วิกฤตสเปนฉุดเงินยูโรร่วงทุบสถิติ ญี่ปุ่นห่วงเยนแข็ง-หุ้นโลกตกระนาว

เอเจนซีส์ - ตลาดหุ้นทั่วโลกพากันหล่นฮวบ ขณะที่เงินยูโรร่วงแรงสุดในรอบ 12 ปีเมื่อแลกเปลี่ยนกับเงินเยนในวันจันทร์(23) สืบเนื่องจากการที่ดีลเลอร์แห่ซื้อเงินตราญี่ปุ่น เพราะกังวลกับวิกฤตหนี้สินในสเปน ท่ามกลางเสียงคาดเก็งว่าอีกไม่นานรัฐบาลแดนกระทิงดุจะต้องขอความช่วยเหลือฉุกเฉินอย่างเต็มขั้น ไม่เพียงแค่เพื่อช่วยภาคการธนาคารของตนเองอย่างในปัจจุบัน ส่วนทางด้านญี่ปุ่นเองก็ไม่ปลื้มกับการแข็งค่าของเยนที่ส่งผลกระทบอย่างแรงต่อภาคส่งออก

เงินตราสกุลเดียวแห่งยุโรปอ่อนยวบลงอยู่ที่ 94.24 เยนในการซื้อขายช่วงบ่ายวันจันทร์ (23) ของตลาดเอเชีย ถือเป็นระดับต่ำสุดนับจากเดือนพฤศจิกายน 2000 และลดจาก 95.38 เยนในตลาดนิวยอร์กวันศุกร์ (20)

ยูโรยังอ่อนลงเมื่อเทียบดอลลาร์อยู่ที่ 1.2110 ดอลลาร์ ใกล้เคียงสถิติต่ำสุดในรอบ 2 ปี จาก 1.2152 ดอลลาร์เมื่อวันศุกร์

อะสึชิ ฮิราโน เทรดเดอร์อาวุโสของรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ในโตเกียว มองว่ายูโรจะหล่นทะลุ 93 เยนในสัปดาห์นี้ตามข่าวปัญหาหนี้ในยุโรป

ดีลเลอร์พากันเทขายยูโรหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสเปนระยะ 10 ปีพุ่งทะลุ 7% ซึ่งถือเป็นระดับอันตราย และเมื่อประกอบกับอัตราว่างงาน 24% และแนวโน้มเศรษฐกิจถดถอยจนถึงปีหน้า นักวิเคราะห์จึงคาดว่า มาดริดจะต้องขอเงินช่วยเหลือสำหรับภาคธนาคารของตนเพิ่มเติม และกระทั่งจะต้องขอเงินกู้ฉุกเฉินเพื่อใช้พยุงเศรษฐกิจโดยรวมด้วยซ้ำ

ขณะเดียวกัน สื่อมวลชนแดนกระทิงดุรายงานว่า มีแนวโน้มที่ 6 แคว้นของสเปน จะขอเงินช่วยเหลือจากกองทุนมูลค่า 18,000 ล้านยูโรที่รัฐบาลกลางเพิ่งตั้งขึ้นเมื่อต้นเดือน หลังจากเมื่อวันศุกร์ บาเลนเซียประเดิมเป็นแคว้นแรก ต่อมาในวันอาทิตย์ (22) ผู้ว่าการแคว้นเมอร์เซียเผยว่ามีแผนขอความช่วยเหลือจากมาดริด แม้ในภายหลังรัฐบาลเมอร์เซียจะออกมาแก้เกี้ยวว่า เพียงแค่ศึกษาความเป็นไปได้แต่ยังไม่มีการตัดสินใจขั้นเด็ดขาดก็ตาม

ทั้งนี้แคว้นปกครองตนเอง 17 แคว้นของสเปนที่ไม่สามารถเข้าระดมทุนในตลาดหนี้ระหว่างประเทศได้ มีภาระไถ่ถอนหนี้ 36,000 ล้านยูโรในปีนี้ และกลายเป็นประเด็นที่น่าวิตกอย่างมากสำหรับนักลงทุนหลังจากแคว้นเหล่านี้ไม่สามารถลดยอดขาดดุลได้ตามเป้าเมื่อปีที่แล้ว

ย้อนกลับมาที่เงินเยนที่ทำสถิติสูงสุดเมื่อเทียบดอลลาร์ในปีที่ผ่านมานั้น เป็นเพราะถูกมองว่าเป็นแหล่งลงทุนที่ปลอดภัยมากขึ้น ท่ามกลางความกังวลกับวิกฤตหนี้ยุโรปและการฟื้นตัวกระเสาะกระแสะของสหรัฐฯ

ทว่า อัตราแลกเปลี่ยนที่แข็งแกร่งกลับกลายเป็นข่าวร้ายสำหรับผู้ส่งออกแดนปลาดิบ เนื่องจากทำให้ผลิตภัณฑ์มีราคาแพงขึ้นในตลาดต่างแดน และลดทอนมูลค่ารายได้จากต่างประเทศ

เจ้าหน้าที่ในโตเกียวเตือนหลายครั้งว่า เยนมีมูลค่าสูงเกินจริง และก่อนหน้านี้ได้แทรกแซงตลาดเงินเพื่อให้เยนอ่อนลง

จุน อาสึมิ รัฐมนตรีคลัง กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า จะดำเนินมาตรการเด็ดขาดกับการเก็งกำไร และขณะนี้กำลังติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด

วันเดียวกัน สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นออกรายงานภาวะเศรษฐกิจประจำเดือนกรกฎาคมระบุว่า แม้เศรษฐกิจโดยรวมอยู่บนเส้นทางการฟื้นตัวโดยมีความคืบหน้าในระดับพอประมาณ แต่กำลังเผชิญความเสี่ยงขาลงอันเป็นผลจากวิกฤตหนี้ยุโรป และรัฐบาลกังวลมากขึ้นกับแนวโน้มของภาคส่งออก

ขณะเดียวกัน สำนักข่าวจิจิ เพรสและสื่ออื่นๆ รายงานว่า นายกรัฐมนตรีโยชิฮิโกะ โนดะ ได้หารือกับมาซาอากิ ชิรากาวะ ผู้ว่าการแบงก์ชาติ เมื่อเช้าวันจันทร์ โดยชิรากาวะปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียด บอกเพียงว่าเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาเท่านั้น

**หุ้นตกระนาวทั่วโลก**

จากการทรุดตัวของค่าเงินสกุลยูโร ซึ่งทำให้เกิดความกังวลใจเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของกลุ่มยูโรโซนทั้งหมด ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียปิดวันจันทร์โดยหล่นฮวบเป็นแถว เป็นต้นว่า โตเกียว -1.86%, ฮ่องกง -2.99%, เซี่ยงไฮ้ -1.26%, สิงคโปร์ -1.10% ครั้นเมื่อตลาดฟากยุโรปเปิดทำการ ก็พาหันไหลรูดเช่นกัน โดยในช่วงบ่ายวันจันทร์ ดัชนีหุ้นสำคัญของตลาดแฟรงเฟิร์ตในเยอรมนี -3.75% ส่วนของตลาดปารีสก็ติดลบกว่า 3% สำหรับตลาดมาดริดนั้นมีช่วงหนึ่งหล่นลง 5.0% ก่อนกระเตื้องขึ้นมาอยู่ที่แถวๆ -3.0%

การที่อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรระยะ 10 ปีของรัฐบาลสเปน ยังคงสูงขึ้นอีกในวันจันทร์ คือไปอยู่ที่ 7.466% จากวันศุกร์ซึ่งอยู่ที่ 7.225% เป็นปัจจัยที่ยิ่งทำให้เกิดความปั่นป่วนหวั่นผวาในตลาดยุโรป