น้ำมันทรงตัว-หุ้นสหรัฐฯ บวกน้อยแม้ภาคบริการเติบโตเกินคาด

เอเอฟพี - ราคาน้ำมันปิดผสมผสานวานนี้ (5) หลังผลหารือของกลุ่มจี 7 เพื่อจัดการวิกฤตหนี้ยูโรโซนยังไม่ได้แผนลงมือที่ชัดเจนจากเหล่าผู้นำยุโรป ขณะที่วอลล์สตรีทก็ปิดในกรอบแคบๆ เช่นกัน หลังได้ข้อมูลทางเศรษฐกิจภายในประเทศเข้ามาผ่อนคลายความกังวลต่อปัญหาทางการเงินในยุโรปของนักลงทุน

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 31 เซ็นต์ ปิดที่ 84.29 ดอลลาร์ ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกันลดลง 1 เซ็นต์ ปิดที่ 98.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

“ตลาดตั้งความหวังว่าเหล่าผู้นำชาติยุโรปจะบทสรุปในสำหรับช่วยเหลือภาวะเศรษฐกิจที่กำลังตะเกียกตะกายและค้นพบแผนช่วยปกป้องสเปนรวมถึงชาติที่เหลือของยูโรโซน” ฟิล ฟลีนน์ นักวิเคราะห์จากพีเอฟจีกล่าว

อย่างไรก็ตาม การประชุมฉุกเฉินทางโทรศัพท์บรรดารัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการแบงก์ชาติของกลุ่ม 7 ชาติอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก (จี-7) ลงเอยด้วยการที่ยังไม่มีแผนอย่างเฉพาะเจาะจงและได้แค่คำมั่นสัญญาจากเหล่าผู้นำในสหภาพยุโรปที่ยืนยันจะตอบสนองต่อวิกฤตหนี้สินอย่างฉับไวเท่านั้น

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (5) ปิดบวกเล็กน้อยท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังข้อมูลภาคบริการที่เติบโตเกินคาดหมายของอเมริกา กลบกระแสความกังวลต่อวิกฤตภาคเงินในยุโรปได้พอสมควร

ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 26.11 จุด (0.22 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 12,127.57 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 18.10 จุด (0.66 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,778.11 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 7.38 จุด (0.57 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,285.48 จุด

วอลล์สตรีทแกว่งตัวขึ้นมาปิดในแดนบวกได้สำเร็จ หลังสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ไอเอสเอ็ม) รายงานว่า ดัชนีภาคการบริการของประเทศในเดือนพฤษภาคม อยู่ที่ 53.7 จุด เพิ่มขึ้นจาก 53.3 จุดของเดือนเมษายน บ่งชี้ถึงการขยายตัวเล็กน้อย สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดหมายว่าจะลดลงเหลือ 53.1 จุด