xs
xsm
sm
md
lg

ก.ท่องเที่ยวฯ สอดไส้ของบอีก 290 ล. ขยายศูนย์ฯ เชียงใหม่-ดึงเอกชนคุม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กระทรวงการท่องเที่ยวฯ สอดไส้ของบปี 56 สร้างศูนย์ประชุมฯ เชียงใหม่อีก 290 ล้าน อ้าง สำหรับสร้างที่พักคนงาน โรงเก็บขยะ และใช้เพื่อจ้างเอกชนเข้ามาบริหารในช่วงแรก ขณะที่ โครงการอีลิทการ์ดเจอโรคเลื่อนไม่เข้า ครม. เหตุแผนธุรกิจยังไม่ชัดเจน

นายสุวัตร สิทธิหล่อ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เสนอของบประมาณเพิ่มเติมวงเงิน 290 ล้านบาท เพื่อใช้ดำเนินงานในโครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติ จังหวัดเชียงใหม่ โดยจะบรรจุไว้ในการเสนอของบประมาณประจำปี 2556

วงเงินดังกล่าว จะแบ่งเป็น 190 ล้านบาทใช้ในการก่อสร้างเพิ่มเติมและจัดซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการจัดนิทรรศการ เช่น การจัดสร้างโรงพักแยกขยะ โรงซ่อมอุปกรณ์เครื่องมือ ที่พักคนงาน รถโฟล์คลิฟต์ รถกอล์ฟ เป็นต้น ส่วนพื้นที่ศูนย์ประชุมฯ ขณะนี้เสร็จสมบูรณ์ 100% เหลือเพียงจัดเก็บการตกแต่งและรายละเอียดของงานและการติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกภายในพื้นที่จัดประชุม โดยตามสัญญาจะแล้วเสร็จทั้งหมดราวเดือนกันยายนศกนี้

ส่วนอีก 100 ล้านบาทเตรียมไว้ให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ไปใช้ในการดำเนินการจัดจ้างเอกชนมาบริหารศูนย์ประชุมฯ ในช่วงปลายปีนี้ จนกว่าได้ผู้ชนะประมูลสิทธิ โดยระหว่างนี้ ททท.ต้องทำการศึกษา พร้อมร่างทีโออาร์ประกาศให้เอกชนที่สนใจเข้ามาบริหารศูนย์ฯ แห่งนี้ ตามหลักเกณฑ์ของ พ.ร.บ.ร่วมทุน เพราะเป็นโครงการขนาดใหญ่ซึ่งรัฐบาลใช้เงินลงทุนกว่า 2 พันล้านบาท

“ขอยืนยันว่ากระทรวงฯ จะไม่เข้าไปบริหารศูนย์ฯ แห่งนี้แน่นอน แต่จะเปิดกว้างให้เอกชนที่มีความสามารถและสนใจเข้ามาประมูลสิทธิในการบริหาร เบื้องต้นหารือกับกฤษฎีกาและกรมธนารักษ์แล้ว และเห็นชอบให้ ททท.เข้ามาศึกษาในเชิงธุรกิจว่าจะมีจุดคุ้มทุนของการบริหารอย่างไร เช่น กรอบคุ้มทุน 25-30 ปี รวมถึงวิเคราะห์ศักยภาพทางการตลาด ความเป็นไปได้ของแผนธุรกิจที่เอกชนนำมาเสนอ“

เหตุที่ยังไม่สามารถเปิดให้ภาคเอกชนเข้าชมพื้นที่ได้เพราะอยู่ระหว่างการก่อสร้าง แต่มีการเปิดให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารศูนย์ประชุมอย่าง อิมแพ็ค และเอ็นซีซี เข้าชมพื้นที่แล้ว เพื่อให้ข้อมูลที่จำเป็นว่าศูนย์ฯ เชียงใหม่แห่งนี้ยังขาดสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรบ้าง และมีสิ่งใดที่ควรแก้ไข ล่าสุดมีชาวต่างชาติแสดงความจำนงขอใช้พื้นที่ศูนย์ฯ เชียงใหม่เพื่อจัดงานแล้ว

นายสุวัตรกล่าวถึงกรณีโครงการบัตรไทยแลนด์อีลิท ที่มีการเลื่อนเสนอเข้าที่ประชุม ครม. จากเดิมที่กำหนดไว้เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเพราะผู้กำกับดูแลด้านนโยบายที่เกี่ยวข้อง เสนอแนวคิดมาว่าต้องการให้บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด หรือทีพีซี ไปจัดทำวิธีการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรมได้มากกว่านี้มาเสนอ

โดยแผนงานจะต้องฉายภาพให้เกิดความเชื่อมั่นถึงอนาคตโครงการนี้ว่าจะสามารถอยู่รอดและทำได้จริง เช่น แผนการหาสมาชิกใหม่ ต้องบอกวิธีการมาให้ชัดเจน, กลยุทธ์การจูงใจลูกค้าให้เข้ามาเป็นสมาชิกมีวิธีการอย่างไรบ้าง เป็นต้น
กำลังโหลดความคิดเห็น