ข่าวปนคนฯ
“ค้อนปลอมตราดูไบ” น่าจะเป็นฉายาที่ดีเกินไปสำหรับ สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ผู้สวมหัวโขนในตำแหน่งประธานรัฐสภาวันนี้
เพราะพฤติกรรมไม่มีสำนึกต่อแผ่นดินสนองตัณหานายใหญ่ จนทำลายหลักการของประเทศด้วยการบรรจุ “ร่างพรบ.ปรองดองกับโจร” เข้าสภา แบบรวบรัดไม่ฟังเสียงทักท้วง แม้ว่าจะเป็นการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญ
ประชาชนทั่วทั้งแผ่นดินรู้ทันและออกมาต่อต้านร่วมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอย่างเนื่องแน่น เพื่อกดดันไม่ให้สภารับพิจารณาพ.ร.บ.ปรองดองทำลายชาติ รวมทั้งฝ่ายค้านในสภาก็ค้านจนสภาอลหม่าน ชี้ว่า กฎหมายนี้เข้าข่ายกฎหมายการเงิน เพราะรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะต้องตีเช็คจากภาษีประชาชน 4.6 หมื่นล้าน ถวายพานประเคนให้พี่ชายนักโทษ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรแต่คนเป็นน้องสาวที่เป็นนายกรัฐมนตรี ไม่กล้าเซ็นรับรองว่าเป็นกฎหมายการเงิน เพราะกลัวถูกถอดถอน ติดคุกหัวโต เลยอาศัยฝักถั่วไร้สำนึกในสภา
ทำหน้าที่เป็น “ฝ่ายกฎหมายตระกูลชิน” คลอดกฎหมายปล่้นระบบยุติธรรมไทย
แปลงสภาไทยเป็นสภาทาส เอาอำนาจตุลาการไปไว้ใต้อุ้งตีน ทักษิณ แทนที่ ไอ้ค้อนปลอม จะมีความละอายต่อชาติบ้านเมือง ยับยั้งกฎหมายอัปยศ กลับสมรู้ร่วมคิดอ้างผลโพลสุดมั่วว่า ผู้คนอยากปรองดอง จึงเห็นว่ากฎหมายทรราชย์เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องบรรจุทันที
ข้ามหัวกฎหมายเพื่อประชาชน 26 ฉบับที่ค้างเติ่งรอคิวพิจารณาชนิดไม่เห็นความสำคัญเจ้าของอำนาจที่มอบให้ไพร่ได้เข้ามาเป็นอำมาตย์บริหารประเทศ
ประพฤติตนเสื่อมเกียรติหัวโจกนิติบัญญัติ ลดชั้นตัวเองไปเป็นแค่หัวหน้าฝ่ายกฎหมายตระกูลชิน ลุแก่อำนาจข่มขืนบังคับขู่เข็ญให้เสียงข้างน้อยต้องยอมจำนนกับเสียงข้างมากที่ไร้ความชอบธรรม
จนเกิดปรากฏการล้อมกรอบ “เผด็จการ” กลางสภา เพื่อยับยั้งโจรออกกฎหมายเพื่อหัวหน้าโจร
เรื่องเกียรติยศ ศักดิ์ศรี ไม่ต้องพูดถึง เพราะ ไอ้ค้อนปลอม ไม่รู้จัก รู้แค่ว่ารับใช้แล้วได้ดีมีตำแหน่ง ส่วนจะเหลือคุณค่าความเป็นคนให้สังคมได้ระลึกถึงหรือไม่ไม่สำคัญ
บ้านเมืองในยามทุรยศมีแต่คนเห็นแก่ตัวปกครองประเทศเป็นเช่นนี้เอง คนดีต้องยอมให้อันธพาลกดหัว ถ้าไม่ลุกขึ้นสู้ก็ต้องถูกขู่ให้กลายเป็นทาส กระเบื้องเฟื่องฟูลอย ขณะที่น้ำเต้าน้อยกำลังถอยจม
หากวันนี้คนไทยปล่อยให้ สภาทาส จับระบบยุติธรรมขึงพืดกระทำชำเราล้มคำพิพากษาได้สำเร็จ คนอย่าง ทักษิณ ย่อมเดินหน้ารุกคืบกินรวบประเทศไทย สร้างฐานเผด็จการทุนสามานย์ได้ในไม่ช้านี้
เป็นความอำมหิตของตระกูลชินทั้งพี่ชายและน้องสาวที่กระทำต่อแผ่นดินเกิดของตัวเองแบบไม่ยั้ง
คนเป็นพี่ชายสั่งการจากแดนไกล ใช้เสียงข้างมากลากสภาทาสก่อกลียุคกลางเมือง คนเป็นน้องสาวดีดดิ้นขุดลอก คูคลองกับ ผบ.ทบ.ในวันที่สภาแทบเกิดจลาจล จากผลพวงกฎหมายเพื่อโจรปล้นชาติ แถมยังลอยหน้าลอยตาขอให้ทุกฝ่ายเคารพสภา
ในขณะที่ตัวเองวางบทบาทเหนือรัฐสภา ไม่เข้าร่วมประชุม ไม่เคารพต่อกระบวนการตรวจสอบของปวงชนชาวไทยกล้าพูดหน้าด้าน ๆ ว่า “ยังไม่ได้อ่านกฎหมายเพื่อพี่ชายนักโทษ” ทั้งที่เป็นกฎหมายสำคัญที่มีผลกระทบต่อหลักการของประเทศ ลบล้างความผิดคิดชั่วตลอด 6 ปีที่ผ่านมา
โดยไม่ใส่ใจที่จะดูแลความเดือดร้อนของประชาชน ปล่อยให้คนไทยจมน้ำได้เช็ค 200 บาท ในขณะที่ตัวเองใช้อำนาจจากประชาชนปลดโซ่ตรวนเตรียมเซ็นเช็คให้พี่ชาย 4.6 หมื่นล้าน
ความเหิมเกริม หลงลำพองในอำนาจ มิได้แตกต่างไปจากยุคปลายของ ทักษิณ ใช้ประชาธิปไตยบังหน้าแต่เนื้อในเป็นเผด็จการคิดรวบอำนาจ นิติรัฐ บริหาร ไปจนถึงตุลาการ ทำให้สภาง่อยเปลี้ยเสียขา
กลไกตรวจสอบทำงานไม่ได้ เพราะวัดที่มือไม่ได้วัดกันที่ความชอบธรรม
การลุกขึ้นสู้เพื่อรักษาหลักการและระบบของประเทศ เช่นการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่หยัดยืนไม่ยอมจำนนต่ออำนาจสามานย์เท่านั้น ที่จะเป็นหลักประกันให้กับบ้านเมืองนี้ว่ายังพอมีความหวัง
พิษทักษิณที่กำลังแพร่กระจายทำร้ายประเทศในขณะนี้ มีแต่พลังแห่งประชาชนที่จะถอนพิษนี้ให้หมดสิ้นจากแผ่นดินไทย แม้จะดูเหมือนว่าพลังแห่งคุณธรรมจะดูอ่อนล้า แต่คนดีที่รักความถูกต้องไม่เคยอ่อนแอ
รอยร้าวที่ถูกปรามาสว่าจะทำให้การรวมพลกลุ่มพันธมิตรฯและคนต้านทักษิณ รวมตัวไม่ติด มีบทพิสูจน์ให้เห็นหน้าสภาแล้วว่า เมื่อบ้านเมืองมีปัญหาคนไทยจะรวมพลังแสดงให้เห็นถึงความรักชาติแบบไม่รักตัวกลัวตาย
ไม่แน่ว่า ทักษิณ อาจผลักดันกฎหมายล้างผิดให้ตัวเองได้สำเร็จ กระหยิ่มยิ้มย่องกับชัยชนะที่ได้รับ แต่เชื่อเถอะว่าเป็นชัยชนะเพื่อรอวันพ่ายแพ้ เพราะไม่มีความไม่ถูกต้องใดหยัดยืนได้ยาวนาน ดังคำทำนายของหลวงตามหาบัวที่ว่า “ไม่มีแผ่นดินจะอยู่ ทรัพย์สินหมดสิ้น แม้แต่ชีวิตก็จะรักษาไว้ไม่ได้”
ส่วนประเทศชาติก็จะเข้าสู่ยุคสุดท้ายตามคำทำนายของหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่ว่า “ศิวิไลซ์จะบังเกิดในสยาม หลังฝนคร้ามลั่นครืนจะยืนได้ จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา ยามเมื่อฟ้าสีทองผ่องอำไพ”
ปรากฏการณ์แห่งศรัทธามหาชนที่หน้าลานพระบรมรูปทรงม้าและหน้ารัฐสภา เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือทักษิณยังมีประชาชน การกลับเข้าสู่อำนาจอีกครั้งผ่านน้องสาวไร้สมองของ ทักษิณ เป็นเพียงยุคเปลี่ยนผ่านที่จะเปลือยตัวตนให้ประชาชนได้เห็นธาตุแท้ของทรราชย์ จนตาสว่างทั้งแผ่นดิน เข้าสู่ยุคมหาชนพาไป เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา ในที่สุด
แน่นอนว่า ไทยยังคงเป็นไทย ไม่มี รัฐไทยใหม่ บนผืนแผ่นดินนี้