xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” จี้รัฐฯ ลงพื้นที่แก้ปัญหาชายแดนใต้ ปลุก “ปู” ทำหน้าที่นายกฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(แฟ้มภาพ)
“อภิสิทธิ์” จี้รัฐฯ ทบทวนนโยบายชายแดนใต้ แนะคลี่คลายต้นเหตุเรื่องธุรกิจผิดกฎหมาย ระดมนักวิชาการเพื่อทำความเข้าใจ ชี้ควรประณามโจรใต้ที่ยิงทหารเสียชีวิต และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ เน้นรัฐฯ ให้ ปชช.มั่นใจว่าปลอดภัยพร้อมให้ข้อมูล ย้ำนายกฯ ดูแล อย่าคิดแต่เรื่องการเมือง ชี้หนีความรับผิดชอบไม่ได้ และควรมีการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ พร้อมแก้ปัญหาทุกมิติ รวมไปถึงด้านต่างประเทศด้วย

วันนี้ (30 ก.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเป็นห่วงสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้ว่า นายกฯ และ ครม.ต้องเอาใจใส่ในเชิงนโยบาย และวิเคราะห์ถึงสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะมีสัญญาณบ่งบอกมาตั้งแต่เดือน มี.ค.จากเหตุการณ์ที่ยะลา หาดใหญ่ จากนั้นก็มีการเตือนมาตลอดว่าเหตุการณ์ความรุนแรงอาจจะมีมากขึ้น จึงต้องทบทวนทั้งนโยบายและแนวปฏิบัติ การที่จะบอกเพียงว่ามอบหมายหน่วยงานไปปฏิบัติแล้วไม่เพียงพอ เพราะคนที่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องนี้มีมาก ไม่ใช่เฉพาะแค่ฝ่ายการเมือง แต่ควรระดมฝ่ายวิชาการและฝ่ายอื่นๆ มาช่วย เพราะขณะนี้นอกจากเรื่องการก่อความไม่สงบยังมีปัจจัยเรื่องธุรกิจผิดกฎหมาย เพราะคนที่ก่อการร้ายจะไปเกี่ยวพันกับอาชญากรรมอื่นๆ ด้วย ดังนั้นจึงต้องพยายามคลี่คลายต้นเหตุใหญ่ๆ ก่อนโดยไม่สร้างเงื่อนไขใหม่ๆ

นายอภิสิทธิ์กล่าวด้วยว่า การปิดถนนสังหารทหาร 4 นายที่ จ.ปัตตานี เป็นเหตุการณ์อุกอาจที่สะเทือนใจคนทั้งประเทศ ดังนั้นทุกภาคส่วนในสังคมต้องร่วมกันประณามความรุนแรงที่เกิดขึ้น และเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่กับประชาชนในพื้นที่ สิ่งสำคัญในการแก้ปัญหาทั้งการพัฒนาและการรักษาความสงบตามกฎหมายจะสำเร็จได้ ประชาชนต้องให้ความร่วมมือ แต่การที่จะให้ประชาชนให้ความร่วมมือก็ต้องมีความมั่นใจว่าอำนาจรัฐสามารถดูแลประชาชนได้ เรื่องนี้เป็นโจทย์ใหญ่ที่ต้องเร่งแก้ไข ซึ่งทางกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบก็พยายามแสดงศักยภาพเพื่อข่มขวัญประชาชน รัฐและประชาชนต้องช่วยกัน อย่าจำนนต่อสิ่งเหล่านี้ ส่วนกรณีที่กลุ่มก่อความไม่สงบทำจดหมายเปิดผนึกระบุว่ามีชาวพุทธย้ายออกพื้นที่เหลือแค่ไม่กี่คน จะส่งผลต่อทางจิตวิทยาอย่างไรนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนเตือนมาโดยตลอดว่าอย่าให้สังคมในพื้นที่เสียความสมดุล เพราะฉะนั้นการทำงานต่อเนื่องในเรื่องการพัฒนา การอำนวยความยุติธรรม และการสร้างขวัญกำลังใจเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นมาก

“เรามีกฎหมายกำหนดให้นายกรัฐมนตรีมีบทบาทและอำนาจในการดูแลเรื่องความมั่นคงมากขึ้น เพราะไม่ใช่เรื่องที่หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งจะทำได้ ต้องประสานกับทุกหน่วยงาน ซึ่งผมเรียกร้องนายกฯ หลายครั้งให้ดูแลเรื่องนี้ใกล้ชิด และอยากจะขอร้องอีกครั้งให้นายกฯ คิดถึงบ้านเมืองอย่าคิดแต่เรื่องการเมือง ผมทราบดีว่ายุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ซึ่งนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาฯ ก็ระบุในคลิปเสียงว่าเรื่องไหนที่เป็นปัญหาจะกันนายกฯ ไม่ให้เกี่ยวข้อง ด้วยหวังว่าให้นายกฯ ลอยตัวออกจากปัญหา ไม่ให้นายกฯ ต้องเผชิญกับความยากลำบากที่กระทบต่อคะแนนนิยม แต่นี่คือความรับผิดชอบของคนที่เป็นผู้นำประเทศ นายกฯ ต้องเข้ามาดูแล ผมคิดว่าประชาชนไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องทำทุกอย่างถูกต้องสำเร็จร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่อยากให้เข้ามารับผิดชอบ เพราะหากทิ้งสภาพแบบนี้ต่อไปปัญหาก็จะเลวร้ายลงเรื่อยๆ สุดท้ายนายกฯ ก็หนีความรับผิดชอบไม่ได้” นายอภิสิทธิ์กล่าว

หัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวว่า การลงพื้นที่ของคนระดับนโยบายมีความสำคัญเพราะนอกจากต้องติดตามปัญหาแล้ว ยังเป็นการสร้างขวัญกำลังใจช่วยให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการต่อไป หากนายกฯ ไม่สะดวกที่จะลงพื้นที่ด้วยตัวเองก็ต้องมอบหมายรองนายกฯ หรือรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายลงพื้นที่ ในสมัยที่ตนเป็นนายกฯ ทั้งตนและนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง และนายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ในขณะนั้นลงพื้นที่ตลอด จึงอยากเห็นการทำงานแบบนี้ หากให้เหตุผลว่าการลงพื้นที่จะสร้างความยากลำบากต่อเจ้าหน้าที่นั้น ความจริงสามารถกำหนดการลงพื้นที่ของรัฐมนตรีได้ไม่ให้เอิกเกริก หากเห็นว่านายกฯ ลงพื้นที่จะเอิกเกริกเกินไป แค่รัฐมนตรีคนหนึ่งไปประจำติดตามสถานการณ์ก็สามารถที่จะช่วยทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งการแก้ปัญหาต้องทำทุกมิติ รวมทั้งด้านการต่างประเทศด้วย เพราะมีความสำคัญจะต้องชี้แจงทำความเข้าใจต่อเนื่อง

ด้านนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวประณามรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยกรณีสถานการณ์ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ต้องไว้อาลัยให้กับพรรคเพื่อไทย เพราะวาระที่พรรคเพื่อไทยไปสัมมนาที่ จ.ชลบุรีถึง 2 วันเป็นเรื่องของผลประโยชน์ทางการเมือง ผลประโยชน์ส่วนตน และผลประโยชน์ของพรรคทั้งสิ้น โดยไม่มีคำใดที่หลุดออกจากปากคนในรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยที่เป็นประโยชน์ต่อชาติและประชาชนเลย ขณะที่บ้านเมืองที่ปลายด้ามขวานกำลังลุกเป็นไฟ แต่กลับไปสัมมนาที่ชายทะเล สุมหัวหาทางออกในการแก้ไขรัฐธรรมนูญและ พ.ร.บ.ปรองดอง รับคำสังจากนักโทษหนีคดีคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ สะท้อนให้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นทุกอย่างของรัฐบาล โดยการทำให้พ้นผิด นิรโทษกรรมคือเป้าหมายสูงสุดของรัฐบาลชุดนี้ ดังนั้น ถึงเวลาที่ประชาชนต้องลุกขึ้นมาทวงสิทธิกับรัฐบาล เพราะสถานการณ์ความรุนแรงในภาคใต้เป็นเรื่องใหญ่ แต่ไม่เห็นมีใครออกมาแสดงความห่วงใย รวมทั้ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ แทนที่จะออกมาให้กำลังเจ้าหน้าที่หรือให้แนวทางการปฏิบัติ แต่กลับมาตำหนินายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาฯ เรื่อง พ.ร.บ.ปรองดอง จึงอยากเรียกร้องไปยังรัฐบาลให้กลับตัวหันมาทำงานเพื่อประชาชน
กำลังโหลดความคิดเห็น