xs
xsm
sm
md
lg

ฟ้อง2ผู้พิพากษาศาลอาญา ใช้ดุลยพินิจคดีหมิ่นไม่ชอบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรรายวัน-ทนายความศูนย์ประสานงานลูกหนี้แห่งชาติ ฟ้อง 2 ผู้พิพากษาศาลอาญา ฐานไม่รับฟ้องคดี เดลินิวส์ หมิ่นประมาท ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้สืบพยานในขั้นไต่สวนมูลฟ้อง แต่ด่วนวินิจฉัยว่าเป็นการติชมโดยสุจริต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่ศาลอาญา นายสุกิจ พูนศรีเกษม ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายธนฤทธิ์ โทวรรธนะ เป็นจำเลยที่ 1, นางสาวศศิธร ศรุติอังกูร ที่ 2 ต่อศาลอาญา ตามคดีหมายเลขดำที่ อ.2318/2555 โดยสรุปตามคำบรรยายฟ้องโจทก์ว่า เมื่อวันที่ 16 พ.ค.2555 เวลากลางวันโจทก์ได้ยื่นฟ้องบริษัท สี่พระยาการพิมพ์ จำกัด เป็นจำเลยที่ 1, นางประภา เหตระกูล หรือศรีนวลนัด ที่ 2, นายสุเนตร์ แสงท้าว ที่ 3ต่อศาลอาญาตามคดีหมายเลขดำที่ อ.1356/2555 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 4 พ.ค.2555 เวลากลางวัน บริษัท สี่พระยาการพิมพ์ จำกัด กับพวกรวม 3 คน ร่วมกันใส่ความโจทก์ต่อผู้อ่านหนังสือพิมพ์เดลินิวส์รายวันว่า นำชายฉกรรจ์ 200 คน มารื้อตลาดมูเซอให้เก็บข้าวของภายใน 24 ชั่วโมง ไม่อย่างนั้นจะโดนปรับวันละ 100,000 บาท เป็นเหตุให้นายสุเนตร์ แสงท้าวกับพวกประมาณ 40 คน ไม่มีที่ขายของ ไม่มีที่พักพิง ต้องอาศัยอยู่บริเวณถนนนานกว่า 1 เดือน ข้อความที่บริษัท สี่พระยาการพิมพ์ จำกัด โดยบรรณาธิการผู้พิมพ์แลโฆษณาควบคุมเนื้อหาหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ ทำให้ผู้อ่านหนังสือพิมพ์รายวันเข้าใจว่าโจทก์เป็นคนไม่ดี เป็นนักเลง เป็นอันธพาล เป็นผู้มีอิทธิพล เป็นมาเฟีย นำสมัครพรรคพวก 200 คน รื้อตลาดโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง โดยบริษัท สี่พระยาการพิมพ์ จํากัด ที่ 1 ในฐานะเจ้าของหนังสือพิมพ์กับพวกรวมสามคน รู้อยู่แล้วว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด จึงต้องรับผิดชอบในผลแห่งการกระทำของนางประภา เหตระกูล ในฐานะบรรณาธิการผู้พิมพ์และโฆษณาและนายสุเนตร์ แสงท้าว ที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์อีกทั้งข้อความที่ลงตีพิมพ์ลงในหน้าหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ บริษัท สี่พระยาการพิมพ์ จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์กับพวกได้ยืนยันข้อเท็จจริงและใส่ความต่อโจทก์ต่อผู้อ่านหนังสือพิมพ์เดลินิวส์รายวันที่เผยแพร่ทั่วประเทศนั้น มิใช่เป็นการแสดงข้อความโดยสุจริตหรือติชมด้วยความเป็นธรรมอันเป็นนิสัยของประชาชนอันพึงกระทำเพื่อความชอบธรรมป้องกันตนหรือป้องกันส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวกับตนตามธรรมนองคลองธรรมหรือในการแจ้งข่าวด้วยความเป็นธรรมโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่โจทก์

ทั้งนี้ ศาลอาญาได้พิจารณาคำฟ้องแล้วมีคำสั่งนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 9 ก.ค.2555

ต่อมาเมื่อวันที่ 9 ก.ค.2555 จำเลยที่ 1 และที่ 2 ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานในตำแหน่งตุลาการได้บังอาจใช้ดุลยพินิจ โดยมิชอบในการวินิจฉัยเนื้อหาแห่งคดีตามคำบรรยายฟ้องว่า คดีพอวินิจฉัยได้ โดยไม่ต้องสืบพยาน และยังใช้ดุลยพินิจก้าวล่วงไปถึงข้อความได้สอบถามโจทก์อันเป็นการไต่สวนแล้ว เห็นว่าข้อความที่ลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ เดลินิวส์รายวันของบริษัท สี่พระยาการพิมพ์ จำกัดจำเลยที่ 1ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 1356/2555 กับพวก เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต สามารถทำได้ คดีโจทก์ไม่มีมูล พิพากษา ยกฟ้องจึงเป็นการใช้ดุลยพินิจโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

นายสุกิจ พูนศรีเกษม กล่าวว่า หากศาลได้ไต่สวนมูลฟ้องแล้วไม่รับฟ้อง ยังยอมรับสภาพได้ เพราะศาลจะมีคำวินิจฉัย ซึ่งแสดงเหตุผลในการไม่รับฟ้อง แต่กรณีนี้ ศาลไม่ยอมรับให้ไต่สวน ซึ่งตนคิดว่า ไม่เป็นธรรม จึงต้องเรียกร้องความเป็นธรรม แม้ว่า จะเป็นการฟ้องผู้พิพากษาถึง 2 คน

สำหรับนายสุกิจ เป็นทนายความ ในคดีที่ลูกหนี้ ฟ้องผู้พิพากษาศาลล้มละลายกลาง เนื่องจากเจ้าหนี้บริษัท บริหารสินทรัพย์แห่งหนึ่ง ซึ่งถือหุ้นโดยชาวต่างชาติทุจริตปลอมแปลงเอกสาร โดยเป็นทนายความให้กับบริษัท ฐมศร จำกัด ที่มอบอำนาจให้น.ส.กัลยาณี รุทระกาญจน์ เลขาธิการศูนย์ประสานงานลูกหนี้แห่งชาติ

ด้าน น.ส.กัลยาณีกล่าวว่า รู้สึกไม่สบายใจที่นายสุกิจ ซึ่งเป็นทนายความถูกกลั่นแกล้ง ปิดกั้นโอกาสในการเสนอข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานเข้าสู่ศาล อันเป็นสิทธิตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ซึ่งอาจเป็นเพราะนายสุกิจได้รับเป็นทนายฟ้องคดีให้ลูกหนี้เพื่อช่วยเปิดโปงขบวนการของวาณิชธนกิจต่างชาติว่า อิทธิพลทางการเงินของชาวต่างชาตินั้น เข้ามาเกี่ยวข้องลึกซึ้งถึงส่วนใดในกระบวนการยุติธรรมของไทย หากกรณีเป็นเช่นนี้จริง จะเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก หวังว่าคงไม่ปรากฏว่ามีกระบวนการใดๆ จงใจขัดขวางสิทธิพื้นฐานของประชาชนในการเข้าถึงสิทธิในกระบวนการยุติธรรมตามรัฐธรรมนูญและมีส่วนเกี่ยวพันกับผลประโยชน์ของวาณิชธนกิจต่างชาติมูลค่านับแสนล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น