆ ให้รอบคอบรัดกุมมากที่สุด หากต้องดำเนินการตามมติ ป.ป.ช. ส่วนลูก “เกรงใจ” ตัว ยงยุทธ มท.1-หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ของแบบนี้บรรดาข้าราชการทั้งหลายไม่ว่าระดับไหน มันก็คงต้องมีบ้าง
ขณะเดียวกัน คนที่เกี่ยวข้องในมหาดไทย ก็คงกำลังพิจารณาดูด้วยว่า แล้วหากไม่ปฏิบัติตามมติ ป.ป.ช. จะมีอะไรเกิดขึ้นหรือไม่ เช่น การถูกเอาผิดข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ เพราะหากมัวแต่ยื้อเวลาออกไป ดีไม่ดี จะกลายเป็นว่าตัวเองจะโดนเอาผิดจาก ป.ป.ช.ข้อหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่ได้
ก็เลยทำให้การพิจารณาลงโทษทางวินัยตัวยงยุทธและการพิจารณาเพิกถอนคำสั่งย้อนหลังยงยุทธของกระทรวงมหาดไทย ถอยหลังไม่ได้แต่ก็ไม่มีอะไรคืบหน้าออกมา
แม้จะมีข่าวเล็ดลอดออกมาว่า ในการประชุมคณะทำงานพิจารณาเพิกถอนคำสั่งของยงยุทธ เมื่อปี 45 ซึ่งมี นายสุรพล พงษ์ทัดศิริกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน จะเรียกประชุมคณะทำงานไปเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาคือ 17 ก.ย. 55 พร้อมกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้ง นายอนุวัฒน์ เมธีวิบูลวุฒิ รองปลัดกระทรวงมหาดไทยชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผอ.สำนักกฎหมาย กระทรวงมหาดไทย-ผู้แทนกรมที่ดิน เพื่อหารือถึงแนวทางการเพิกถอนคำสั่งนายยงยุทธดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม คณะทำงานหารือข้อกฎหมายกันแล้วได้ข้อยุติว่า เบื้องต้นมหาดไทยก็ต้องปฏิบัติตามมติ ป.ป.ช.ในเรื่องการเตรียมเสนอเรื่องให้เพิกถอนคำสั่งยงยุทธปี 45 เพราะหากไม่ปฏิบัติตาม อาจมีปัญหาข้อกฎหมายได้
เพียงแต่กระบวนการของมหาดไทยจะทำอย่างไรให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน-บริษัทเอกชนที่ถือเอกสารสิทธิที่ดินดังกล่าวอยู่ให้น้อยที่สุด หากทำโดยรีบเร่งเกินไป ก็เสี่ยงจะเกิดผลกระทบตามมามากมาย เช่น การฟ้องร้องเพื่อเรียกค่าเสียหายที่น่าจะเป็นเงินหลายพันล้านบาท ที่จะเป็นปัญหาข้อกฎหมายตามมาไม่จบสิ้น
ขณะเดียวกันฝ่ายบิ๊กมหาดไทยที่นั่งเป็นคณะทำงานพิจารณาการเพิกถอนคำสั่งดังกล่าว อย่าง สุรพล-อนุวัฒน์ ก็จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายนนี้เช่นเดียวกับ พระนาย ปลัดมหาดไทย
เลยมีข่าวว่า คณะทำงานยังไม่มีข้อสรุปอย่างเป็นทางการเสนอไปให้ พระนาย-ปลัดมหาดไทย เห็นชอบ เพียงแต่บอกแนวทางกว้างๆ ว่าเรื่องนี้มีข้อกฎหมายอะไรเกี่ยวข้องบ้าง-แนวทางปฏิบัติต้องทำอย่างไร
แต่มีข่าวออกมาว่า หนึ่งในข้อเสนอที่ส่งขึ้นไปก็คือ ให้มีการถามความเห็นข้อกฎหมายไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง เพื่อขอความชัดเจนจะได้ไม่เกิดปัญหาตามมา เช่นทำเรื่องกลับไปสอบถามที่กรรมการกฤษฎีกาอีกรอบเพื่อให้สิ้นสงสัยไปเลย ว่าอะไรทำได้ไม่ได้ ถ้าทำต้องทำแบบไหน
ถ้าออกมาในรูปนี้ ขั้นตอนต่างๆ ดูแล้วคงยืดเยื้อ เรื่องคงไม่จบภายใน 7 วัน 10 วัน แน่นอน ดูท่าจะเป็นหนังยาว ไม่ได้ข้อสรุปก่อน 30 ก.ย.นี้
เผือกร้อนคดีอัลไพน์ คนที่จะมารับไปสะสางแก้ไขหลังจากนี้ ก็เลยไม่ใช่ใคร ที่ไหน ต้องคนนี้เลย วิบูลย์ สงวนพงศ์ ว่าที่ปลัดมหาดไทย คนที่ทักษิณ ชินวัตร เลือกมาเป็นปลัดมหาดไทยนั่นเอง