“นายกฯ ยิ่งลักษณ์” ให้ทุกฝ่ายรอฟังผลวินิจฉัยของศาล รธน.อย่างสงบ อย่ากังวลเกินเหตุ ไม่ห่วงอาถรรพ์ศุกร์ 13 ระบุเป็นตัวเลขที่โชคดีของหลายๆ คน ชิ่งหนีคำถาม ส.ส.พท.อ้างมีขบวนการจ้องล้มรัฐบาล ด้านรองโฆษกรัฐบาล ชี้คนที่ไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยมีสิทธิแสดงความไม่เห็นด้วยกับการตัดสินของศาลฯ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง "น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์"
วันนี้ (12 ก.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความกังวลว่าวันศุกร์ที่ 13 ก.ค. ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินคดีการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเกิดความวุ่นวายว่า อยากให้เราฟังการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญด้วยความสงบ และมีสมาธิ ไม่อยากให้พี่น้องประชาชนกังวลมากเกินไป เพราะไม่ได้เกิดผลอะไร มีแต่จะทำให้เกิดความกังวลใจ ดังนั้นควรรอฟังผลก่อนดีกว่า
“ไม่อยากให้มองว่าตัวเลขศุกร์ 13 เป็นเลขไม่ดี เพราะจริงๆ แล้วตัวเลข 13 ก็เป็นตัวเลขที่โชคดีของหลายๆ คนก็มี” น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตัวเลข 13 จะเป็นตัวเลขที่ดีของรัฐบาลหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่ขอบอกดีกว่า เราขอทำงานและทำหน้าที่ของเรา
ส่วนที่แกนนำพรรคเพื่อไทยและกลุ่มคนเสื้อแดงออกมาปลุกระดมมวลชนว่าหากผลตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญออกมาเป็นลบกับตัวเอง ให้เตรียมพร้อมลุยเต็มที่ จะทำให้ประเทศชาติกลับไปสู่จุดเดิมหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ไม่อยากให้กังวลเกินไป ซึ่งต้องขอทุกส่วนว่าเราน่าจะรอผลก่อนแล้วค่อยๆ พูดคุยกัน เพราะเชื่อว่าคนไทยด้วยกันคุยกันได้ เมื่อถามว่าจะขอร้องไปยังแกนนำพรรคเพื่อไทยในเรื่องดังกล่าวหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ต้องขอความร่วมมือทุกส่วนให้พูดคุยกัน แสดงความคิดเห็นกันได้ แต่ขอให้อยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย อย่าใช้ความรุนแรง ส่วนที่มี ส.ส.พรรคเพื่อไทยออกมาเปิดประเด็นขบวนการล้มล้างรัฐบาลนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ตอบคำถามและเดินขึ้นรถไปทันที
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินออกมาอย่างไรก็ตาม คำตัดสินย่อมมีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ที่ผู้เห็นด้วยมีสิทธิที่จะแสดงความชื่นชมกับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนผู้ที่ไม่เห็นด้วยก็ย่อมมีสิทธิที่จะแสดงความไม่เห็นด้วยและไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญได้ โดยไม่จำเป็นต้องทำตามความเห็นของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าฝ่ายค้าน หรือนายชวน หลีกภัย ที่ออกมาพูด เพื่อสกัดกั้นการแสดงความคิดเห็นอันบริสุทธิ์ของฝ่ายที่จะไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญในกรณีคำตัดสินที่เป็นลบ ในวันที่ 13 นี้
“วันนี้ประชาชนฝ่ายประชาธิปไตยก้าวข้ามช็อตสั้นๆ ของศาลรัฐธรรมนูญนี้ไปไกลแล้ว และมิอาจคาดเดาได้เลยว่า ผลจะออกมาเป็นเช่นไร รู้เพียงแต่ว่า 6 ปีที่ผ่านมาประชาชนสะสมชัยชนะและองค์ประกอบในการขับเคลื่อนอันชอบธรรม เข้มแข็งมากขึ้นเรื่อยๆ ตลอดเส้นทางที่ผ่านมา”
นายอนุสรณ์กล่าวว่า อย่างกรณีนี้เมื่อเริ่มต้นผิด กระบวนการขั้นตอนต่างๆ ก็ผิดตามกันไปหมด สุดท้ายผลที่ได้ออกมาจะเป็นถูกต้องไปไม่ได้ ดังนั้นประชาชนไม่จำเป็นต้องเชื่อฟังนายอภิสิทธิ์ที่พยายามที่จะมีคำแนะนำที่ดี แต่แท้ที่จริงแล้วจะแสดงเจตนาดีเฉพาะกรณีที่ตนได้ประโยชน์ แต่จะประสงค์ร้ายต่อสังคมประชาธิปไตย ซึ่งวันนี้นายอภิสิทธิ์ใช้ความสงสัยมาหวังดีประสงค์ร้ายกับสังคมทุกเรื่อง แม้แต่กรณีที่นางฮิลลารี คลินตัน รมว.ต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เชิญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไปเป็นแขกพิเศษเพื่อกล่าวสุนทรพจน์ต่อนักธุรกิจสหรัฐฯ ที่กัมพูชาระหว่างการประชุมฟอรัมธุรกิจอาเซียน หรือ US-assean business ยังธุระไม่ใช่ มาเตือนรัฐบาลให้ระมัดระวังในการดำเนินการ คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศให้มากๆ ตนขอแนะนำให้นายอภิสิทธิ์ไปส่องกระจกแล้วจะเห็นว่าใครกันแน่ที่ควรระมัดระวังในการดำเนินการ ใครกันแน่ที่ต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศให้มากๆ
