ที่สำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) นายพร้อมพงศ์ เทพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและรองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย มายื่นหนังสือต่อกกต. เพื่อขอตรวจสอบคุณสมบัติความเป็นส.ส.ของนายยงยุทธ หลังจากที่คณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน กระทรวงมหาดไทย มีมติไล่ออกนายยงยุทธจากราชการ เมื่อครั้งที่ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทยจากกรณีที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ โดยนายพร้อมพงศ์กล่าวว่า การยื่นครั้งนี้ได้แนบเอกสารการประชุมอ.ก.พ.ความเห็นของกฤษฎีกาและพ.ร.บ.ล้างมลทินให้กกต.ด้วย และต้องการให้ฝ่ายค้านและประชาชนคลายความสงสัยในการทำหน้าที่ของนายยงยุทธ รวมถึงการแสดงสปิริตในการดำรงตำแหน่งรองนายกฯ และรมว.มหาดไทย และว่านายยงยุทธไม่ถอดใจลาออกจากตำแหน่ง เพราะไม่ได้ทำให้ฝ่ายใดเสียหายจึงเรียกร้องฝ่ายค้านให้ยุติการกดดันเล่นการเมืองอย่างสร้างสรรค์มากกว่าการให้ร้ายลดความเชื่อถือของรัฐบาลและนายยงยุทธ และขอให้รอการวินิจฉัยของกกต. ก่อน
ต่อมานายจาตุรันต์ บุญเบญจรัตน์ ผู้ช่วยผู้ประสานงานกลุ่มกรีน เข้ายื่นหนังสือต่อกกต.ขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติส.ส.ของนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ และนายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ว่าสิ้นสุดตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๐๒ (๖) และมาตรา ๑๗๔ (๔) หรือไม่ และนายยงยุทธทำหน้าที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองตลอดเวลาที่ผ่านมาเป็นโมฆะหรือไม่ โดยนายจาตุรันต์กล่าวว่า จากคำสั่งของอ.ก.พ.กระทรวงมหาดไทยที่มีมติไล่นายยงยุทธออกจากราชการ กรณีทุจริตที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ และท้ายคำสั่งระบุว่าการลงโทษทางวินัยกับนายยงยุทธอ ยู่ในหลักเกณฑ์ที่ได้รับการล้างมลทินตามพ.ร.บ.ล้างมลทิน ๒๕๕๐ มาตรา ๕ เห็นว่า นายยงยุทธไม่เข้าข่ายได้รับประโยชน์จากพ.ร.บ.ดังกล่าว เพราะนับตั้งแต่อ.ก.พ.มีมติไล่ออกนายยงยุทธยังไม่ได้รับโทษบางส่วนหรือรับโทษทั้งหมด ตามหลักเกณฑ์มาตรา ๕ ดังนั้น มติของอ.ก.พ.กระทรวงมหาดไทยทำให้นายยงยุทธขาดคุณสมบัติในการเป็นรัฐมนตรีและส.ส. ส่วนกรณีที่อ.ก.พ.กระทรวงมหาดไทยมีมติไล่ออกนายยงยุทธ ให้มีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ ๓๐ ก.ย. ๒๕๔๕ นั้น น่าเป็นห่วงว่าการกระทำของนายยงยุทธในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในช่วงหลังวันที่ ๓๐ ก.ย. ๒๕๔๕ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการรับรองส่งผู้สมัครส.ส.หรือร่วมจัดตั้งรัฐบาลจะมีผลเป็นโมฆะหรือไม่
นายจาตุรันต์กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีนายปลอดประสพนั้น กลุ่มกรีนเห็นว่าการที่พ ล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ลงนามในคำสั่งสำนักนายกฯ วันที่ ๑๕ ธ.ค. ๒๕๕๐ไล่นายปลอดประสพออกจากราชการ โดยให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ ๒๘ มี.ค. ๒๕๔๘ จากกรณีเป็นอธิบดีกรมป่าไม้ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ในการพิจารณาอนุญาตให้บริษัทศรีราชาไทเก้อร์ จำกัด ส่งออกเสือโคร่งเบงกอล ๑๐๐ ตัว ไปประเทศจีนนั้น เกิดขึ้นหลังจาก พ.ร.บ.ล้างมลทิน ๒๕๕๐ มีผลบังคับใช้แล้ว ตามหลักเกณฑ์ของพ.ร.บ.ดังกล่าว ผู้ที่จะเข้าข่ายต้องเป็นผู้ที่ถูกลงโทษทางวินัย ในกรณีที่ได้กระทำก่อนหรือในวันที่ ๕ ธ.ค. ๒๕๕๐ แต่นายปลอดประสพคำสั่งให้ปลดออกลงวันที่ ๑๕ ธ.ค. ๒๕๕๐ และนายปลอดประสพก็ยังไม่เคยได้รับโทษมาก่อนเช่นเดียวกับนายยงยุทธ
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ ๒๖ ก.ย. นายยงยุทธ วิชัยดิษฐได้สั่งการผ่านกระทรวงมหาดไทย ให้แจกจ่ายเอกสารให้กับสื่อมวลชนเรื่องที่ดินอัลไพน์ โดยชุดแรกเป็นเอกสาร ๓๔ หน้า เรื่องเหตุผลประกอบการพิจารณาการรับอุทธรณ์ของนายยงยุทธ เป็นเอกสารคัดจากที่ได้ชี้แจงต่อคณะอนุกรรมการไต่สวนของป.ป.ช.ในเอกสารระบุว่า การรับโอนที่ดินของบริษัทอัลไพน์กอล์ฟ จำกัด ได้ปฏิบัติตามระเบียบปฏิบัติของทางราชการ เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายแล้วโดยการออกความเห็นนี้ เป็นการปฏิบัติราชการตามปกติ แต่ได้มีการทบทวนทั้งด้านปัญหาข้อเท็จจริง ความเหมาะสมในการทำคำสั่งทางปกครองที่สำคัญด้านข้อกฎหมาย
หนังสือดังกล่าวระบุว่า ข้อเท็จจริงในทางปฏิบัตินั้น นิติบุคคลทางศาสนาที่ประสงค์จะได้มาซึ่งที่ดิน ต้องขออนุญาตจากรัฐมนตรีจึงจะมีสิทธิ์ได้มาซึ่งที่ดิน แม้ปัจจุบันรัฐมนตรีจะมอบอำนาจให้อธิบดีกรมที่ดิน แต่ต้องรายงานผลปฏิบัติงานให้รัฐมนตรีผู้มีอำนาจตามกฎหมายรับทราบการปฏิบัติราชการแทนประจำทุกเดือน แม้แต่นายถาวร แสนเนียม รมช.มหาดไทย ที่กำกับดูแลกรมที่ดินขณะนั้นได้ลงนามรับทราบการปฏิบัติงานในวันที่ ๑๓ ม.ค. ๒๕๕๒ นอกจากนี้ยังมีรัฐมนตรีอีกหลายคนได้ลงนามรับทราบ
ทั้งนี้การใช้ดุลพินิจในการรับอุทธรณ์เป็นไปด้วยความสุจริตใจ ทบทวนทุกอย่างรอบด้าน ดังนั้นขอปฏิเสธทุกข้อหาเกี่ยวกับการใช้อำนาจปลัดกระทรวงเพิกถอนคำสั่งอธิบดีกรมที่ดิน และยืนยันว่าปฏิบัติหน้าที่ชอบด้วยกฎหมายระมัดระวัง เป็นกลางเป็นไปด้วยความสุจริต
อนึ่ง หลังจากเขียนบทความนี้จบลง ได้ข่าวว่า นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ได้ลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันศุกร์ที่ ๒๘ ก.ย. นี้แล้ว
ต่อมานายจาตุรันต์ บุญเบญจรัตน์ ผู้ช่วยผู้ประสานงานกลุ่มกรีน เข้ายื่นหนังสือต่อกกต.ขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติส.ส.ของนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ และนายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ว่าสิ้นสุดตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๐๒ (๖) และมาตรา ๑๗๔ (๔) หรือไม่ และนายยงยุทธทำหน้าที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองตลอดเวลาที่ผ่านมาเป็นโมฆะหรือไม่ โดยนายจาตุรันต์กล่าวว่า จากคำสั่งของอ.ก.พ.กระทรวงมหาดไทยที่มีมติไล่นายยงยุทธออกจากราชการ กรณีทุจริตที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ และท้ายคำสั่งระบุว่าการลงโทษทางวินัยกับนายยงยุทธอ ยู่ในหลักเกณฑ์ที่ได้รับการล้างมลทินตามพ.ร.บ.ล้างมลทิน ๒๕๕๐ มาตรา ๕ เห็นว่า นายยงยุทธไม่เข้าข่ายได้รับประโยชน์จากพ.ร.บ.ดังกล่าว เพราะนับตั้งแต่อ.ก.พ.มีมติไล่ออกนายยงยุทธยังไม่ได้รับโทษบางส่วนหรือรับโทษทั้งหมด ตามหลักเกณฑ์มาตรา ๕ ดังนั้น มติของอ.ก.พ.กระทรวงมหาดไทยทำให้นายยงยุทธขาดคุณสมบัติในการเป็นรัฐมนตรีและส.ส. ส่วนกรณีที่อ.ก.พ.กระทรวงมหาดไทยมีมติไล่ออกนายยงยุทธ ให้มีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ ๓๐ ก.ย. ๒๕๔๕ นั้น น่าเป็นห่วงว่าการกระทำของนายยงยุทธในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในช่วงหลังวันที่ ๓๐ ก.ย. ๒๕๔๕ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการรับรองส่งผู้สมัครส.ส.หรือร่วมจัดตั้งรัฐบาลจะมีผลเป็นโมฆะหรือไม่
นายจาตุรันต์กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีนายปลอดประสพนั้น กลุ่มกรีนเห็นว่าการที่พ ล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ลงนามในคำสั่งสำนักนายกฯ วันที่ ๑๕ ธ.ค. ๒๕๕๐ไล่นายปลอดประสพออกจากราชการ โดยให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ ๒๘ มี.ค. ๒๕๔๘ จากกรณีเป็นอธิบดีกรมป่าไม้ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ในการพิจารณาอนุญาตให้บริษัทศรีราชาไทเก้อร์ จำกัด ส่งออกเสือโคร่งเบงกอล ๑๐๐ ตัว ไปประเทศจีนนั้น เกิดขึ้นหลังจาก พ.ร.บ.ล้างมลทิน ๒๕๕๐ มีผลบังคับใช้แล้ว ตามหลักเกณฑ์ของพ.ร.บ.ดังกล่าว ผู้ที่จะเข้าข่ายต้องเป็นผู้ที่ถูกลงโทษทางวินัย ในกรณีที่ได้กระทำก่อนหรือในวันที่ ๕ ธ.ค. ๒๕๕๐ แต่นายปลอดประสพคำสั่งให้ปลดออกลงวันที่ ๑๕ ธ.ค. ๒๕๕๐ และนายปลอดประสพก็ยังไม่เคยได้รับโทษมาก่อนเช่นเดียวกับนายยงยุทธ
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ ๒๖ ก.ย. นายยงยุทธ วิชัยดิษฐได้สั่งการผ่านกระทรวงมหาดไทย ให้แจกจ่ายเอกสารให้กับสื่อมวลชนเรื่องที่ดินอัลไพน์ โดยชุดแรกเป็นเอกสาร ๓๔ หน้า เรื่องเหตุผลประกอบการพิจารณาการรับอุทธรณ์ของนายยงยุทธ เป็นเอกสารคัดจากที่ได้ชี้แจงต่อคณะอนุกรรมการไต่สวนของป.ป.ช.ในเอกสารระบุว่า การรับโอนที่ดินของบริษัทอัลไพน์กอล์ฟ จำกัด ได้ปฏิบัติตามระเบียบปฏิบัติของทางราชการ เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายแล้วโดยการออกความเห็นนี้ เป็นการปฏิบัติราชการตามปกติ แต่ได้มีการทบทวนทั้งด้านปัญหาข้อเท็จจริง ความเหมาะสมในการทำคำสั่งทางปกครองที่สำคัญด้านข้อกฎหมาย
หนังสือดังกล่าวระบุว่า ข้อเท็จจริงในทางปฏิบัตินั้น นิติบุคคลทางศาสนาที่ประสงค์จะได้มาซึ่งที่ดิน ต้องขออนุญาตจากรัฐมนตรีจึงจะมีสิทธิ์ได้มาซึ่งที่ดิน แม้ปัจจุบันรัฐมนตรีจะมอบอำนาจให้อธิบดีกรมที่ดิน แต่ต้องรายงานผลปฏิบัติงานให้รัฐมนตรีผู้มีอำนาจตามกฎหมายรับทราบการปฏิบัติราชการแทนประจำทุกเดือน แม้แต่นายถาวร แสนเนียม รมช.มหาดไทย ที่กำกับดูแลกรมที่ดินขณะนั้นได้ลงนามรับทราบการปฏิบัติงานในวันที่ ๑๓ ม.ค. ๒๕๕๒ นอกจากนี้ยังมีรัฐมนตรีอีกหลายคนได้ลงนามรับทราบ
ทั้งนี้การใช้ดุลพินิจในการรับอุทธรณ์เป็นไปด้วยความสุจริตใจ ทบทวนทุกอย่างรอบด้าน ดังนั้นขอปฏิเสธทุกข้อหาเกี่ยวกับการใช้อำนาจปลัดกระทรวงเพิกถอนคำสั่งอธิบดีกรมที่ดิน และยืนยันว่าปฏิบัติหน้าที่ชอบด้วยกฎหมายระมัดระวัง เป็นกลางเป็นไปด้วยความสุจริต
อนึ่ง หลังจากเขียนบทความนี้จบลง ได้ข่าวว่า นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ได้ลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันศุกร์ที่ ๒๘ ก.ย. นี้แล้ว