“พิชาย” เชื่อเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญด้วยการลงมติวาระ 3 คงไม่เกิด เพราะ ส.ส.-ส.ว.หลายคนหวั่นผลที่จะตามมา ส่วนการลงประชามติก็เสี่ยงที่จะแพ้ได้ พร้อมระบุงง “นิติราษฎร์” ปากบอกสนับสนุนประชาธิปไตย แต่กลับคัดค้านการที่ศาลรัฐธรรมนูญเพิ่มสิทธิให้ประชาชน
วันที่ 19 ก.ค. เมื่อเวลา 20.30 น. รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองคณบดีคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และนายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ร่วมพูดคุยในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV
โดย รศ.ดร.พิชายกล่าวว่า ส่วนทางเลือกลุยลงมติวาระ 3 เลย ทาง ส.ส.เพื่อไทยที่เป็นแกนนำเสื้อแดงคงต้องการแบบนั้น แต่ในส่วนของ ส.ส.ที่ได้รับตำแหน่งต่างๆ คงไม่อยากเสี่ยง เลยไม่แน่ใจว่าจะได้ถึง 416 เสียง อีกหรือไม่ เพราะคงมี ส.ส.-ส.ว.หลายคนกลัวผลที่จะตามมา จากคำร้องของพันธมิตรฯ กรณีนี้ ร.ต.อ.เฉลิมก็มองออก ที่บอกว่าถ้ายังดื้อลงวาระ 3 เพื่อไทยถูกยุบแน่ ซึ่งก็ทำให้หลายคนหวั่นไหวได้ เพราะ ร.ต.อ.เฉลิมเป็นคนที่เข้าใจการเมืองดี มองทิศทางออกอะไรเป็นอะไร ถ้าเสี่ยงแล้วตัวเองจะไม่เข้าร่วมด้วย ฉะนั้นการดันมติวาระ 3 ไม่น่าจะเกิดขึ้น แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณด้วยว่าจะให้ลงหรือไม่
ส่วนการลงประชามติ ก็คงหวั่นใจว่าได้เสียงไม่เกินครึ่ง เพราะการใช้เสียงลงประชามติกับเลือกตั้งมันต่างกัน เพราะเลือกตั้งมีการรณรงค์ต่อสู้กันอย่างเต็มที่ เกิดบรรยากาศตื่นเต้นทางการเมือง แต่การลงประชามติ กระแสสนใจทางการเมืองอาจน้อยกว่า แนวทางนี้ผลที่ได้จึงคาดเดายาก พ.ต.ท.ทักษิณคงไม่เสี่ยง
รศ.ดร.พิชายกล่าวอีกว่า งงกับนิติราษฎร์มาก เสนอให้ยุบศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากไม่พอใจผลการวินิจฉัยให้ประชาชนสามารถยื่นฟ้องตามมาตรา 68 ได้โดยตรง ในเมื่อเป็นนักวิชาการที่สนับสนุนประชาธิปไตย ทำไมถึงไม่เห็นด้วยกับการขยายสิทธิของประชาชน
ศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นอุปสรรคต่อนักการเมืองมากที่สุด เพราะเป็นอุปสรรคในการใช้อำนาจฉ้อฉล ส่วนที่ ดร.อุกฤษ มงคลนาวิน เสนอให้ใช้รัฐธรรมนูญปี 2517 นั่นก็เพราะว่ารัฐธรรมนูญปี 2517 กำหนดที่มาของตุลาการรัฐธรรมนูญไว้ โดยให้รัฐสภา คณะรัฐมนตรี และคณะกรรมการตุลาการตามมาตรา เลือกมาฝ่ายละ 3 คน ในเมื่อ 6 คน มาจากนักการเมือง แล้วจะตรวจสอบนักการเมืองได้อย่างไร
นายพิภพกล่าวว่า ถามนิติราษฎร์หน่อยว่า ประชาชนมีสิทธิยื่นศาลรัฐธรรมนูญเอง มันหนักหัวอะไร มันเป็นอะไรเชียว ต้องถามตัวเองเป็นนักกฎหมายมหาชน การเพิ่มสิทธิประชาชน นั่นควรเป็นเป้าหมายของนักกฎหมายมหาชนไม่ใช่หรือ ไม่แน่ใจว่าเป็นนักกฎหมายรุ่นใหม่อย่างไรกันแน่ ในเมื่อก็ยอมรับว่าองค์กรอิสระมีปัญหา การเพิ่มอำนาจให้ประชาชนนั่นจึงเหมาะสมแล้ว
นายพิภพกล่าวด้วยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่กล้าแก้รัฐธรรมนูญด้วยวิธีลงประชามติ ก็เพราะว่ามีโอกาสแพ้ เพราะ 15 ล้านเสียง ที่เพื่อไทยได้รับจากการเลือกตั้ง เทียบกับ 46 ล้านเสียงของผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้ง เท่ากับ 1 ใน 3 เท่านั้น