ข่าวปนคน คนปนข่าว
กระแสข่าวการปรับ ครม.ถั่งโถมมาเร็วกว่าที่คาด พลันที่สมาชิกบ้านเลขที่ 111 อดีตคณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ออกมาเปิดหน้าโชว์ตัวกึ่งทางการในศึกฟุตบอล 4 เส้า เมื่อวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา ข่าวการปรับครม.ก็เกาะกระแสขึ้นหน้า 1 ทันที แย่งพื้นที่ข่าวอื่นๆ ไปโดยสิ้นเชิง
หลายแหล่งข่าวยืนยันตรงกันว่า มีสัญญาณจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหลบหนีคดี มาแล้วว่าจะปรับ ครม.กันเร็วๆ นี้
เท่านั้นแหละ...มหกรรมการปล่อยข่าวจากบรรดาลิ่วล้อก็ยิงออกเป็นชุดทันที หลายกลุ่มหลายก๊วนแทงชื่อแกนนำในสังกัดตัวเองขึ้นชิงดำ สมาชิกบ้านเลขที่ 111 ก็ขยันออกหน้าโชว์ตัวเป็นข่าว ให้เห็นแบบเลิกอายกันเลยทีเดียว
กระนั้นสมาชิกบ้านเลขที่ 111 คนไหนจะมาเสียบทันทีหลังโทษแบนยังต้องรอลุ้นกันก่อน แต่ชั่วโมงนี้ชื่อที่มาแรงแซงโค้ง ด้วยคุณสมบัติที่ต้องการให้เข้ามาเติมเต็มรัฐบาลอ่อนประสบการณ์ของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คือ “พงศ์เทพ เทพกาญจนา” สายตรงบ้านจันทร์ส่องหล้า อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มือกฎหมายชั้นเซียนที่รัฐบาลชุดนี้ยังขาดอยู่
อย่างไรก็ตาม การปรับ ครม.ครั้งต่อไป ค่อนข้างชัดว่าน่าจะเป็นการปรับชุดเล็กก่อน ทว่าความเคลื่อนไหวภายในที่เกิดขึ้นกลับไม่เล็กตามไปด้วย
แรงกระเพื่อมเริ่มกระฉอกรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ คนที่อยู่ในพรรคพยายามเสนอชื่อตัวเอง พร้อมตีกันสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ไม่ให้เข้ามาทันทีทันใด ขอตัวเองเป็นสักครั้งหนึ่งก่อน ข่าวคราวสับเปลี่ยนเก้าอี้ดนตรีใน ครม.เลยกระจายไปแบบฉุดไม่อยู่
สงครามข่าวภายในพรรคเพื่อไทย เกี่ยวกับการปรับครม.คงลากยาวต่อเนื่องไปอีกระยะ ดีไม่ดีอาจนานเป็นเดือนไปจนถึงวันที่สมาชิกบ้านเลขที่ 111 พ้นโทษเลยก็ได้ ไม่รู้เป็นเรื่องบังเอิญหรือจงใจที่ทำให้ข่าวคราวความล้มเหลวเชิงบริหารของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ถูกกลบไปหลายส่วน..
ข้าวของแพงจนคนสัมผัสได้มานานแล้ว แต่ยิ่งลักษณ์ยังบอกหน้าด้านๆ ว่าประชาชนคิดกันไปเอง ไม่รู้พูดออกมาได้อย่างไร เฮ้อ.. ก็คนมันรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ แล้วฝ่ายรัฐบาลไปทำขี้เกลืออะไรอยู่ ถึงทำให้คนรู้สึกอย่างนั้น ถ้ารู้สาเหตุตามที่ชี้แจงเป็นฉากๆ แล้วทำไมไม่เข้าไปแก้ไขเสียที
สักแต่พูดจะทำนั่นทำนี่ ธงฟ้า ธงแดง ร้านโชวห่วย ร้านถูกใจ ล่อกันบานตะไท แต่ไร้ผลงานเชิงประจักษ์..ทุด
ฤา..กระแสข่าวการปรับครม.ที่เกิดขึ้นเร็วกว่ากำหนด มันเป็นการปล่อยข่าวจากผู้หวังดีเพื่อให้มากลบข่าวเน่าๆ เหม็นๆ ของรัฐบาล ก่อนที่จะกลายเป็นซากศพ.. เมื่อมีข่าวนี้ขึ้นมามันก็พอทำให้รัฐบาลพักหายใจหายคอ ตั้งสติกันได้อีกรอบ
กระนั้นก็ตามที แว่วว่า ข่าวการปรับครม.ที่ออกมานี้ทำให้แกนนำใหญ่ในพรรคเพื่อไทยบางคนรู้สึกไม่แฮปปี้ เพราะมันทำให้ไปบดบังรัศมีการทำงานของรัฐบาลที่กำลังทำงานอย่างขมักเขม้นเรื่องข้าวของแพงกันอยู่ โดนกลบข่าวไปเสียมิดชิด
นินทากันให้แซดว่า “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” วงศ์วานว่านเครือชินวัตรอีกคนหนึ่ง นั่นปะไรที่ไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ ไม่รู้ว่ามั่นใจอะไรในกึ๋นน้องเมียนักหนา ผลงาน “ยิ่งลักษณ์” ก็เห็นทนโท่..ว่ามันโหลยโท่ยเพียงใด ยังจะมาหวังอะไรแบบนี้อีก...เฮ้อ
ถ้างวดนี้แก้ของแพงไม่สำเร็จลุล่วง ไม่เป็นที่น่าพอใจของประชาชน รับรองอยู่ไม่สุข ลุกนั่งไม่สบายแน่
ที่ผ่านมาหลายเรื่องหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนทำให้รัฐบาลต้องเสียแต้ม เสียรังวัด จนฝ่ายค้านเอาไปเป็นประเด็นโจมตีนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ล้วนเป็นเรื่องที่เกิดจากปัจจัยภายนอก ปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ หรือเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เชิงบริหาร เรื่องส่วนตัว ไม่มีเรื่องบริหารผิดพลาดที่แจ่มแจ้งชัดเจน
แต่เรื่องข้าวของแพงคราครั้งนี้ เกี่ยวพัน โยงใยถึงกึ๋นการบริหารของนายกรัฐมนตรีโดยตรง ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง และเรื่องนี้จะเป็นจุดตาย จุดสลบ ที่ฝ่ายค้าน โดยพรรคประชาธิปัตย์จะนำไปรุมยำแน่นอน โดยเฉพาะคิวซักฟอก อภิปรายไม่ไว้วางใจในสมัยประชุมหน้ารน็ปุ
ร้อนถึงผู้มีบารมีสูงสุดในพรรคเพื่อไทยยามนี้ หลังจากแอบดูห่างๆ อย่างห่วงๆ “พจมาน ณ ป้อมเพชร” อดีตภรรยานักโทษชาย นั่งไม่ติดต้องแอบกระซิบสั่งการไปยังทีมงานเบื้องหลัง ที่คอยกำกับพรรคเพื่อไทยในยามนี้ ให้ออกมาช่วยเหลือ “ยิ่งลักษณ์” ที่กำลังป้อแป้ เป๋ไปเป๋มา สั่งการให้บ้านเลขที่ 111 ที่กำลังจะกลับมา เข้าไปช่วยเหลืออย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยมากขึ้น
ซึ่งมันก็ทำให้ 111 ต้องรีบกุลีกุจอ เสนอหน้าช่วยเหลือ เข้าพรรคกันแทบทุกวัน ระดมสมองกันถี่ยิบ ด้วยหวังตำแหน่งรัฐมนตรีในอนาคตอันใกล้นี้
ซักซ้อม...ติวเข้มเตรียมศึกซักฟอกกันไว้ล่วงหน้า เพราะจับยามประเมินสถานการณ์แล้ว เรื่องข้าวของแพงถึงอย่างไรเสียก็หนีไม่พ้นฝ่ายค้านต้องหยิบเอามาซักฟอกจน “ยิ่งลักษณ์”อ่วมอรทัยแน่
ตั้งวอร์รูมคึกคัก ตื่นเต้นกันตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่ อย่างว่า “ยิ่งลักษณ์” เชิงบริหาร แม้กระทั่งเชิงโวหาร ยังละอ่อนทางการเมือง จึงต้องติวเข้มกันยกใหญ่ ขืนปล่อยให้ขึ้นเวทีซักฟอกด้วยสภาพอย่างนี้คงดูไม่จืด และมันจะนำมาซึ่งความสั่นคลอนของเสถียรภาพรัฐบาล
ปล่อยให้ไปพูดผิดๆ ถูกๆ ไร้กึ๋นเหมือนอย่างเคย รัฐบาลคงมีแต่ความเสื่อมทรามขึ้นเรื่อยๆ
นั่นก็จะเป็นผลพวงอย่างสำคัญที่ทำให้โอกาสกลับบ้านของนักโทษชายเลือนรางลงไปด้วย ดังนั้นต้องทำทุกทางเพื่อประคองให้ทุกอย่างเดินหน้าไป เพื่อบรรลุเป้าหมายสูงสุด
ทั้งหมดทั้งปวงของการบริหารงานรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เป็นไปเหมือนเพียงรัฐบาลรักษาการ รอวันตัวจริงกลับคืนสู่สนาม ไม่มีผลงานโดดเด่นเป็นชิ้นอัน ที่ผ่านมาเมื่อสถานการณ์ยังพอประคองไปได้อยู่ ก็ปล่อยให้ยิ่งลักษณ์และพลพรรครัฐมนตรีน้ำ 3 ว่ากันไปตามเรื่องราว
แต่เมื่อสถานการณ์จวนตัว หนีไม่พ้นนายใหญ่ต้องมากำกับสั่งการ ซึ่งก็ต้องพึ่งบารมีที่แอบซ่อนอยู่ในเมืองไทยอย่าง “พจมาน” อดีตภรรยาที่แยกทางกันไปด้วยความจำเป็นของสถานการณ์ กลับมากุมบังเหียน เป็นคอนดักเตอร์ควบคุมรัฐบาลอีกชั้นหนึ่งอยู่ดี
เพราะลำพังวงศ์วานว่านเครือน้องสาว น้องชาย รวมไปถึงน้องเขย คงทำไม่ได้อย่างใจ หนำซ้ำหลายครั้งยังขัดแย้งกันเองให้ปวดหัว ฉะนั้นคนรู้ใจที่สุดคงหนีไม่พ้น “อดีตเมียรัก” ที่ร่วมเรียงเคียงหมอนกันมานานนม เข้ามาบงการเป็น “นายหญิงใหญ่” ในคำตอบสุดท้าย
ด้วยบารมีที่ยังมีอยู่เปี่ยมล้น เห็นชัดเจนจากการปรับ ครม.แต่ละครั้ง แกนนำไม่ว่าเล็ก หรือใหญ่ ถนนทุกสายล้วนวิ่งตรงเข้าสู่บ้านจันทร์ส่องหล้า เป็นการสะท้อนได้อย่างแจ่มแจ้งว่า ผู้มีบารมี ทรงอิทธิพลสูงสุด อย่างไรเสียก็หนีไม่พ้น “ทักษิณและหญิงอ้อ”