ผู้นำฝ่ายค้านฯ ระบุอภิปรายงบฯ วันแรก “กิตติรัตน์” แจงไม่เคลียร์ บางคำถามไม่ได้คำตอบ เตือนรัฐบาลดึงคนนอกนั่งรองผู้ว่าการแบงก์ชาติต้องดูกฎหมาย ห่วงแนวคิดทำค่าเงินอ่อนตัวเพื่อหนุนส่งออกอันตราย หวั่นพังเหมือนวิกฤตต้มย้ำกุ้งปี 40 เผย 19 ส.ค.จะแฉ 1 ปีความล้มเหลวของรัฐบาล ทั้งเรื่องพลังงาน ราคาพืชผลการเกษตร การส่งออก การขยายตัวทางเศรษฐกิจ และของแพง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2556 ว่า ฝ่ายค้านนำเสนอชัดเจนในเรื่องสถานะการเงินการคลังที่น่าเป็นห่วงถ้ารัฐบาลยังมีความคิดที่จะกู้เงินอีก 2 ล้านล้านบาทเพิ่มจากที่กู้มา 3.5 แสนล้านแต่ยังไม่มีความชัดเจนในแผนงานที่จะทำ โดยได้นำเสนอให้เห็นว่าที่รัฐบาลเคยอ้างถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการที่จะใช้จ่ายเงินเพื่อป้องกันน้ำท่วม แต่สุดท้ายก็ไม่มีความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรม เพราะในปีนี้การใช้จ่ายเงินกู้เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมมีการใช้ไปไม่ถึง 5% และยังมีโครงการต่างๆ ที่เริ่มนำเสนอ เช่น กรณีจำนำข้าวว่ามีความเสียหาย มีความรั่วไหล ไม่โปร่งใสอย่างไร และต่อจากนี้ก็จะลงรายละเอียดตามกระทรวงต่างๆ ซึ่งจากการอภิปรายในวันแรกนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ในฐานะประธานกรรมาธิการฯก็พยายามชี้แจงแต่หลายคำถามยังไม่ได้รับคำตอบ แม้แต้ข้อมูลพื้นฐานในเรื่องรายละเอียดโครงการที่ใช้ในส่วนของงบกลางก็ไม่มีให้ โดยบอกว่าจะนำมาให้ในวันนี้ ซึ่งการชี้แจงในวาระสองเป็นเรื่องของกรรมาธิการฯเป็นหลัก แต่ถ้ามีประเด็นพาดพิงถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีก็ต้องชี้แจง
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าการเมืองกำลังจะเข้าไปแทรกแซงการเลือกรองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยที่กำลังจะว่างลงสองตำแหน่ง ด้วยการเอาคนนอกองค์กรมาเป็นรองผู้ว่าฯแทนคนในนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การพิจารณาต้องเป็นไปตามระเบียบกฎหมายเกี่ยวกับขั้นตอนการสรรหา แต่สิ่งที่ต้องจับตาคือแนวความคิดที่จะเปลี่ยนบทบาทและนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยเฉพาะความคิดที่ตนมองว่าอันตราย คือ การบอกว่าต่อไปธนาคารแห่งประเทศไทยจะไม่ถูกกำหนดให้บริหารโดยมีเป้าหมายในเรื่องของเงินเฟ้อ และอาจจะไปถึงขั้นที่จะทำให้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนกลับไปเป็นลักษณะเหมือนอัตราคงที่ ซึ่งไทยเคยพยาามทำระบบนี้จนเสียหายมามากแล้ว
“การที่รัฐบาลมีแนวคิดจะทำให้ค่าเงินบาทอ่อนเพื่อหนุนการส่งออกด้วยกาประกาศว่าค่าเงินต้องเป็นเท่านั้นเท่านี้ ถือว่าอันตรายมากเพราะเราเคยเผชิญกับปัญหาอย่างนี้มาแล้วจากวิกฤตปี 40 เนื่องจากสุดท้ายค่าเงินจะถูกกำหนดโดยปัจจัยพื้นฐานของตลาดคือความต้องการเงินตราต่างประเทศ แต่ถ้ารัฐบาลพยายามไปฝืนกลไกนี้ก็จะต้องเอาเงินสำรองระหว่างประเทศมาซื้อขายเก็งกำไรในตลาดแลกเปลี่ยนก็จะเป็นอันตราย” นาอยภิสิทธิ์กลาว
ผู้นำฝ่ายค้านฯ เชื่อว่า เหตุผลที่ทำให้รัฐบาลมีแนวคิดแบบนี้เป้นเพราะเริ่มเห็นชัดเจนว่าปัญหาการส่งออก และดุลการค้าไม่สามารถบริหารให้เป็นไปตามเป้าหมายได้ และต้องยอมรับว่ารัฐบาลพยายามทุกวิถีทางที่จะใช้นโยบายที่คิดว่าจะเปิดโอกาสให้ตัวเองมีเครื่องมือในการใช้จ่ายเงินหรือทำตัวเลขเศรษฐกิจออกมาโดยไม่คำนึงถึงอนาคนและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคมเป็นต้นไปพรรคจะนำเสนอผลกระทบทางเศรษฐกิจในทุกๆ ด้าน ตลอดช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะป็นเรื่องพลังงาน พืชผลทางการเกษตร การส่งออก การขยายตัวทางเศรษฐกิจ ของแพง โดยจะนำตัวเลขของจริงมาอธิบายให้ประชาชนทราบ เพื่อให้ประชาชนเห็นภาพและเข้าใจได้ง่ายว่าอะไรเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจที่ถดถอยในช่วงตลอด 1 ปีที่ผ่านมา โดยไม่มีเรื่องละคร
นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ยอมรับว่านายกรัฐมนตรียังไม่พอใจการทำงานของ กปต.ว่า พรรคยืนยันมาตลอดว่าโครงสร้างไม่จำเป็นต้องมีการตั้งหน่วยงานใหม่แต่ขอให้บริหารตามโครงสร้างดิมที่ถูกกำหนดอยู่ในกฎหมายให้มีความเป็นเอกภาพ โดยรัฐบาลต้องกำหนดทิศทางให้ชัดเจนเรื่องการเมืองนำการทหาร การพัฒนา การอำนวยความยุติธรรม ถ้านายกฯยังไม่พอใจก็ต้องเร่งแก้ไขเพราะไม่ควรจะมีการลองผิดลองถูกกับนโยบายนี้อีกต่อไปแล้ว
