xs
xsm
sm
md
lg

“เด็จพี่” อ้างฝ่าย กม.ปชป.ท้วงติงเงินบริจาค จึงรีบนำไปให้สำนักนายกฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ (แฟ้มภาพ)
“เด็จพี่” หัวชนฝา ปชป.ผิดชัดรับเงินบริจาคน้ำท่วมจากอีสต์วอเตอร์ฯ อ้างรู้มาว่าฝ่ายกฎหมาย ปชป.ทักท้วงจะถูกยุบพรรค จึงต้องรีบนำเงินไปมอบให้สำนักนายกฯ พร้อมขู่ “เทพเทือก” ระวังถูก “ธาริต” ฟ้องกลับฐานใส่ความ กล่าวหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่ไม่ดำเนินคดีแก๊งล้มเจ้า

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์มีการรับเงินบริจาคช่วงน้ำท่วมในปี 2553 ผิดกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์รับเงินบริจาคจากบริษัทจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือบริษัท อีสต์วอเตอร์ ซึ่งมีการประปาส่วนภูมิภาคที่เป็นหน่วยงานของรัฐถือหุ้นมากที่สุด โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายสาทิตย์ วงษ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ และฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ อ้างว่าเป็นเพียงตัวกลางในการรับเงินบริจาคเพื่อไปบริจาคให้รัฐบาลเท่านั้นว่า พฤติการณ์ดังกล่าวหากพรรคประชาธิปัตย์มีหลักฐานว่าบริษัท อีสต์วอเตอร์ บริจาคเงินให้พรรคประชาธิปัตย์เพื่อเป็นตัวกลางในการส่งมอบให้รัฐบาล ทางพรรคประชาธิปัตย์ต้องเอาหลักฐานดังกล่าวออกมาแสดง เพราะเมื่อพรรคประชาธิปัตย์รับเงินไป ย่อมถือว่าเป็นทรัพย์สินของพรรคอย่างสมบูรณ์ตามหลักของกฎหมาย

“ผมอยากจะถามว่าเหตุใดเมื่อพรรคประชาธิปัตยเป็นเพียงตัวกลางในการรับเงินบริจาค จากบริษัท อีสต์วอเตอร์ แต่มีการเก็บเงิน 1 ล้านบาทเอาไว้ถึง 1 เดือนเศษ เพราะเท่าที่ตนทราบมานั้น มีฝ่ายกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ทักท้วงว่า การรับเงินบริจาคจากบริษัทที่ถือหุ้นนั้น ขัดต่อกฎหมายและมีโทษถึงการยุบพรรค จึงหาทางให้พ้นผิดด้วยการนำเงินดังกล่าวไปมอบให้กับสำนักนายกรัฐมนตรี”

นายพร้อมพงศ์ยังกล่าวต่อว่า ความผิดที่พรรคประชาธิปัตย์รับเงินจากบริษัท อีสต์วอเตอร์ ถือว่าเป็นความผิดที่สำเร็จแล้ว ซึ่งก็คงจะหนีความผิดไม่พ้น ถึงแม้ว่าจะมีการออกมาท้าให้ยื่นยุบพรรคประชาธิปัตย์ก็ตาม ตนมองว่าเรื่องนี้ กกต.จะเป็นคนกลางในการพิสูจน์ข้อเท็จจริงและทำความจริงให้ปรากฏว่า สิ่งที่พรรคเก่าแก่ที่เชียวชาญด้านกฎหมายนั้น จริงหรือไม่ หรือสุดท้ายก็เป็นเพียงแค่กิ้งกือตกท่อเท่านั้น”

นายพร้อมพงศ์กล่าวถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ได้ไปยื่นประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ถึงกรณีนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และ พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐและพนักงานเจ้าหน้าที่ของดีเอสไออีกจำนวนหนึ่ง กระทำการเข้าข่ายเป็นความผิดต่อกฎหมายฐานเป็นเจ้าพนักงานกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่และความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรมตามประมวลกฎหมายอาญา หลังการประชุมของดีเอสไอเมื่อวันที่ 3 พ.ค.53 มีมติให้รับการกระทำอันเป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งรัฐโดยมุ่งร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เรียกว่า “คดีล้มเจ้า” โดยตามกฎหมายแล้วนายสุเทพสามารถทำได้ แต่ตนขอเตือนให้นายสุเทพระวังว่าจะถูกนายธาริตและดีเอสไอฟ้องกลับตามกฎหมายอาญามาตรา 200 เพราะเรื่องดังกล่าวอาจเป็นเพียงการใส่ความ เพราะการพิจารณาไม่สั่งฟ้องนั้น นายธาริตไม่ได้กระทำเพียงคนเดียว แต่เป็นการผ่านการพิจารณาจากคณะของกรมดีเอสไอ

นายพร้อมพงศ์กล่าวต่อว่า การดำเนินการของนายสุเทพอาจเป็นเพียงแค่การแก้เกี้ยวเท่านั้น มากกว่าที่จะมุ่งตรวจสอบ ตนจึงอยากจะเรียกร้องให้นายสุเทพเคารพกระบวนการยุติธรรม และขอให้ข้าราชการดูเอาไว้ว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่คบยากจริงหรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น