ปชป.หนุนแก้ รธน.ประเด็นยุบพรรค ห้าม ส.ส.ดำรงตำแหน่งการเมือง

ปชป.หนุนแก้ รธน.บางมาตรา อย่างโทษยุบพรรค ห้าม ส.ส.ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อำนาจ ส.ว.ที่มีมากไป ย้ำรัฐบาลต้องถอนพ.ร.บ.ปรองดองออกจากวาระประชุมสภา เพื่อเป็นหลักประกันจะไม่ลักไก่นำขึ้นมาพิจารณาตอนเผลอ

นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญปี 2550 ว่าพรรคประชาธิปัตย์มีการศึกษาไว้เช่นกัน เมื่อครั้งที่เป็นรัฐบาลเคยมีการแต่งตั้งให้นายสมบัติ ธำรงค์ธัญวงศ์ อธิการบดี สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ให้เป็นประธานพิจารณาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 มีบางประเด็นที่พรรคเห็นว่าควรจะต้องมีการแก้ไขปรับปรุงให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เช่น 1.เรื่องของโทษการยุบพรรคการเมือง ในกรณีที่กรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) หรือส.ส.ไปทำผิดกฎหมาย ซื้อเสียง หรือมีส่วนร่วมรู้เห็น เดิมให้มีโทษสั่งยุบพรรคนั้น ก็อาจแก้ไขให้เป็นเรื่องของส่วนตัวที่ต้องรับผิดชอบรับโทษไป ไม่ต้องยุบพรรค

2. กรณีมาตรา 265 และ 266 ของรัฐธรรมนูญปัจจุบันระบุไม่ให้ ส.ส.ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือประสานงานจากหน่วยงานราชการของรัฐได้ ก็แก้ไขให้ทำได้ รวมถึงการที่ให้ ส.ส.สามารถเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีเพื่อเรียนรู้งานในกระทรวงได้ 3. กรณีมาตรา 190 ว่าด้วยการตกลง ทำสัญญาของรัฐมนตรี รัฐบาลที่ต้องนำเอาเรื่องต่างๆมารายงานต่อที่ประชุมรัฐสภา ก็แก้ไข ขอขยายกรอบให้กว้างขึ้น ต้องระบุให้ชัดเจน

4. อำนาจของ ส.ว.ซึ่งปัจจุบัน เราเห็นว่า ส.ว.มีอำนาจมากโดยเฉพาะการแต่งตั้งบุคคลมาดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระต่างๆ ซึ่งต้องยอมรับว่า ส.ว.เลือกตั้งส่วนใหญ่มีพรรคการเมืองสนับสนุนหรือสังกัดพรรคกลายๆ เช่นกัน ดังนั้นจึงควรพิจารณาปรับปรุงเกี่ยวกับบทบาท อำนาจหน้าที่ของส.ว.ใหม่ เป็นต้น เพราะต้องหารือในรายละเอียดด้วย แต่ไม่ใช่การยกร่างแก้ไขทั้งฉบับอย่างที่รัฐบาลนี้กำลังผลักดันทำอยู่ในเวลานี้

นายถาวร กล่าวว่า ในส่วนของกรเลื่อนวาระพิจารณาของร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ ในสภาจากวาระแรกมาเป็นวาระที่ 11-14 ทั้ง 4 ร่างนั้น ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์มีจุดยืนที่ชัดเจนคือ รัฐบาลหรือพรรคเพื่อไทยและคนที่เกี่ยวข้องต้องถอนร่างปรองดองทั้ง 4 ฉบับออกจากวาระการพิจารณาของสภาเท่านั้น เพราะไม่มีหลักประกันใดๆ ที่จะมารับรองว่า เรื่องนี้จะไม่ถูกหยิบยกขึ้นมาพิจารณา เนื่องจากการกระทำที่เห็นอยู่คือ อยู่วาระแรก เขาก็ขอมติเสียงข้างมากเลื่อนไปอยู่วาระที่ 11-14 ได้ เพราะขณะนี้กระแสสังคม คนส่วยใหญ่รู้เท่าทัน และไม่เอาด้วยมีประชาชนจำนวนมากต่อต้าน ดังนั้นจึงต้องถอนร่างปรองดองออกทั้งหมดเท่านั้น ไม่เช่นนั้นพรรคก็ไม่ร่วมสังฆกรรมใดๆ แน่นอน