ASTVผู้จัดการรายวัน-"สุกำพล" เชื่อเขมรไม่ถอนทหาร แค่ปรับกำลังที่มากกว่าไทยให้ลดลง เผยไทยมีแผนปรับกำลังทหารให้เท่ากับเขมร เตรียมใช้กำลังกึ่งทหารแทน เตรียมถก JWG หน 3 ที่ไทยปลายเดือนก.ค.นี้
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงกระแสข่าวที่รัฐบาลกัมพูชาจะให้มีการถอนกำลังทหารออกจากบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ไม่ใช่การถอนทหาร แต่เป็นการปรับกำลังใหม่ ซึ่งเรื่องนี้ ไทยมีแผนในการดำเนินการอยู่เหมือนกัน แต่ต้องทำให้กำลังทั้งสองฝ่ายก้ำกึ่งกัน เพราะตอนนี้ทางกัมพูชา วางกำลังทหารมากกว่าไทยในบริเวณเขาพระวิหาร ส่วนจะใช้กำลังใดมาแทนนั้น ต้องมีการคุยในรายละเอียดกัน ซึ่งเป็นส่วนที่กองทัพบก โดยกองทัพภาคที่ 2 เป็นผู้ดำเนินการเอง ขณะนี้เป็นการดำเนินการตามข้อตกลงของคณะทำงานร่วมไทย-กัมพูชา (JWG) ในการปฏิบัติตามมติคุ้มครองชั่วคราวของศาลโลก
ทั้งนี้ การปรับกำลังก็ปรับไป อาจจะเป็นในลักษณะการปรับกำลังให้ลดน้อยลง หรือมีกำลังกึ่งทหารเข้ามาแทน เป็นการปรับกำลังประจำปีตามวงรอบ ซึ่งตรงนี้ไม่ต้องรอคณะทำงาน JWG ส่วนการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ก็ต้องดำเนินการต่อไป เมื่อมีทุ่นระเบิดอยู่ในพื้นที่ ก็ต้องมีการเก็บกู้ หากเข้าไปจะเกิดอันตรายได้
พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า กรณีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปประเทศกัมพูชาในวันที่ 13 ก.ค.นี้ ตนพร้อมด้วยกองทัพภาคที่ 2 จะเดินทางร่วมคณะกับนายกฯ ครั้งนี้ด้วย ส่วนที่มีการมองว่า การที่นายกฯ เดินทางไปครั้งนี้ มีวาระอะไรซ่อนเร้นอะไรหรือไม่นั้น ยืนยันว่า ไม่มี และอย่าไปถามอะไรเช่นนั้น เรื่องรายละเอียดขอให้ไปถามนายกฯ เอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการประชุมคณะทำงานร่วมไทย-กัมพูชา (JWG) ครั้งที่ 3 ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุม โดยมีเสนาธิการทหารเป็นประธาน ซึ่งคาดว่า จะมีการประชุมในช่วงสิ้นเดือนก.ค.นี้
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวแจ้งว่า ตามกำหนดการเดิมในวันที่ 12 ก.ค. เวลา 08.00 น.พล.อ.อ.สุกำพล ได้นัดหมาย ผบ.เหล่าทัพ มาร่วมประชุมที่กระทรวงกลาโหม เพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ก่อนที่จะนำข้อมูลเสนอต่อนายกรัฐมนตรีตัดสินใจ หลังจากที่ทางรัฐบาลกัมพูชามีแผนจะประกาศให้มีการถอนกำลังทหารบริเวณแนวชายแดนเพื่อกดดันไทย
สำหรับกำหนดการของนายกรัฐมนตรี ในการเดินทางไปร่วมประชุมกับนักธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน ที่กัมพูชา วันที่ 13 ก.ค. คณะนายกฯ เวลา 14.15 น. จะเดินทางด้วยเครื่องบินแอมแบร์ของกองทัพบกจากท่าอากาศยานดอนเมืองไปยังท่าอากาศยานนานาชาติเสียมราฐ และจะเข้าหารือทวิภาคีกับคณะของกัมพูชา นำโดยสมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่โรงแรมซกฮา อังกอร์ เวลา 17.55 น. นายกฯ และคณะ จะเดินทางต่อไปยังโรงแรม เลอ เมอริเดียน เพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงรับรอง ร่วมกับนางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ จากนั้นจะประชุมร่วมกับนักธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน และร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ โดยจะมีการกล่าวสุนทรพจน์เปิดงาน โดยประธานสภาธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน ต่อด้วยสุนทรพจน์ของนางฮิลลารี คลินตัน และน.ส.ยิ่งลักษณ์ พล.อ.เต็ง เส่ง ประธานาธิบดีพม่า สมเด็จฯ ฮุนเซน และปิดท้ายด้วย นาย Myron Brilliant ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สภาหอการค้าอเมริกา และเวลา 21.00 น. นายกฯ และคณะ จะเดินทางกลับ โดยมีกำหนดถึงประเทศไทยเวลา 22.20 น.
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงกระแสข่าวที่รัฐบาลกัมพูชาจะให้มีการถอนกำลังทหารออกจากบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ไม่ใช่การถอนทหาร แต่เป็นการปรับกำลังใหม่ ซึ่งเรื่องนี้ ไทยมีแผนในการดำเนินการอยู่เหมือนกัน แต่ต้องทำให้กำลังทั้งสองฝ่ายก้ำกึ่งกัน เพราะตอนนี้ทางกัมพูชา วางกำลังทหารมากกว่าไทยในบริเวณเขาพระวิหาร ส่วนจะใช้กำลังใดมาแทนนั้น ต้องมีการคุยในรายละเอียดกัน ซึ่งเป็นส่วนที่กองทัพบก โดยกองทัพภาคที่ 2 เป็นผู้ดำเนินการเอง ขณะนี้เป็นการดำเนินการตามข้อตกลงของคณะทำงานร่วมไทย-กัมพูชา (JWG) ในการปฏิบัติตามมติคุ้มครองชั่วคราวของศาลโลก
ทั้งนี้ การปรับกำลังก็ปรับไป อาจจะเป็นในลักษณะการปรับกำลังให้ลดน้อยลง หรือมีกำลังกึ่งทหารเข้ามาแทน เป็นการปรับกำลังประจำปีตามวงรอบ ซึ่งตรงนี้ไม่ต้องรอคณะทำงาน JWG ส่วนการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ก็ต้องดำเนินการต่อไป เมื่อมีทุ่นระเบิดอยู่ในพื้นที่ ก็ต้องมีการเก็บกู้ หากเข้าไปจะเกิดอันตรายได้
พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า กรณีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปประเทศกัมพูชาในวันที่ 13 ก.ค.นี้ ตนพร้อมด้วยกองทัพภาคที่ 2 จะเดินทางร่วมคณะกับนายกฯ ครั้งนี้ด้วย ส่วนที่มีการมองว่า การที่นายกฯ เดินทางไปครั้งนี้ มีวาระอะไรซ่อนเร้นอะไรหรือไม่นั้น ยืนยันว่า ไม่มี และอย่าไปถามอะไรเช่นนั้น เรื่องรายละเอียดขอให้ไปถามนายกฯ เอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการประชุมคณะทำงานร่วมไทย-กัมพูชา (JWG) ครั้งที่ 3 ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุม โดยมีเสนาธิการทหารเป็นประธาน ซึ่งคาดว่า จะมีการประชุมในช่วงสิ้นเดือนก.ค.นี้
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวแจ้งว่า ตามกำหนดการเดิมในวันที่ 12 ก.ค. เวลา 08.00 น.พล.อ.อ.สุกำพล ได้นัดหมาย ผบ.เหล่าทัพ มาร่วมประชุมที่กระทรวงกลาโหม เพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ก่อนที่จะนำข้อมูลเสนอต่อนายกรัฐมนตรีตัดสินใจ หลังจากที่ทางรัฐบาลกัมพูชามีแผนจะประกาศให้มีการถอนกำลังทหารบริเวณแนวชายแดนเพื่อกดดันไทย
สำหรับกำหนดการของนายกรัฐมนตรี ในการเดินทางไปร่วมประชุมกับนักธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน ที่กัมพูชา วันที่ 13 ก.ค. คณะนายกฯ เวลา 14.15 น. จะเดินทางด้วยเครื่องบินแอมแบร์ของกองทัพบกจากท่าอากาศยานดอนเมืองไปยังท่าอากาศยานนานาชาติเสียมราฐ และจะเข้าหารือทวิภาคีกับคณะของกัมพูชา นำโดยสมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่โรงแรมซกฮา อังกอร์ เวลา 17.55 น. นายกฯ และคณะ จะเดินทางต่อไปยังโรงแรม เลอ เมอริเดียน เพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงรับรอง ร่วมกับนางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ จากนั้นจะประชุมร่วมกับนักธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน และร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ โดยจะมีการกล่าวสุนทรพจน์เปิดงาน โดยประธานสภาธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน ต่อด้วยสุนทรพจน์ของนางฮิลลารี คลินตัน และน.ส.ยิ่งลักษณ์ พล.อ.เต็ง เส่ง ประธานาธิบดีพม่า สมเด็จฯ ฮุนเซน และปิดท้ายด้วย นาย Myron Brilliant ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สภาหอการค้าอเมริกา และเวลา 21.00 น. นายกฯ และคณะ จะเดินทางกลับ โดยมีกำหนดถึงประเทศไทยเวลา 22.20 น.