xs
xsm
sm
md
lg

“วรินทร์” ยันเหตุยื่นศาล รธน.พิจารณาตาม ม.68 หลัง อสส.ยื้อเรื่อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วรินทร์ เทียมจรัส
“วรินทร์-บวร” 2 ผู้ร้องต่อศาล รธน.ให้พิจารณาตาม ม.68 เปิดคำร้อง พร้อมเผย จี้อสส.ให้ดำเนินการแล้ว ตั้งแต่เดือน เม.ย.แต่ยังไม่มีผล จึงหมดทางเลือกต้องเดินหน้าฟ้องศาลเอง เพราะเห็นว่าการยกเลิกรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง

วันนี้ (7 มิ.ย.) นายวรินทร์ เทียมจรัส อดีต ส.ว.สรรหา (ผู้ยื่นคำร้อง) ขอให้ศาล รธน.พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ว่า คณะรัฐมนตรี รัฐสภา พรรคเพื่อไทย พรรคชาติไทยพัฒนา, นายสุนัย จุลพงศธร และคณะ และ นายภราดร ปริศนานันทกุล และคณะ ได้มีการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีผลทำให้เป็นการยกเลิกรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 อันเป็นการกระทำเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ โดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญหรือไม่ ให้กับคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่า ที่ตนต้องไปยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากว่าตนเคยไปยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดให้ดำเนินการส่งเรื่องที่ คณะบุคคล บุคคล พรรคการเมือง และรัฐบาล ได้เสนอญัตติพร้อมร่างกฎหมายโดยแก้ไขมาตรา 291 เพื่อวัตถุประสงค์ ให้มีคณะบุคคมาทำหน้าที่แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญดังกล่าว ถือได้ว่าเป็นการแก้ไขหลักการสำคัญในการปกครองประเทศระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเป็นการล้มล้างรัฐธรรมนูญอันเป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 และมาตรา 291 นอกจากนี้ ในคำร้องยังชี้ด้วยว่า การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญให้อำนาจรัฐสภาเท่านั้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ให้มีคณะบุคคลทำหน้าที่แก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ยกเว้นหมวด 2 และหมวด 3 เป็นการขัดต่อหลักการที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ การเสนอญัตติโดยไม่ปรากฏรายละเอียดในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เช่น การดำรงอยู่ของอำนาจอธิปไตยของรัฐไทย หรือการดำรงอยู่ หรือการหมดไป ขององค์กรตามรัฐธรรมนูญ หรือองค์กรอิสระตามที่บัญญํติไว้ในรัฐธรรมนูญ ถือเป็นการตัดสิทธิ์ในการตรวจตรากฎหมาย เพื่อการตรากฎหมาย ในระบบนิติวิธีเพื่อนิติรัฐ หรือนิติธรรม

นายวรินทร์ ยังกล่าวชี้แจงเหตุผลที่ต้องไปยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ว่า ตนเคยยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดให้รวบรวมข้อเท็จจริงเสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญโดยพลัน เมื่อวันที่ 16 มี.ค.2555 ต่อมาเมื่อวันที่ 3 เม.ย.2555 ตนได้มีหนังสือสอบถามผลการดำเนินการจนถึงวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา อัยการสูงสุดได้เชิญตนไปสอบปากคำ ตนยังไม่ได้รับแจ้งความคืบหน้าในการดำเนินการของอัยการสูงสุดแต่อย่างใด และทราบว่า ในเย็นวันนี้ (7 มิ.ย.) อัยการสูงสุดจะมีการแถลง ซึ่งก็ยังไม่ทราบว่าจะแถลงถึงผลที่ตนร้องไปหรือไม่ ว่า ต้องดำเนินการส่งศาลหรือจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อ หากชี้ว่าส่งศาลรัฐธรรมนูญให้วินิฉัยก็จะเป็นการบรรเทาโทษของอัยการ เหลือโทษเพียง 1 ใน 3 หากศาลมีคำวินิจฉัยกรณีดังกล่าวออกมา ซึ่งตนเห็นว่า เป็นความล่าช้า อย่างไรก็ตาม ตนได้ขอให้ศาลมีคำสั่งหยุดการกระทำดังกล่าว และขอให้ดำเนินการตามมาตรา 68 ต่อไป

ขณะที่ นายบวร ยสินทร แกนนำกลุ่มราษฎรอาสาปกป้อง 3 สถาบัน (ผู้ยื่นคำร้อง) กล่าวถึงกรณีการเสนอเรื่องต่ออัยการสูงสุด ในกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ที่อาจจะเป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครองฯ ตามมาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญ ว่า เรื่องนี้ทางกลุ่มเราได้เสนอไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดตั้งแต่วันที่ 6 มี.ค.แต่ก็ไม่มีการตอบรับหรือการแจ้งเรื่องใดๆ กลับมา จนกระทั่งวันที่ 14 พ.ค.ก็มีการติดต่อจากสำนักงานอัยการสูงสุด ให้ทางกลุ่มเข้าให้ข้อมูล ทั้งนี้ ในวันดังกล่าว ทางกลุ่มก็ได้ยื่นบันทึกข้อความเพิ่มเติมว่าทางอัยการสูงสุดจะต้องยื่นเรื่องนี้ต่อศาลรัฐธรรมนูญโดยเร็ว แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการตามคำขอ จนวันที่ 23 พ.ค. ทางกลุ่มได้เดินทางไปประท้วงที่สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อให้เร่งทำเรื่องนี้อีกครั้ง พร้อมทั้งได้ประกาศ ว่า หากเวลาผ่านไปแล้วเกิดความเสียหายทางอัยการสูงสุดต้องรับผิดชอบ ต่อมาเมื่อวันที่ 29 พ.ค.ทางกลุ่มเห็นว่า คงไม่มีทางอื่น จึงต้องขออนุญาติยื่นฟ้องต่อศาลรัฐธรรมนูญด้วยตัวเองตามช่องทาง 68 ของรัฐธรรมนูญดีกว่า เนื่องจากเห็นว่าจะมีการลงมติวาระ 3 ในวันที่ 5 มิ.ย.แล้ว

“ทางกลุ่มได้เสนอต่ออัยการสูงสุดมาตั้งแต่วันที่ 6 มี.ค.เพราะเห็นแล้วว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้มีปัญหา จึงได้ยื่นตามมาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญ แต่เมื่ออัยการสูงสุดไม่มีการดำเนินการใด เราจึงยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญด้วยตัวเอง และยืนยันว่า ขณะนี้ยังรอท่าทีของอัยการสูงสุดอยู่ หากไม่กระทำตามกฎหมายก็จะมีการดำเนินการจากทางกลุ่มอย่างแน่นอน” นายบวร กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น