xs
xsm
sm
md
lg

ลูกจ้าง อ.อ.ป.ร้องศาลปกครอง ประกวดราคาให้เช่า “ที่ดินบางโพ” ส่อกลิ่นหึ่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พนักงาน-ลูกจ้างองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ร้องต่อศาลปกครองกลาง ขอให้สั่งยกเลิกการประกวดราคาให้เช่าที่ดิน อ.อ.ป.แปลงบางโพ 2 แปลง ชี้ออกหลักเกณฑ์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตั้งกรรมการรับและเปิดซองและพิจารณาผลคนเดียวกัน แถมผู้ชนะการประมูลก็ไม่ได้ประกอบอาชีพตามงานที่ประมูลราคา ส่อเจตนาทุจริต เอื้อประโยชน์เอกชน

วันนี้ (29 ส.ค.) นายเลิศ เศรษฐสิทธิ์ กับพวกรวม 97 คน ซึ่งเป็นพนักงาน ลูกจ้างของสำนักอุตสาหกรรมไม้ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ได้ยื่นฟ้ององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ หรือ อ.อ.ป. และผู้อำนวยการ อ.อ.ป. เป็นผู้ถูกฟ้องคดีต่อศาลปกครองกลาง ขอให้มีคำพิพากษาให้การดำเนินการประกวดราคาการให้เช่าที่ดินขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ แปลงบางโพ กทม. รวม 2 แปลง เป็นโมฆะ, ขอให้พิพกากษายกเลิกคำสั่งองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ที่ 46/2555 เรื่องระเบียบองค์การอุตสหากรรมป่าไม้ ว่าด้วยการจัดหาประโยชน์ในทรัพย์สินขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ พ.ศ. 2555 และยกเลิกประกาศองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ครั้งที่ 10 เรื่องการให้เช่าใช้ประโยชน์ที่ดินขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ แปลงบางโพ กทม. และมีคำพิพากษาให้การทำสัญญาเช่าที่ดินเพื่อใช้ประโยชน์ที่ดิน แปลงบางโพตามสัญญาที่ ส.กม.22/2555 ลงวันที่ 23 ส.ค. เป็นโมฆะ และระหว่างที่ศาลยังไม่มีคำพิพกาษาขอให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว โดยสั่งให้ อ.อ.ป.ชะลอดารดำเนินการใดๆ อันเกี่ยวกับการให้เช่าที่ดินแปลงบางโพทั้ง 2 แปลงไว้จนกว่าคดีถึงที่สุดและได้มีการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67

ทั้งนี้ คำฟ้องระบุเหตุที่ต้องฟ้องคดีว่า ผู้ฟ้องคดีเห็นว่าการออกประกาศให้เช่าที่ดินแปลงบางโพของ ผอ.ออป.จำนวน 2 ครั้ง คือประกาศเช่าที่ดินฉบับลงวันที่ 28 ก.พ. และฉบับลงวันที่ 27 มี.ค.ตามโครงการพัฒนาที่ดินของ อ.อ.ป.เป็นการกระทำการขัดกฎหมาย เพราะไม่ใช้วิธีการประมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ แต่ใช้วิธีการประมูลยื่นซองประกวดราคา ซึ่งก็มิได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุ และคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีทาง อิเล็กทรอนิกส์ (กวพ.อ.) และการที่ ผอ.อ.อ.ป.มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการให้เช่าใช้ประโยชน์ที่ดินของ อ.อ.ป. โดยมีการตั้งคณะกรรมการรับซองและเปิดซอง คณะกรรมการพิจารณาผล ก็ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะตั้งบุคคลเดียวกันเป็นทั้งกรรมการรับและเปิดซองและพิจารณาผล ขัดต่อข้อบังคับองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2548 ข้อ 25 วรรคสี่

นอกจากนี้ยังพบว่า การกำหนดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิเสนอเช่าใช้ประโยชน์ที่ดิน ยังมีลักษณะเอื้อประโยชน์ต่อผู้เช่าใช้ประโยชน์ที่ดิน ขัดต่อหลักกฎหมาย และธรรมเนียมปฏิบัติของการประกวดราคา เช่นการที่ อ.อ.ป.ไม่กำหนดเงื่อนไขของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว ของผู้เสนอโครงการในการประกวดราคา ไม่มีการกำหนดคุณลักษณะของผู้เสนอโครงการว่าต้องเป็นผู้มีประสบการณ์หรือผลงานในการทำงานให้หน่วยงานรัฐ รวมทั้งตัดรายการเอกสารที่ต้องแสดงหลักฐานการเงินออกไปซึ่งน่าจะจะมีเจตนาหลีกเลี่ยงการตรวจสอบในเรื่องที่เกี่ยวกับการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เสนอราคา ตามข้อบังคับ อ.อ.ป. ว่าด้วยการพัสดุ ข้อ 36 (1) (2) อันเป็นการช่วยเหลือให้ผู้เสนอราคารายใดได้สิทธิเข้าทำสัญญากับหน่วยงานรัฐโดยไม่เป็นธรรม

“จากการไม่กำหนดหลักเกณฑ์เหล่านี้ ทำให้บริษัท สยาม แอสแซท จำกัด เป็นผู้ชนะการเสนอราคา ซึ่งภายหลังวันที่ประกาศให้บริษัทดังกล่าวเป็นผู้ชนะการเสนอราคาแล้ว อ.อ.ป.ได้มีการตรวจสอบสถานประกอบการของบริษัท ก็พบว่า ไม่ได้มีการประกอบอาชีพ หรือธุรกิจในลักษณะของงานที่ประมูลหรือประกวดราคา ไม่มีป้ายชื่อ ไม่มีลูกจ้าง ทำให้น่าเชื่อว่าเป็นนายหน้ามากกว่า ที่จะเป็นผู้ดำเนินธุรกิจตัวจริง” คำฟ้องระบุ

อีกทั้งเห็นว่าการที่ อ.อ.ป.กำหนดให้ใช้แต่ราคาของกรมธนารักษ์ซึ่งประเมินในรอบบัญชี 51-54 แต่เพียงอย่างเดียวในการประกวดราคา โดยไม่ได้กำหนดราคาขั้นต่ำที่ อ.อ.ป.ควรได้รับเพิ่ม ถือเป็นการเสียโอกสและเป็นความเสียหายที่ อ.อ.ป.ได้รับ เพราะแม้ปัจจุบันที่ดิน 2 แปลงดังกล่าวซึ่งมีเนื้อที่รวม 8 ไร่ 2 งาน 60 ตารางวา กรมธนารักษ์จะประเมินไว้ว่ามีราคา 523,115,000 บาท แต่โดยข้อเท็จจริงสถานที่ดังกล่าว อยู่ใกล้เคียงกับเส้นทางรถไฟฟ้าบีทีเอส และเอ็มอาร์ทีสายสีม่วงและสายสีแดง ที่ปัจจุบันกำลังมีการก่อสร้างอยู่

ดังนั้น เป็นที่ทราบกันดีว่าที่ดินดังกล่าวจะต้องมีราคาสูงกว่าที่กรมธนารักษ์ประเมิน และการที่ ผอ.อ.อ.ป. ลงนามระเบียบองค์การอุตสาหกรรมการป่าไม้ว่าด้วยการจัดหาประโยชน์ในทรัพย์สินของ อ.อ.ป. 55 โดยระบุว่า มูลค่าโครงการหมายความถึงมูลค่าที่ดินรวมมูลค่าก่อสร้างตามโครงการ ก็เพราะเจตนาที่จะควบคุมมูลค่าโครงการไม่ให้ถึงพันล้านบาท เพื่อที่จะได้ไม่ต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ 2535 ซึ่งการกระทำดังกล่าวส่อเจตนาทุจริต ทำให้ อ.อ.ป.เสียประโยชน์ที่ควรจะได้รับ และเป็นการกีดกันผู้ประกอบการรายอื่นที่ประสงค์เสนอโครงการในเชิงพานิชย์ที่มีมูลค่าเกินพันล้าน รวมถึงยังเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญมาตรา 67 เนื่องจากโครงการที่จะมีการดำเนินการกระทบต่อชุมชน แต่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองยังไม่เคยประเมินผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนในชุมชน ไม่เคยมีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ผู้มีส่วนได้เสียของผู้ฟ้องคดีที่พักอาศัยในชุมชนขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ หรือชุมชนใกล้เคียง จึงขอให้ศาลมีคำพิพากษาตามที่ร้องขอ
กำลังโหลดความคิดเห็น