“อภิสิทธิ์” เรียกร้อง “นายกฯ ปู” แก้ความอึมครึม ประกาศจุดยืนทำตามที่ศาลชี้ในการแก้ รธน. ถ้าอยากให้บ้านเมืองสงบ พร้อมให้ “ขุนค้อน” ทำตามคำพูดถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดองออกจากวาระสภา เฉ่ง “นช.แม้ว” พูดตัดตอนให้ออกกฎหมายนิรโทษกรรม ควบความผิดเรื่องทุจริต ทั้งที่ไม่มีประเทศไหนในโลกเข้าทำกัน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวยืนยันว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีต้องตัดสินใจเรื่องแก้รัฐธรรมนูญด้วยตนเองเรื่องจะได้จบ หากยังต้องการให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อต้องทำตามคำแนะนำของศาลรัฐธรรมนูญ อย่าทำให้บ้านเมืองเกิดความอึมครึมเพราะยังมีหลายเรื่องที่ต้องแก้ไข อีกทั้งเอาเวลาไปแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจดีกว่า อย่าพยายามดึงดันเอาชนะคะคานกัน และควรแสดงจุดยืนที่ชัดเจนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าจะทำอย่างไร เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็พูดทำนองว่าอยากจะทำตามศาล แต่การคุยภายในของเขาไม่รู้เป็นอย่างไร ดังนั้น นายกรัฐมนตรีในฐานะเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร หนึ่งในผู้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในนามคณะรัฐมนตรีควรจะแสดงจุดยืนเรื่องจะได้จบ
“ปัญหาการตัดสินใจเวลานี้ไม่ใช่เรื่องของข้อกฎหมาย แต่เป็นการตัดสินใจเพื่อประโยชน์การบริหารบ้านเมือง การตัดสินใจทางการเมือง อีกทั้งที่มีการโยนเรื่องให้สภานั้น รัฐบาลมีเสียงข้างมากก็ใช้เสียงข้างมากไปทำให้เรื่องจบได้ จะมาสร้างเรื่องซ้ำเติมประเทศชาติทำไม หากว่าวันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไปบอกพรรคเพื่อไทยว่ารัฐบาลมีทิศทางที่ชัดเจนในฐานะหนึ่งในเจ้าของร่าง ขอให้ทุกฝ่ายหยุดเรื่องนี้ไว้ และทำตามทุกอย่างที่ศาลชี้ ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ผมก็มั่นใจว่าทุกอย่างจะดำเนินการได้”
ส่วนร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ที่ยังค้างอยู่ในสภาจะถูกผลักดันอีกระลอกหนึ่งหรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก็มีความเป็นไปได้ โดย พ.ต.ท.ทักษิณพูดในลักษณะที่ตัดตอนถึงการปรองดองในแต่ละประเทศ ว่าเป็นไปได้ที่จะมีกฎหมายนิรโทษกรรม แต่ไม่มีประเทศไหนที่ไปโยงเอาเรื่องคดีทุจริตเข้ามาและส่วนใหญ่แล้วต้องผ่านกระบวนการค้นหาข้อเท็จจริงให้เรียบร้อยก่อน เป็นการพูดให้ไขว้เขวว่าถ้าไม่นิรโทษกรรมแล้วการปรองดองจะเกิดขึ้นไม่ได้ หากรัฐบาลจะสร้างบรรยากาศการปรองดองก็ต้องออกมาประกาศให้ชัดว่า วันที่ 1 ส.ค.ในการเปิดการประชุมสภาสมัยสามัญทั่วไป รัฐบาลจะหยุดทั้งสองเรื่องนี้ไว้ แล้วมาตั้งหลักพูดคุยหาทางออกที่ดีสำหรับทุกฝ่าย และขอให้นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภา ช่วยทำตามที่พูดว่าจะถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดองทั้ง 4 ฉบับออกจากสภาให้เป็นรูปธรรมด้วย
