“ส.ว.สมชาย” ชี้ พ.ร.บ.ปรองดองทำศาลเสียหายขาดความน่าเชื่อถือ ทำคดีค้างโมฆะ แถมยิ่งทำคนละเมิดเพิ่ม หวั่นเกิดสงครามปรองดอง วอนอย่ารีบบรรจุเข้าวาระ ด้าน “ส.ว.คำนูณ” ท้ารีบดันเข้าสภา เปลี่ยนชื่อเป็น “พ.ร.บ.เพื่อทักษิณกลับบ้านอย่างเท่ๆ” ขณะที่ ส.ว.เพชรบุรี แนะนายกฯ ทบทวน ทางฝั่ง “ส.ว.มณเฑียร” จ่อผ่านกฎหมายคนพิการก่อน
คลิกที่นี่ เพื่อฟังคลิปเสียง"สว.คำนูณ สิทธิสมาน ให้สัมภาษณ์"
วันนี้ (28 พ.ค.) ที่รัฐสภา การประชุมวุฒิสภา มีนายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม โดยก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ได้หารือว่า ฝากไปยัง 3 ประมุขของอำนาจประชาธิปไตย คือ นายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา และประธานศาลฎีกา ขณะนี้จะมีการนำร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะทำให้เสียดุลอำนาจโดยเฉพาะฝ่ายศาลอย่างมาก หากมีการกระทำที่ทำให้ศาลเสียความน่าเชื่อถือจะทำให้คดีที่ค้างอยู่ในกระบวนการยุติธรรมเป็นอันยกเลิกทั้งหมด จะทำให้เสียกระบวนการยุติธรรม ทั้ง 8 มาตราในร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้จะเป็นปัญหาทำให้เกิดการละเมิดศาลมากขึ้น และทำให้กระบวนการยุติธรรมของไทยไร้ความน่าเชื่อถือ อาจเกิดสงครามปรองดองและเกิดการต่อต้าน ขอความกรุณาอย่ารีบบรรจุระเบียบวาระ หากไม่เชื่อแล้วต้องการทดสอบกำลังประชาชนก็จะเกิดความเสียหายทำให้ประเทศไทยไม่สามารถกลับมาได้เหมือนเดิม
ด้าน นายคำนูน สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ตนมีความเห็นต่าง ขอเสนอไปยังเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรโปรดอย่าลังเล อย่าถอย อย่าชักช้า ขอให้เลื่อนระเบียบวาระนี้ขึ้นมาพิจารณาในวันที่ 30 พ.ค. ร่างกฎหมายฉบับนี้เป็นร่างประวัติศาสตร์ที่ผูกรวม 3 เรื่องไว้ด้วยกัน คือนิรโทษกรรมการชุมนุมทางการเมืองทุกกรณี การคืนสิทธิทางการเมืองแก่นักการเมืองที่ถูกตัดสิทธิ 5 ปี และการยกเลิกผลดำเนินคดีขององค์กรที่ตั้งโดยประกาศของคณะรัฐประหาร ทั้ง 3 ประเด็นเป็นประเด็นปัญหาทางประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะการยกเลิกผลการดำเนินคดีฯ หากนำเรื่องนี้มาพิจารณา เท่ากับเป็นครั้งแรกของสถาบันนิติบัญญัติที่จะ พิจารณายกเลิกคำพิพากษาและคำวินิจฉัยของศาลที่ตัดสินถึงที่สุดแล้ว ขอให้เลื่อนขึ้นมาพิจารณาเพื่อให้รู้ผลกันไป ให้ประชาชนได้รู้ว่าจะต้องตัดใจต่อสู้อย่างไร และขอให้แปรญัตติชื่อร่างกฎหมายใหม่ เป็นร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับประเทศไทยอย่างเท่ๆ และได้เงิน 46,000 ล้านบาทคืน
ขณะที่ น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี กล่าวว่า อยากถามรัฐบาลว่าไม่มีเรื่องสำคัญอะไรจำเป็นกว่านี้หรือ ถึงต้องเอาร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ เข้าสู่สภา ขณะนี้ทั้งปัญหาของแพง ปัญหาเศรษฐกิจ ยังไม่ได้รับการแก้ไข ขอให้นายกรัฐมนตรีทบทวนเรื่องนี้ อย่าเห็นว่าขณะนี้เป็นนาทีทองของสภาผู้แทนราษฎรที่จะรีบเอา พ.ร.บ.นี้เข้าสู่สภาโดยไม่คำนึงถึงว่าก่อนจะปรองดองได้ผ่านกระบวนการประนีประนอมหรือไม่
ทางด้าน นายมณเฑียร บุญตัน ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ยังมีกฎหมายด้านคนพิการที่ค้างการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร อาทิ ร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ โดยร่างกฎหมายฉบับนี้รอเข้าสู่วาระการประชุมในวันที่ 30 พ.ค.นี้ ตนยินดีที่รัฐบาลจะสร้างความปรองดองโดยการเสนอร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติเข้ามา และไม่มีความเห็นอะไร แต่ขอให้รัฐบาลพิจารณากฎหมายของคนพิการให้เสร็จ เพราะกฎหมายฉบับนี้เป็นกฎหมายที่ดี ไม่มีใครโต้แย้ง จึงอย่าได้เอากฎหมายนี้มาเป็นตัวประกัน ขอให้เร่งพิจารณาให้เสร็จสิ้นไป