เรื่องที่ “ไอ้โด่ง” มันไม่รู้ แต่ยังเสือกและบิดเบือน!

สะเก็ดไฟ

โด่ง คงไม่เข้าใจเรื่อง อำพล มันไม่ใช่อย่างที่โด่งแสดงความคิดออกมา

โด่งรู้ไหมว่า ลูกของ “อำพล” เป็นคนเสื้อแดง

โด่งรู้ไหมว่า ไม่มีโทรศัพท์มือถือสองเครื่องที่ไหนในโลกจะมีเลขอีมีตรงกัน แม้จะมีการปลอมอีมีกันได้ แต่ในยุคที่ราคาโทรศัพท์ลดฮวบฮาบ ไม่มีความจำเป็นต้องปลอมอีมีี่อีกต่อไป ไม่เหมือนยุคพ่อแม้วรวยสัมปทาน ขายมือถือเครื่องละแสนที่มีการล็อกรหัสอีมี ซะหน่อย

โด่งรู้ไหมว่า โคตรบังเอิญเลยที่การส่งเอสเอ็มเอสหมิ่นฯ เกิดในพื้นที่เซลล์ไซต์เดียวกันก็คือบ้่านของอำพล ซึ่งอยู่หลังอิมพีเรียลสำโรง กลางดงแดงเลย

โด่งรู้ไหมว่า อำพลอ้างว่าส่งเครื่องไปซ่อม พอศาลถามว่าซ่อมที่ไหน บอกว่าจำไม่ได้เว้ยเฮ้ย

โด่งรู้ไหมว่า พอจนด้วยหลักฐาน อำพลก็ลากหลานอายุ 11 ขวบมาช่วยแถกลางศาล

โด่งรู้ไหมว่า หลานอายุ 11 ขวบ บอก “อำพลชอบทิ้งโทรศัพท์มือถือไว้ที่บ้านไม่ได้พกติดตัว และบ้านมีคนเข้าออกอยู่จำนวนหนึ่ง”

เฮ้ย นี่มันออกตัวนี่หว่า ว่าทิ้งโทรศัพท์คนอื่นอาจเป็นคนส่งเอสเอ็มเอส เด็กอายุน้อยกว่า 10 ขวบยังดูออกเลยหงะ

โด่งรู้ไหมว่า หลานอายุ 11 ขวบ คือ พยานยืนยันว่าอำพลเทิดทูนในหลวงเคยพาไปถวายพระพรที่ รพ.ศิริราช แล้วรู้หรือเปล่าว่าพยานที่เป็นญาติให้ปากคำโดยขาดหลักฐานมันไม่มีน้ำหนักในการพิจารณาคดี

โด่งรู้ไหมว่า เบอร์โทรศัพท์ของนักการเมืองและฝ่ายตรงข้ามเสื้อแดงถูกแจกจ่ายหาง่ายยิ่งกว่าถั่วต้มในที่ชุมนุม?

โด่งรู้ไหมว่า อำพลส่งเอสเอ็มเอสหมิ่นไปที่เบอร์นายสมเกียรติ ถึง 4 ครั้ง

โด่งคิดไหมว่าจะมีคนไปใส่ร้ายอำพล ที่ไม่มีใครในประเทศนี้รู้จักไปทำพระแสงอันใด เพื่อประโยชน์อะไร

โด่งรู้ไหมว่า กระบวนการพิจารณาของศาลไทยเป็นระบบกล่าวหา จำเลยต้องพิสูจน์เองว่า “ไม่ได้ทำ” เป็นระบบที่ใช้บังคับกับคนไทยทุกคนไม่ใช่เฉพาะ อำพล อย่ามั่ว!

โด่งรู้ไหมว่า ระบบกฎหมายอาญาถ้ายังมีข้อสงสัยศาลจะยกประโยชน์ให้จำเลย ตามหลักที่ว่าปล่อยคนผิด 10 คนดีกว่าลงโทษคนบริสุทธิ์คนเดียว เว้นแต่ไม่มีข้อสงสัยมี พฤติการณ์แวดล้อม หรือหลักฐานชัดเจนว่ามีการกระทำความผิดจึงตัดสินลงโทษ

โด่งรู้ไหมว่า ตั๊ก ไม่มีทางลำบากเหมือนอำพล เพราะตั๊กรักพ่อหลวงและไม่มีทางทำผิดกฎหมายอาญามาตรา 112 จึงเป็นไปไม่ได้ที่ตั๊ก หรือคนไทยในประเทศนี้ที่จงรักภักดีจะได้ประโยชน์จากการใช้อำพลเป็นเหยื่อล้่มมาตรา 112

โด่งรู้ไหมว่า ศาลใช้ดุลพินิจในทุกคดีเกี่ยวกับการให้ประกันตัวตามพฤติการณ์แห่งคดี แล้วทำไมตั้งข้อสงสัยในคดีอำพลอย่างเดียว ไม่สงสัยว่าทำไมศาลจึงให้แกนนำเสื้อแดงได้รับการประกันตัวแต่คนเสื้อแดงอีกจำนวนหนึ่งยังติดอยู่ในกรงขังบ้างหรือ? ไม่สงสัยหรือว่ารัฐบาลที่ได้อำนาจจากความสูญเสียของไพร่ช่วยไพร่เต็มที่หรือยัง?

โด่งรู้ไหมว่า คดีอำพล ทนายไม่ได้แนะนำให้รับสภาพ มีการยื่นอุทธรณ์สู้คดี โดยระหว่างนั้นมีการขอประกันตัวแต่เมื่อสิ้นหนทางจะได้ประกันตัว จึงตัดสินใจถอนอุทธรณ์เพื่อยุติคดีรอการขอพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งในขั้นตอนนี้ถือว่าคดียุติแล้วจะประกันตัวอีกไม่ได้ โด่งต้องไปถามว่าทำไม ทนายดราม่า ไม่รีบทำเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษให้อำพล และกลไกรัฐที่พรรคการเมืองซึ่งโด่งอิงแอบถือหางอยู่มุดหัวไปอยู่ที่ไหน ทำไมไม่ดูแลอำพลที่ป่วยให้ได้รับสิทธิที่ควรจะได้ตามหลักมนุษยธรรม ในขณะที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์จัดหาคุกอย่างดีให้กับพวกผู้ก่อการร้ายที่ไม่ได้ทำผิด 112 ได้ โด่งว่า สองมาตรฐานสำหรับคนเสื้อแดงมั้ย

โด่งรู้ไหมว่า อำพลผิดจริงหรือไม่ เป็นหน้าที่ศาลไม่ใช่ใช้ความรู้สึกของคนที่ไม่เห็นสำนวนทั้งหมดมาตัดสิน ถ้าใช้ความรู้สึกตัดสินแทนตุลาการบ้านเมืองจะอยู่รอดหรือ ที่สำคัญถ้าโด่งศึกษาเรื่อง อำพลจริง โด่งต้องรู้ว่า อำพล ถูกตัดสินจำคุก 20 ปี ไม่ใช่ 15 ปี ถ้าไม่รู้เรื่องแค่นี้อย่าสะเออะไปสอนตั๊กเลย อายเขานะ โด่ง นะ

โด่งรู้ไหมว่า การต่อสู้ของ ทนายดราม่า ในศาลไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อ อำพล เสมือน อยากให้ อำพล ติดคุก ส่วนจะเพื่ออะไรผลปรากฏให้เห็นแล้วในขณะนี้

โด่งรู้ไหมว่า ทนายบางคนไปปล่อยไก่ในรายการคมชัดลึก อ้างว่าส่งเอสเอ็มเอสไม่เป็น แต่ไปๆ มาๆ ดันแถว่าโทรศัพท์เป็นรุ่นเก่าไม่รู้ว่ามีแป้นพิมพ์ภาษาไทยหรือไม่ ก็อิ๊บอ๋ายสิ ตกลงส่งไม่เป็น หรือโทรศัพท์ไม่มีแป้นภาษาไทย?

โด่งรู้ไหมว่า มีพวกเฮียๆ ไปปลุกปั่นคนไทยให้เกิดความเข้าใจผิดต่อสถาบัน โดยการอ้างว่าอำมาตย์อยู่เบื้องหลังการรัฐประหาร และความสูญเสียในเหตุการณ์เผาเมือง

โด่งรู้ไหมว่า คนที่ออกมาต่อสู้เรื่อง อำพล ล้วนแต่เป็นคนที่ต้องการยกเลิกมาตรา 112 เพื่อจะได้มีสิทธิพิเศษในการจาบจ้วงเบื้องสูงได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ตรรกะด้านเสรีภาพบกพร่อง จนแยกไม่ออกระหว่างเสรีภาพและความรับผิดชอบที่ต้องมีควบคู่ไปด้วย แถมใช้ปากสู้จากห้องแอร์โดยใช้อิสรภาพของคนในคุกกระทั่งศพมาเป็นเหยื่อล่อสังคม

โด่งรู้ไหมว่า ต้องขจัดความไม่รู้ ความไม่เข้าใจโดยด่วน โด่งไม่ใช่คนโง่ แต่ที่โด่งไม่รู้ เพราะ โด่ง “ไม่ฟัง” และการไม่ฟังอาจเกิดจาก “อคติ”

โด่งก็เป็นดารา มีชีวิตอาชีพวันนี้ได้แท้จริงก็เพราะประชาชนและคนไทยทุกคนรักในหลวง ไม่มีใครยอมให้คนอัปรีย์มาจาบจ้วงเหยียบย่ำหัวใจของไทยทั้งชาติ สิ่งที่ตั๊กทำคือการตอบแทนคุณแผ่นดิน

โด่งรู้ไหม ทอม ดันดี ที่โด่งจำขี้ปากเขามาอ้างถึงว่า “ข้าวชามน้ำจอก ที่ชาวบ้านให้เรากิน เราอย่าลืมบุญคุณ” ก็เป็นผู้ต้องหาในคดีมาตรา 112 ที่ยังหลบหนีอยู่ และมีคนไทยฝากบอกว่า “แผ่นดินที่พ่อปกปักรักษา ให้เรามีที่เหยียบยืน เราอย่าลืมบุญคุณ”

หวังว่า โด่ง จะได้อ่านเรื่องนี้และทบทวนดูดีๆ ว่าทำไมคบแต่พวกหมิ่นทั้งนั้น เชื่อเถอะ เลิกคบพวกหมิ่นสถาบันอยู่ข้างคนไทยภายใต้แผ่นดินของพระองค์ผู้ทรงธรรม แล้วจะเจริญอย่างมีเสรีภาพไม่เป็นทาสรับใช้ทุนสามานย์

เกือบลืม โด่ง รู้ไหมว่า คนไทยยังจำได้ว่า วันที่ 6 มีนาคม 2550 มีผู้ชายคนหนึ่งอยู่กับนักศึกษาสาวหน้าตาฟกช้ำดำเขียวมีแผลทั่วตัว แถมขับรถหนีตำรวจทิ้งผู้หญิงไว้ข้างถนน (โคตรแมนเลย) ถูกจับได้ยังอ้างว่าที่ฝ่ายหญิงฟกช้ำดำเขียวเป็นเพราะน้อยใจกระโดดลงจากรถ ตำรวจตั้งข้อหาเมาแล้วขับ ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน โดนลงโทษจำคุก 1 ปี รอลงอาญา คุมประพฤติ 1 ปี บริการสังคม 20 ชั่วโมง ผู้ชายที่ทำร้ายผู้หญิง เมาแล้วกร่าง นี่เลวเนอะ โด่ง เนอะ

ปล. พี่น้องเสื้อแดง และ อำพล อาจไม่รู้ว่า 25 สิงหาคม 2554 รัฐบาลยิ่งลักษณ์ มีมติ ครม.แต่งตั้งให้ อรรถชัย อนันตเมฆ (โด่ง) เป็นข้าราชการการเมืองประจำสำนักนายกฯ กินเงินเดือน 24,200 บาท มาแล้ว 8 เดือน รวมได้เงินเดือนจากภาษีประประชาชนไปแล้ว 193,600 บาท ไม่รวมค่าเบี้ยประชุม อำนาจแฝงจากตำแหน่งที่จะช่วยให้ โด่ง เอาไปกร่างด่ากราดตำรวจได้เต็มที่มากกว่าที่เคยเมาอาละวาดจนถูกยัดเข้าห้องขัง สภ.อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ

พี่น้องเสื้อแดงควรจะได้รู้ว่า อำนาจวาสนาที่โด่งได้มาประดับบารมีวันนี้ โด่งได้มาหลังความสูญเสียของชาติที่มีคนเสื้อแดงบาดเจ็บล้มตายเพราะหลงเชื่อคำปลุกปั่นของแกนนำเฮียๆ ที่กำลังเสวยสุขปล่อยให้คนเสื้อแดงติดคุก-ตาย

แถมพ่อแม้วยังบอกว่า “ช่างแม่มัน” ด้วย