เตรียมชงแผนอีลิทการ์ดเข้า ครม. 29 พฤษภาคมศกนี้ รองผู้ว่าการ ททท.เผยเข้าพบทีมที่ปรึกษา “ยิ่งลักษณ์” ขอคำแนะนำเพิ่มหวังเสนอ ครม.ผ่านฉลุย ขณะที่มีใบสั่งตรงถึง “จันทิมา” ให้ลาออกจากตำแหน่งรักษาการฯ ทีพีซีสังเวยคนหน้าแตก
นางวิไลวรรณ ทวิชศรี รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวถึงความคืบหน้าการเตรียมการจัดทำแผนธุรกิจบริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด (ทีพีซี ) ดูแลโครงการบัตรไทยแลนด์ อีลิท การ์ด ล่าสุดได้ทำงานร่วมกับทีมที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ซึ่งให้แนวคิดว่าต้องเพิ่มรายละเอียดเข้าไปในแผนการตลาดด้วย โดยขณะนี้ทางบริษัทอยู่ระหว่างการเพิ่มเติม คาดว่าจะนำเสนอต่อนายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาในวันที่ 29 พฤษภาคม 55
“ทางทีพีซีจะเสนอแผนกลับไปยังทีมที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีอีกครั้งในวันที่ 17 พฤษภาคม ศกนี้ ก่อนเสนอต่อที่ประชุม ครม. 29 พฤษภาคม 55”
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของตำแหน่งรักษาการผู้จัดการทีพีซี ททท.ได้ส่งเรื่องไปยังสำนักงานคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ หรือ สคร. เพื่อตีความทางกฎหมายว่าสามารถให้พนักงานรัฐวิสาหกิจ ผู้บริหาร ททท.ที่ดำรงตำแหน่งกรรมการในบอร์ดทีพีซีเข้าไปดำรงตำแหน่งได้หรือไม่ ซึ่งหากย้อนไปในอดีต การตีความของ สคร.เคยระบุไว้ว่า ตำแหน่งรักษาการดังกล่าวสามารถคัดเลือกจากกรรมการในบอร์ดเป็นรักษาการผู้จัดการได้
แหล่งข่าวจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเปิดเผยว่า ผู้มีอำนาจสูงสุดของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้มีคำสั่งให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในฐานะเป็นผู้ถือหุ้น 100% ในบริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด (ทีพีซี) ติดต่อไปยังนางจันทิมา สิริแสงทักษิณ กรรมการและรักษาการผู้จัดการใหญ่ทีพีซี ให้ลาออกจากตำแหน่งรักษาการฯ ในทีพีซี โดยไม่ได้ระบุเหตุผลที่ต้องการให้ลาออก
ทั้งนี้มีความเป็นไปได้ว่า คำสั่งให้นางจันทิมาลาออกครั้งนี้น่าจะเป็นผลสืบเนื่องจากการที่นางจันทิมาเป็นผู้ที่หาทางผลักดันให้อีลิทการ์ดได้ดำเนินกิจการต่อไป ทำให้ล่าสุดมีคำสั่งจากผู้ที่ริเริ่มให้จัดทำโครงการนี้ให้เดินหน้าโครงการอีลิทการ์ดต่อเพื่อแลกกับการที่พรรคชาติไทยพัฒนาจะได้ดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และอยู่ในรัฐบาลต่อไป ทั้งที่ก่อนหน้านี้ นายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ยืนยันคำเดียวว่าจะต้องยุบเลิกโครงการนี้ให้ได้
ทางด้านคนใกล้ชิดนางจันทิมากล่าวว่า หากมีคำสั่งดังกล่าวออกมาก็พร้อมที่จะลาออกจากตำแหน่งรักษาการฯ ทีพีซี เพื่อต้องการแสดงให้เห็นว่าไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่ง และไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับโครงการนี้ไม่ว่าจะอยู่ต่อหรือยุบทิ้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากโครงการนี้ผ่านความเห็นชอบจาก ครม.จะต้องใช้งบประมาณเพื่อรีแบรนดิ้งทีพีซีถึง 200 ล้านบาท โดยวงเงินดังกล่าวมาจากวงเงินชำระทุนจดทะเบียนที่ค้างชำระ 500 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นวงเงินที่สูงมาก
นางวิไลวรรณ ทวิชศรี รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวถึงความคืบหน้าการเตรียมการจัดทำแผนธุรกิจบริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด (ทีพีซี ) ดูแลโครงการบัตรไทยแลนด์ อีลิท การ์ด ล่าสุดได้ทำงานร่วมกับทีมที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ซึ่งให้แนวคิดว่าต้องเพิ่มรายละเอียดเข้าไปในแผนการตลาดด้วย โดยขณะนี้ทางบริษัทอยู่ระหว่างการเพิ่มเติม คาดว่าจะนำเสนอต่อนายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาในวันที่ 29 พฤษภาคม 55
“ทางทีพีซีจะเสนอแผนกลับไปยังทีมที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีอีกครั้งในวันที่ 17 พฤษภาคม ศกนี้ ก่อนเสนอต่อที่ประชุม ครม. 29 พฤษภาคม 55”
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของตำแหน่งรักษาการผู้จัดการทีพีซี ททท.ได้ส่งเรื่องไปยังสำนักงานคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ หรือ สคร. เพื่อตีความทางกฎหมายว่าสามารถให้พนักงานรัฐวิสาหกิจ ผู้บริหาร ททท.ที่ดำรงตำแหน่งกรรมการในบอร์ดทีพีซีเข้าไปดำรงตำแหน่งได้หรือไม่ ซึ่งหากย้อนไปในอดีต การตีความของ สคร.เคยระบุไว้ว่า ตำแหน่งรักษาการดังกล่าวสามารถคัดเลือกจากกรรมการในบอร์ดเป็นรักษาการผู้จัดการได้
แหล่งข่าวจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเปิดเผยว่า ผู้มีอำนาจสูงสุดของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้มีคำสั่งให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในฐานะเป็นผู้ถือหุ้น 100% ในบริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด (ทีพีซี) ติดต่อไปยังนางจันทิมา สิริแสงทักษิณ กรรมการและรักษาการผู้จัดการใหญ่ทีพีซี ให้ลาออกจากตำแหน่งรักษาการฯ ในทีพีซี โดยไม่ได้ระบุเหตุผลที่ต้องการให้ลาออก
ทั้งนี้มีความเป็นไปได้ว่า คำสั่งให้นางจันทิมาลาออกครั้งนี้น่าจะเป็นผลสืบเนื่องจากการที่นางจันทิมาเป็นผู้ที่หาทางผลักดันให้อีลิทการ์ดได้ดำเนินกิจการต่อไป ทำให้ล่าสุดมีคำสั่งจากผู้ที่ริเริ่มให้จัดทำโครงการนี้ให้เดินหน้าโครงการอีลิทการ์ดต่อเพื่อแลกกับการที่พรรคชาติไทยพัฒนาจะได้ดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และอยู่ในรัฐบาลต่อไป ทั้งที่ก่อนหน้านี้ นายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ยืนยันคำเดียวว่าจะต้องยุบเลิกโครงการนี้ให้ได้
ทางด้านคนใกล้ชิดนางจันทิมากล่าวว่า หากมีคำสั่งดังกล่าวออกมาก็พร้อมที่จะลาออกจากตำแหน่งรักษาการฯ ทีพีซี เพื่อต้องการแสดงให้เห็นว่าไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่ง และไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับโครงการนี้ไม่ว่าจะอยู่ต่อหรือยุบทิ้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากโครงการนี้ผ่านความเห็นชอบจาก ครม.จะต้องใช้งบประมาณเพื่อรีแบรนดิ้งทีพีซีถึง 200 ล้านบาท โดยวงเงินดังกล่าวมาจากวงเงินชำระทุนจดทะเบียนที่ค้างชำระ 500 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นวงเงินที่สูงมาก
