ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชาวบ้านเนินกะบก ต.บึง อ.ศรีราชา ร้องบ่อทิ้งขยะของเทศบาลนครแหลมฉบังส่งกลิ่นเหม็นมาก วอนทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขโดยด่วน ด้านบริษัทดำเนินโครงการสร้างศูนย์กำจัดขยะแบบครบวงจร แจงพร้อมดำเนินการแต่ติดที่บอร์ดของกรมธนารักษ์ ยังไม่ได้เซ็นรับทราบจึงไม่สามารถดำเนินการได้
นายทินกร วงค์ทิพย์ ชาวบ้านเนินกะบก ตำบลบึง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เผยว่า ขณะนี้บ่อทิ้งขยะของเทศบาลนครแหลมฉบังส่งกลิ่นเหม็นรบกวนชาวบ้านบริเวณโดยรอบเป็นอย่างมาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ โดยต้องทนรับสภาพกลิ่นเหม็นมาเป็นเวลานานมากแล้ว รวมทั้งน้ำใต้ดินก็ไม่สมารถนำมาใช้ได้เนื่องจากมีกลิ่นเหม็นโดยเฉพาะเวลาที่ฝนตกจะเหม็นมาก
ที่ผ่านมาเคยร้องเรียนไปยังเทศบาลนครแหลมฉบังหลายครั้งแล้ว และทราบว่าทางเทศบาลฯ ก็ได้ดำเนินการเร่งแก้ไขปัญหาอยู่ โดยในระยะสั้นได้นำน้ำยาดับกลิ่นมาใส่ รวมทั้งทำการฝังกลบขยะทุกวันที่มีการนำขยะมาทิ้ง ส่วนในระยะยาวนั้นทราบว่ามีการว่าจ้างบริษัท คลีน อินไวรอนเมนท์ จำกัด ดำเนินโครงการสร้างศูนย์กำจัดขยะแบบบูรณาการในพื้นที่ฝังกลบขยะของเทศบาลนครฯ ตั้งแต่ปี 2554
แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถดำเนินการได้ จึงอยากขอร้องให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินโดยด่วนเนื่องจากชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนมาเป็นเวลานานมากแล้ว หากโครงการดังกล่าวเกิดขึ้นเร็วจะสามารถช่วยผ่อนคลายความเดือดร้อนของชาวบ้านได้บ้าง
ด้านนายชวโรจน์ เชื้อเจริญศักดิ์ ประธานกรรมการบริษัท คลีน อินไวรอนเมนท์ จำกัด เผยว่า ทางบริษัทได้รับดำเนินโครงการสร้างศูนย์กำจัดขยะแบบบูรณาการในพื้นที่ฝังกลบขยะของเทศบาลนครแหลมฉบัง พร้องทั้งได้ลงพื้นที่ทำประชาพิจารณ์ ในที่ประชุมมีการลงมติเห็นชอบกับโครงการดังกล่าว นอกจากนี้ ทางบริษัทได้ทำการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น (IEE) ตามวิธีการทางกฎหมายทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว
สำหรับวิธีการดำเนินการนั้น ทางบริษัทมุ่งเน้นการกำจัดมูลฝอยแบบครบวงจร มีการนำมูลฝอยกลับมาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด พร้อมทั้งเทคโนโลยีที่นำมาใช้เป็นเทคโนโลยีสะอาด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยที่ผ่านมาได้พาชาวบ้านไปศึกษาดูการดำเนินโครงการกำจัดมูลฝอยในลักษณะเดียวกันมาแล้ว ซึ่งทุกคนเห็นชอบว่าสามารถกำจัดกลิ่นเหม็นจากบ่อขยะได้จริงๆ
แต่เนื่องจากที่ดินที่จะดำเนินโครงการเป็นที่ดินของกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง ซึ่งในปัจจุบันเทศบาลนครแหลมฉบังได้ใช้เพื่อเป็นศูนย์ฝังกลบมูลฝอย เนื้อที่ 238 ไร่ โดยจะแบ่งพื้นที่ 110 ไร่ในการดำเนินโครงการฯ โดยที่ผ่านมาทางบริษัทได้ดำเนินการขออนุญาตจากธนารักษ์จังหวัดชลบุรีเรียบร้อยแล้ว และได้ส่งเรื่องไปยังกรมธนารักษ์เพื่อให้อธิบดีกรมธนารักษ์นำเรื่องเสนอบอร์ดเพื่อให้บอร์ดได้เซ็นรับทราบ
จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหนังสือรับทราบจากบอร์ดของกรมธนารักษ์ ซึ่งทราบว่ายังไม่มีการนำเรื่องเข้าที่ประชุมบอร์ดฯ จึงเป็นสาเหตุการล่าช้าของโครงการฯ ซึ่งหากทุกอย่างเรียบร้อย ทางบริษัทสามารถดำเนินการได้ภายใน 3 เดือนจะสามารถช่วยบรรเทากลิ่นเหม็นลงได้บ้างและหากดำเนินการเต็มโครงการกลิ่นเหม็นที่ชาวบ้านได้รับก็จะหมดไป