“อุดมเดช” มั่นใจแดงไม่กดดันศาล - “ขวัญชัย” ขู่ตัดสินทางลบ ขนสมุนลุยศาลากลางแน่

ประธานวิปรัฐบาล เผยเพื่อไทย-ชาติไทยพัฒนายื่นคำแถลงปิดคดีแก้รธน.แล้ว ยังยันศาลไร้อำนาจวินิจฉัย ระบุพรรคไม่กังวล โถ...มั่นใจแดงไม่กดดันศาลได้ คงไม่มีใครปฏิเสธคำวินิจฉัย แนะใช้ดุลยพินิจให้สังคมยอมรับ ด้าน “ขวัญชัย” เข้ากรุงนั่งมอนิเตอร์ร่วมโจกแดง สั่งสาวกอุดรฯ อยู่ในที่ตั้ง ลั่นถ้าตัดสินไปในทางลบระดมพลศาลากลางแน่ พร้อมบุกโรงพักแจ้งจับตุลาการด้วย อ้างเฉยไม่ใช่กฎหมู่ แค่ไม่ก้มหัวให้ความอยุติธรรม

วันนี้ (11 ก.ค.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 15.50 น. นายอุดมเดช รัตนเสถียร ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทย และพรรคชาติไทยพัฒนา ได้ยื่นคำแถลงปิดคดีแก่ศาลรัฐธรรมนูญแล้ว โดยในส่วนพรรคเพื่อไทยยืนยันว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจในการรับวินิจฉัย อย่างไรก็ตามขณะนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับศาลว่าจะวินิจฉัยออกมาอย่างไร โดยในส่วนพรรคเพื่อไทยไม่ได้มีความกังวล เพราะเท่าที่ดูจากการให้ถ้อยคำด้วยวาจาทั้งผู้ถูกร้องและพยานต่างก็ให้ข้อความครอบคุมทุกด้านแล้ว ในส่วนของคำแถลงปิดคดีก็ทำให้รอบคอบและรัดกุมมากยิ่งขึ้น

ส่วนที่มีความกังวลว่ามวลชนกลุ่มคนเสิ้อแดงจะออกมากดดันศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 13 ก.ค.นี้นั้น นายอุดมเดชกล่าวว่า ขณะนี้เป็นเพียงกระแสข่าวว่าจะใช้มวลชนเสื้อแดงกดดันศาล แต่เท่าที่ฟังแกนนำคนเสื้อแดงก็ยืนยันชัดเจนว่าจะไม่มีการนำมวลชนมาในวันที่ 13 ก.ค.นี้ จึงอยากให้ความมั่นใจว่าจะไม่มีคนเสื้อแดงหรือกระบวนการใดมากดดันศาลได้ เท่าที่เห็นก็มีกลุ่มหลายสีไปเฮโลอยู่หน้าศาล

เมื่อถามว่า ถ้าผลการตัดสินออกมาเป็นลบ หลายฝ่ายจะออกมาเคลื่อนไหวทันที นายอุดมเดชกล่าวว่า ศาลต้องใช้ดุลยพินิจให้ชัดเจนและตอบสังคมให้ได้เป็นที่ยอมรับ โดยอ้างมาตราให้ชัดเจน และเชื่อว่าจะไม่มีใครปฏิเสธผลการวินิจฉัยได้ ดังนั้นความกดดันขณะนี้ไม่ได้อยู่กับกลุ่มคนเสื้อแดง แต่อยู่ที่ศาล

ด้าน นายขวัญชัย สาราคำ หรือไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร เปิดเผยว่า ในวันที่ 13 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันที่ศาลรัฐธรรมนูญจะอ่านคำวินิจฉัยคดีล้มล้างเปลี่ยนแปลงการปกครองนั้น เดิมตนตั้งใจจะตั้งเวทีแล้วเชิญให้นักวิชาการมาเสวนาเรื่องกฎหมาย แต่ติดขัดในหลายเรื่อง เช่น คนเสื้อแดงเรากำลังลงนาปักดำกัน และเนื่องจากว่าจะมีบุคคลสำคัญเข้าในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ตนจึงเกรงจะเกิดความไม่สะดวก ตนจึงตัดสินใจที่จะลงไปอยู่วอร์รูมที่โรงแรมอิมพีเรียล กทม.ร่วมกับแกนนำ นปช.ส่วนกลาง ส่วนที่จังหวัดอุดรธานีก็จะให้สมาชิกชมรมคนรักอุดรและพี่น้องเสื้อแดง สแตนด์บายอยู่ในพื้นที่ หากมีเหตุการณ์อะไร ตนจะสั่งการผ่านทางคลื่นสถานีวิทยุชมรมคนรักอุดร 97.5 เมกะเฮิรตซ์ ทั้งนี้ หลังจากที่ตนไปประชุมแกนนำคนเสื้อแดงภาคอีสาน 20 จังหวัด ที่ จ.มหาสารคาม ได้นัดแนะให้แกนนำทั้ง 20 จังหวัดลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับมวลชน คอยฟังผลการตัดสิน หากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำตัดสินออกมาทางลบ คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญอาจจะเป็นการล้มล้างเปลี่ยนแปลงการปกครอง ซึ่งผู้รู้ทั้งหลายทางด้านกฎหมาย นักวิชาการ และสื่อต่างๆ ได้วิเคราะห์ออกมาแล้วว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องร้องของพรรคประชาธิปัตย์และกลุ่ม 40 ส.ว.ไม่ชอบตั้งแต่เริ่มต้น ฉะนั้นเราต้องรอดูท่าที แต่เท่าที่ดูสัญญาณจากส่วนกลาง คาดว่าการวินิจฉัยจะออกมาในทางบวก อาจจะยกคำร้อง โดยมีเงื่อนไข นั่นเป็นข่าวที่ออกมาซึ่งเราก็ไม่ได้ประมาท จึงบอกกับมวลชนคนเสื้อแดงให้เตรียมตัวไว้ ถ้าหากออกมาตรงกันข้ามกับความรู้สึกของประชาชน คนส่วนใหญ่ทั้งแผ่นดินเราจะต้องออกมารวมตัวกันหน้าศาลากลางจังหวัดก่อน และจึงจะมีมาตรการออกมาเป็นขั้นๆ ไป เราจะไม่ยอมรับคำตัดสินเป็นอันขาด พร้อมกับจะให้แกนนำคนเสื้อแดงเข้าแจ้งความต่อตำรวจในทุกโรงพัก เพื่อดำเนินคดีต่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้งหมดที่ตัดสินมาตรา 68 โดยไม่ชอบ นี่คือสิ่งที่พวกเราเตรียมการเอาไว้

“ผมเชื่อมั่นว่าประชาชนจะไม่ยอมอีกต่อไป ที่เราเคยฟังเสียงของเขาในแต่ละจังหวัดเขาไม่ยอมกัน ส่วนใหญ่เขาอยากจะเข้าไป กทม.กัน แต่เราไม่ต้องการให้เขาเดือดร้อน ไปนอนกลางดินกินกลางแดดกันอีก โดยเราจะรอให้ผลคำวินิจฉัยออกมาก่อน ซึ่งทุกวันนี้มีแต่ว่า อาจจะอย่างนั้น อาจจะอย่างนี้ เรายังไม่เห็นข้อเท็จจริง แต่เราก็เชื่อมั่นว่าในกระบวนการตุลาการศาลรัฐธรรมนูญน่าจะมีผู้ที่มีความเที่ยงธรรมอยู่ เป็นผู้ที่มีลูกศิษย์ลูกหาเต็มบ้านเต็มเมือง ถ้าหากจะไปรับคำสั่งของคนที่คิดจะล้มรัฐบาล คิดว่าท่านคงเดินทางผิด วันนี้มีคำพูดจากพี่น้องประชาชนว่าประเทศจีนมีศาลไคฟง แต่ประเทศไทยศาลเป็นของใคร ที่คือสิ่งที่กำลังพูดกระจายกันออกไป ซึ่งจะทำให้กระบวนการยุติธรรมเกิดความเสื่อม ถ้าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไม่วินิจฉัยออกมาทางบวก ให้เคลียร์ภาพพจน์ของตัวเองออกมา ประชาชนจะได้มีความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมต่อไป” นายขวัญชัยกล่าว

นายขวัญชัยกล่าวต่อไปอีกว่า ทุกวันนี้คนรากหญ้าไม่มีพิษมีภัยต่อใคร ไม่ต้องการเห็นความเดือดร้อนขึ้นในบ้านเมือง เรามีกฎกติกา เราไม่ใช้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย แต่เราไม่ยอมก้มหัวให้กับความอยุติธรรมเท่านั้นเอง พวกเรามีหัวใจนักสู้ที่มีอุดมการณ์ ไม่มีผลประโยชน์ วันนี้เราเห็นกระบวนการของกลุ่มอำมาตย์ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย หรือ ผรท.ที่วันนี้แกนนำหลักๆ ออกมาพูดชัดเจนว่าไม่เกี่ยวข้อง นักรบต่างๆ ที่ออกมาอยู่หน้าศาลรัฐธรรมนูญ 200 คน ก็จ้างมาทั้งนั้น มี ผรท.เพียงไม่กี่คนที่ไปรับใช้อำมาตย์ รับใช้กลุ่มที่จะล้มรัฐบาล ผรท.ตัวจริงออกมายืนยันผ่านสื่อและทางรายการของตนก็หลายคน นี่คือสิ่งที่ยืนยันได้ว่า ขบวนการเหล่านี้พยายามที่จะสร้างความชอบธรรมให้กับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แต่ประชาชนเขารู้ทันกันหมดแล้ว