เกาะกระแส
โดย...ก้อนกรวด
00 สังเกตให้ดีเวลานี้ทุกฝ่ายต่างอยู่ในที่ตั้ง ต่างรอลุ้นว่าวันศุกร์ที่ 13 จะฝันสยองหรือว่าฝันหวาน หรือออกมากลางๆไม่ได้ไม่เสีย อาจจะมีเสียงทำท่าฮึดฮัดออกมาบ้างแต่นั่นไม่ต้องไปสนใจเป็นเสียงของพวกลิ่วล้อปลายแถว เช่น ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จตุพร พรหมพันธุ์ พวกนี้ไม่มีราคาในระดับคอการเมืองวงใน บทบาทที่แสดงอยู่ก็เพียงแสดงให้เข้าตานาย เพราะต้องไม่ลืมว่าอีกไม่กี่วันจะมีการปรับ ครม. ทำนอง “อย่าลืมผมนะนาย” อะไรประมาณนั้นแหละ
00 แต่โดยภาพรวมแล้ว มวลชนคนเสื้อแดง และพวก ส.ส.และ “นักให้ความเห็น” ทั้งหลายไม่ว่า เฉลิม อยู่บำรุง จาตุรนต์ ฉายแสง คนพวกนี้ก็ไม่ต่างกัน เมื่อโชว์หน้าโชว์ตาออกมาให้เห็นแล้วก็เริ่มหุบปากลง เพราะรู้ดีว่ายิ่งขืนพูดมาก เถียงศาลมีแต่ผลลบ อย่างน้อยคนไทยก็ยังรับไม่ได้ เพราะมันไม่มีกติกา ยิ่งประเภทที่ศาลพิพากษาออกมาแล้วไม่ถูกใจแล้วปลุกระดมมาข่มขู่คุกคามศาล ก็ยิ่งแล้วใหญ่ มีแต่ผลลบ ไม่มีที่ไหนเขาทำกัน และเชื่อว่าหากเกิดอะไรขึ้นกับศาลในลักษณะดังกล่าวคนไทยส่วนใหญ่ก็ไม่มีทางยอม จะต้องโดนสหบาทารุมสั่งสอนแน่ ดังนั้นบรรยากาศในตอนนี้ทุกฝ่ายจึงต้องเงียบรอฟังด้วยใจระทึก ส่วนจะเงียบก่อนพายุใหญ่จะมา หรือจะเงียบเหมือนกับที่พายุใหญ่ได้พัดผ่านไปแล้ว มันก็เป็นไปได้ แต่ถึงอย่างไรโดยภาพรวมแล้วพิจารณาตามความรู้สึกไม่น่าจะเลวร้ายจนเกินไปนัก
00 ไม่รู้ว่าคิดถูกหรือคิดผิดที่จู่ๆฝ่ายกุนซือดันหลังให้ “ลูกโอ๊ค” พานทองแท้ ชินวัตร ออกมาแสดงบทบาทหน้าจอผ่านทางเฟซบุกส์ รับบทเป็น “หัวหน้านักรบไซเบอร์” องครักษ์พิทักษ์ “อาปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งแน่นอนว่าในวงการเขารู้กันแซ่ดว่าทุกถ้อยคำที่โผล่ออกมานั้นใช้ “ตัวแสดงแทนแฝง” ทั้งสิ้น เพราะนั่นไม่ใช่นิสัยและบุคลิกของเขา เพราะอย่าว่าแต่เขียนเลยแค่พูดยังพูดไม่เป็นเลย ไปปรากฏตัวบนเวทีปราศรัยของพรรคเพื่อไทย หรือย้อนหลังไปถึงพรรคไทยรักไทยเดินสายช่วยผู้สมัครหาเสียงเคยได้ยินพูดสักคำมั๊ย แต่ยกมือไหว้สวัสดีครับแค่นี้ก็ยากเย็นแล้ว ถ้าเจ๋งจริง พ่อแม้ว คงมอบหมายให้ดูแลกิจการมาตั้งนานแล้ว ไม่ใช่ให้ “ลูกเขย” สามีของ พินทองทา ชินวัตร เข้ามารับผิดชอบ มีบทบาทอย่างที่เห็นหรอก
00 แต่ในเมื่อลงเล่นในสนามแล้ว แม้ว่าจะไม่ใช่เสนอหน้าตรงๆ แต่เมื่อแสตมป์อาศัยชื่อพานทองแท้ เล่นแรงๆ มันก็ช่วยไม่ได้ที่จะถูกโต้กลับไปแรงๆ และในฐานะที่เป็นลูกชายของ ทักษิณ ทุกอย่างมันก็ย่อมโยงและสะเทือนไปถึงรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ อย่างช่วยไม่ได้ มองในทางการเมืองถือว่าได้ไม่คุ้มเสีย อยู่นิ่งๆเงียบๆน่าจะดีกว่า
00 วันศุกร์ที่ 13 ก.ค.เชื่อว่าทุกสายตาจับจ้องไปที่ศาลรธน.ว่าจะตัดสินออกมาแบบไหน แต่ขณะเดียวกันก็ต้องไม่ลืมว่ายังมีอีกเหตุการณ์สำคัญที่น่าจับตานั่นคือการไปร่วมประชุมกับนักธุรกิจสหรัฐฯที่เมืองเสียมเรียบ มี นายกฯยิ่งลักษณ์ เป็นแขกของ รมว.ต่างประเทศสหรัฐ ฮิลลารี คลินตัน ที่ว่าน่าสนใจก็คือ มีบริษัทน้ำมันเชฟรอน ที่ได้รับสัมปทานขุดเจาะและสำรวจน้ำมันหลายแปลงในอ่าวไทยร่วมอยู่ด้วยนี่สิ ที่สำคัญระยะหลัง ทักษิณ เริ่มมีการยกระดับความสัมพันธ์ดีขึ้นผิดหูผิดตา ผลประโยชน์นี่มันไม่เข้าใครออกใครจริงๆ พับผ่าสิ !!