หลังจากเอาเงินภาษีประชาชนไปจ่ายให้กับบรรดาลิ่วล้อที่ขายชีวิตให้กับพวกมัน ทักษิณและบรรดาขี้ข้าม้าใช้ทั้งหลายในรัฐสภาก็ออกอาการเหิมเกริมเป็นการใหญ่ เพราะย่ามใจที่ต้องการสิ่งใดเมื่อลงมือทำแล้วเป็นต้องได้ทั้งสิ้น จะจ่ายค่าจ้างให้กับบรรดาผู้ที่ทำงานให้กับมันในเดือนเมษายน 2552 และเมษายน 2553 ก็สามารถออกมติคณะรัฐมนตรีจ่ายเงินเยียวยาเป็นแสนเป็นล้านบาทได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีกฎหมายรองรับ จะฉีกรัฐธรรมนูญ พุทธศักราช 2550 ทิ้งก็แก้กฎหมายเปิดทางให้มีสภาร่างฯ ขึ้นมา จะเอาใครเป็นรัฐมนตรี มันก็จะบอกและจะจัดการให้
คราวนี้มันเล่นดื้อๆ เสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ เข้าสู่สภา คนที่จะได้ประโยชน์เต็มๆ คือ ทักษิณ ชินวัตร ผู้ซึ่งอยู่เบื้องหลังรัฐบาลสมัคร สมชาย และยิ่งลักษณ์
โดยคาดหมายว่า ถ้าหากสภาผ่านร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ ออกมา ก็เท่ากับเป็นการนิรโทษกรรมให้กับทักษิณ ทำให้ทักษิณกลับประเทศไทยได้โดยที่ไม่ต้องติดคุก ทำให้ทักษิณได้ทรัพย์สินที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองยึดไว้ 4.6 หมื่นล้านบาทคืน
เป็นที่น่าสมเพชเวทนาเป็นอย่างยิ่งที่ปรากฏว่าคนที่ยื่นร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ คือ พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคมาตุภูมิ ซึ่งเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 เขาคือ หัวหน้าคณะทหารที่ยึดอำนาจจากทักษิณ ในเวลานั้นเขาบอกกล่าวให้ประชาชนรู้ถึงเหตุผลของการยึดอำนาจ บอกกล่าวให้ประชาชนรู้ถึงความเลวร้ายของทักษิณ เขาเป็นคนแต่งตั้งคณะกรรมการ คตส.ขึ้นมาตรวจสอบการบริหารบ้านเมืองของทักษิณ และก็พบความเลวร้ายของทักษิณมีการฟ้องร้อง และมีการลงโทษทักษิณ
มาวันนี้พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน ก้มลงเลียเสมหะตัวเอง ด้วยการเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ เพื่อให้ทักษิณพ้นผิด
พ้นผิดอย่างไร?
มาตรา 3 และมาตรา 4 นิรโทษกรรมให้ผู้กระทำผิดใดๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมทางการเมือง หรือแสดงออกทางการเมืองตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2548 จนถึงวันที่ 10 พฤษภาคม 2554 รวมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปเกี่ยวข้อง สิ่งที่ทำไปนั้นให้ถือว่าไม่ผิด
ให้ล้างผลทางกฎหมายของการใช้อำนาจโดยผู้ที่ถูกแต่งตั้งโดยผู้ทำรัฐประหารวันที่ 19 กันยายน 2549 กล่าวคือ ลบล้างผลการใช้อำนาจ ล้างผลการดำเนินคดีของ คตส.ตลอดจนคำพิพากษาที่ตามมา
มาตรา 6 คืนสิทธิเลือกตั้งให้กับผู้ที่เคยเป็นกรรมการบริหารของพรรคการเมืองที่ถูกยุบ
โดยเนื้อหา 2-3 ประเด็นดังกล่าวนี้ ทักษิณ ชินวัตร และบรรดาบริษัทบริวาร รวมทั้งนายกรัฐมนตรีที่สติปัญญาค่อนข้างนิ่มคงจะฝันหวานว่า ทุกประการล้วนสะดวกโยธิน เช่นเดียวกับการเอางบประมาณแผ่นดินไปแจกให้บรรดาขี้ข้าม้าใช้ทั้งหลายที่ขายชีวิตให้กับทักษิณตั้งแต่ทักษิณถูกยึดอำนาจ เป็นต้นมา การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งก็คือการฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งแล้วจะร่างขึ้นใหม่เพื่อประโยชน์ของทักษิณ ทั้งนี้เพราะไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไรล้วนไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ประชาชนได้แต่ทำตาปริบๆ ยอมจำนนทุกเรื่อง ต่างกับสมัยที่นายสมัคร นายสมชาย เป็นนายกรัฐมนตรี เพียงจะแก้ไขรัฐธรรมนูญช่วยทักษิณเท่านั้น ประชาชนก็ออกมาเต็มถนน ยึดทำเนียบรัฐบาล รวมทั้งไปประท้วง สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ
เป็นการต่อสู้อย่างแข็งขัน จริงจัง จนเสียงข้างมากในสภาไม่อาจหน้าด้านช่วยทักษิณได้
ทุกวันนี้เป็นพรรคประชาธิปัตย์ที่ยืนหยัดสู้อยู่พรรคเดียวในสภา และก็แพ้ตลอดมา เพราะรัฐบาลไม่ฟังเหตุไม่ฟังผล อาศัยเสียงข้างมากเอาชนะทุกครั้งที่มีการลงมติ
พรรคประชาธิปัตย์เริ่มรับรู้บทเรียนที่เคยบอกว่ายึดมั่นในระบบรัฐสภาแล้ว พวกเขาเริ่มออกมาตั้งเวทีพบปะประชาชนแล้วที่ชุมพร สุราษฎร์ธานี สงขลา กาญจนบุรี บอกกล่าวให้ประชาชนรู้ว่าเขาจะฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งอย่างไร เขาเอาเงินภาษีของประชาชนไปแบ่งสันปันส่วนกันอย่างไร นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งบอกกล่าวกับประชาชนว่า จะไม่ทำเพื่อคนคนเดียว คือ ทักษิณ ชินวัตร พี่ชายของตัว แต่จะทำเพื่อประเทศชาติและประชาชนนั้น แท้จริงแล้วโกหก ตอแหลประชาชนอย่างไร?
ประชาชนตื่นตัวขึ้นมาแล้ว ไม่ใช่เพิ่งเริ่ม ความจริงตื่นมานานแล้ว เพียงแต่รอเวลา รอจังหวะ รอฟางเส้นสุดท้ายที่จะทนไม่ได้ ที่ต้องอดทนก็เพราะไม่อยากเหนื่อยเพื่อพรรคประชาธิปัตย์ ไม่อยากเหนื่อยเพื่อนายสุเทพ ไม่อยากเห็นนายสุเทพเดินแขนกางเหมือนรักแร้ทั้งสองข้างเป็นฝีกลัดหนองตลอดเวลา ไม่อยากเหนื่อยเพื่อนายเนวินให้ส่งบริษัทบริวารไปปู้ยี่ปู้ยำกระทรวงมหาดไทย และหน่วยราชการอื่นๆ ที่สามารถเอื้อมมือไปถึง
อีกอย่างหนึ่ง เมื่อพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งก็บริหารไป เช่นเดียวกับพรรคพลังประชาชนชนะเลือกตั้งเมื่อปี 2550 พรรคพลังประชาชนก็จัดตั้งรัฐบาลบริหารประเทศไป ประชาชนออกมาบนถนนก็ต่อเมื่อรัฐบาลนายสมัครจะแก้ไขรัฐธรรมนูญช่วยทักษิณ
คราวนี้ก็เช่นเดียวกัน ประชาชนรู้สึกแล้วว่าทนอีกต่อไปไม่ได้ที่จะเห็นอดีตหัวหน้าคณะรัฐประหารกลืนเสมหะตัวเอง ทนไม่ได้ที่จะเห็นหลักนิติธรรมถูกทำลายโดยเสียงข้างมากของบริษัทบริวารทักษิณในสภา เพราะไม่มีที่ไหนในโลกนี้จะออกกฎหมายมาลบล้างความผิดที่ศาลยุติธรรม และศาลรัฐธรรมนูญตัดสินเรียบร้อยแล้ว อย่างคดีทักษิณเรื่องที่ดินรัชดาฯ เรื่องร่ำรวยผิดปกติ หรือกระทั่งกรรมการบริหารพรรคการเมืองที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองโดยศาลรัฐธรรมนูญ
ขื่อแปของบ้านเมืองจะถูกทำลายอย่างย่อยยับทันทีที่ร่างกฎหมายนี้ผ่าน
ประชาชนยอมไม่ได้หรอกครับ
คราวนี้มันเล่นดื้อๆ เสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ เข้าสู่สภา คนที่จะได้ประโยชน์เต็มๆ คือ ทักษิณ ชินวัตร ผู้ซึ่งอยู่เบื้องหลังรัฐบาลสมัคร สมชาย และยิ่งลักษณ์
โดยคาดหมายว่า ถ้าหากสภาผ่านร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ ออกมา ก็เท่ากับเป็นการนิรโทษกรรมให้กับทักษิณ ทำให้ทักษิณกลับประเทศไทยได้โดยที่ไม่ต้องติดคุก ทำให้ทักษิณได้ทรัพย์สินที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองยึดไว้ 4.6 หมื่นล้านบาทคืน
เป็นที่น่าสมเพชเวทนาเป็นอย่างยิ่งที่ปรากฏว่าคนที่ยื่นร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ คือ พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคมาตุภูมิ ซึ่งเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 เขาคือ หัวหน้าคณะทหารที่ยึดอำนาจจากทักษิณ ในเวลานั้นเขาบอกกล่าวให้ประชาชนรู้ถึงเหตุผลของการยึดอำนาจ บอกกล่าวให้ประชาชนรู้ถึงความเลวร้ายของทักษิณ เขาเป็นคนแต่งตั้งคณะกรรมการ คตส.ขึ้นมาตรวจสอบการบริหารบ้านเมืองของทักษิณ และก็พบความเลวร้ายของทักษิณมีการฟ้องร้อง และมีการลงโทษทักษิณ
มาวันนี้พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน ก้มลงเลียเสมหะตัวเอง ด้วยการเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ เพื่อให้ทักษิณพ้นผิด
พ้นผิดอย่างไร?
มาตรา 3 และมาตรา 4 นิรโทษกรรมให้ผู้กระทำผิดใดๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมทางการเมือง หรือแสดงออกทางการเมืองตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2548 จนถึงวันที่ 10 พฤษภาคม 2554 รวมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปเกี่ยวข้อง สิ่งที่ทำไปนั้นให้ถือว่าไม่ผิด
ให้ล้างผลทางกฎหมายของการใช้อำนาจโดยผู้ที่ถูกแต่งตั้งโดยผู้ทำรัฐประหารวันที่ 19 กันยายน 2549 กล่าวคือ ลบล้างผลการใช้อำนาจ ล้างผลการดำเนินคดีของ คตส.ตลอดจนคำพิพากษาที่ตามมา
มาตรา 6 คืนสิทธิเลือกตั้งให้กับผู้ที่เคยเป็นกรรมการบริหารของพรรคการเมืองที่ถูกยุบ
โดยเนื้อหา 2-3 ประเด็นดังกล่าวนี้ ทักษิณ ชินวัตร และบรรดาบริษัทบริวาร รวมทั้งนายกรัฐมนตรีที่สติปัญญาค่อนข้างนิ่มคงจะฝันหวานว่า ทุกประการล้วนสะดวกโยธิน เช่นเดียวกับการเอางบประมาณแผ่นดินไปแจกให้บรรดาขี้ข้าม้าใช้ทั้งหลายที่ขายชีวิตให้กับทักษิณตั้งแต่ทักษิณถูกยึดอำนาจ เป็นต้นมา การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งก็คือการฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งแล้วจะร่างขึ้นใหม่เพื่อประโยชน์ของทักษิณ ทั้งนี้เพราะไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไรล้วนไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ประชาชนได้แต่ทำตาปริบๆ ยอมจำนนทุกเรื่อง ต่างกับสมัยที่นายสมัคร นายสมชาย เป็นนายกรัฐมนตรี เพียงจะแก้ไขรัฐธรรมนูญช่วยทักษิณเท่านั้น ประชาชนก็ออกมาเต็มถนน ยึดทำเนียบรัฐบาล รวมทั้งไปประท้วง สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ
เป็นการต่อสู้อย่างแข็งขัน จริงจัง จนเสียงข้างมากในสภาไม่อาจหน้าด้านช่วยทักษิณได้
ทุกวันนี้เป็นพรรคประชาธิปัตย์ที่ยืนหยัดสู้อยู่พรรคเดียวในสภา และก็แพ้ตลอดมา เพราะรัฐบาลไม่ฟังเหตุไม่ฟังผล อาศัยเสียงข้างมากเอาชนะทุกครั้งที่มีการลงมติ
พรรคประชาธิปัตย์เริ่มรับรู้บทเรียนที่เคยบอกว่ายึดมั่นในระบบรัฐสภาแล้ว พวกเขาเริ่มออกมาตั้งเวทีพบปะประชาชนแล้วที่ชุมพร สุราษฎร์ธานี สงขลา กาญจนบุรี บอกกล่าวให้ประชาชนรู้ว่าเขาจะฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งอย่างไร เขาเอาเงินภาษีของประชาชนไปแบ่งสันปันส่วนกันอย่างไร นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งบอกกล่าวกับประชาชนว่า จะไม่ทำเพื่อคนคนเดียว คือ ทักษิณ ชินวัตร พี่ชายของตัว แต่จะทำเพื่อประเทศชาติและประชาชนนั้น แท้จริงแล้วโกหก ตอแหลประชาชนอย่างไร?
ประชาชนตื่นตัวขึ้นมาแล้ว ไม่ใช่เพิ่งเริ่ม ความจริงตื่นมานานแล้ว เพียงแต่รอเวลา รอจังหวะ รอฟางเส้นสุดท้ายที่จะทนไม่ได้ ที่ต้องอดทนก็เพราะไม่อยากเหนื่อยเพื่อพรรคประชาธิปัตย์ ไม่อยากเหนื่อยเพื่อนายสุเทพ ไม่อยากเห็นนายสุเทพเดินแขนกางเหมือนรักแร้ทั้งสองข้างเป็นฝีกลัดหนองตลอดเวลา ไม่อยากเหนื่อยเพื่อนายเนวินให้ส่งบริษัทบริวารไปปู้ยี่ปู้ยำกระทรวงมหาดไทย และหน่วยราชการอื่นๆ ที่สามารถเอื้อมมือไปถึง
อีกอย่างหนึ่ง เมื่อพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งก็บริหารไป เช่นเดียวกับพรรคพลังประชาชนชนะเลือกตั้งเมื่อปี 2550 พรรคพลังประชาชนก็จัดตั้งรัฐบาลบริหารประเทศไป ประชาชนออกมาบนถนนก็ต่อเมื่อรัฐบาลนายสมัครจะแก้ไขรัฐธรรมนูญช่วยทักษิณ
คราวนี้ก็เช่นเดียวกัน ประชาชนรู้สึกแล้วว่าทนอีกต่อไปไม่ได้ที่จะเห็นอดีตหัวหน้าคณะรัฐประหารกลืนเสมหะตัวเอง ทนไม่ได้ที่จะเห็นหลักนิติธรรมถูกทำลายโดยเสียงข้างมากของบริษัทบริวารทักษิณในสภา เพราะไม่มีที่ไหนในโลกนี้จะออกกฎหมายมาลบล้างความผิดที่ศาลยุติธรรม และศาลรัฐธรรมนูญตัดสินเรียบร้อยแล้ว อย่างคดีทักษิณเรื่องที่ดินรัชดาฯ เรื่องร่ำรวยผิดปกติ หรือกระทั่งกรรมการบริหารพรรคการเมืองที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองโดยศาลรัฐธรรมนูญ
ขื่อแปของบ้านเมืองจะถูกทำลายอย่างย่อยยับทันทีที่ร่างกฎหมายนี้ผ่าน
ประชาชนยอมไม่ได้หรอกครับ