ปธ.กมธ.แก้ร่าง รธน.ยัน ปธ.สภา เป็นแค่คนตั้ง กก.สอบคุณสมบัติ ส.ส.ร. เชื่อสมาชิกมีวุฒิภาวะบล็อกโหวตไม่ได้
วันนี้ (25 เม.ย.) หลังเปิดการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ รธน.ในช่วงเย็น นายสามารถ แก้วมีชัย ประธานคณะกรรมาธิการฯ ชี้แจงว่า อำนาจของประธานรัฐสภาไม่ได้เป็นไปตามที่หลายฝ่ายแสดงความเป็นห่วง ประธานรัฐสภามีอำนาจกำหนดหลักเกณฑ์ในการสรรหา ส.ส.ร.โดยเป็นผู้แต่งตั้งกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติ ส.ส.ร. และมีอำนาจตรวจสอบคุณสมบัติว่าสอดคล้องรัฐธรรมนูญมาตรา 291/2 และ 291/3 หรือไม่ และเมื่อกรณีการลงมติเลือก ส.ส.ร.มีคะแนนเสียงเท่ากัน ประธานรัฐสภา มีอำนาจจับสลากตัดสินผลการคัดเลือก มีอำนาจวินิจฉัยปัญหาที่เกิดจากการคัดเลือก และมีอำนาจนำรายชื่อไปประกาศในราชกิจจานุเบกษา ประธานรัฐสภาไม่ได้มีอำนาจเลือก ส.ส.ร. 22 คนเอง เจตนารมณ์ของบทบัญญัติให้ประธานเป็นเพียงผู้ประกาศว่าองค์กรที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ถูกต้องตามกฎหมายมีองค์กรใดบ้าง ประธานไม่มีสิทธิไปคิดเอาเอง
“ส่วนที่เกรงว่าจะเกิดปัญหาการบล็อกโหวตนั้น เมื่อพิจารณาจากจำนวนเสียงสนับสนุนของฝ่ายรัฐบาลปัจจุบันมี 298 เสียง ฝ่ายค้านมี 201 เสียง จะเห็นว่าคะแนนเสียงจากวุฒิสภาที่เหลืออยู่ 146 เสียงจาก 150 เสียง จะมีส่วนสำคัญในการกลั่นกรองผู้มาดำรงตำแหน่ง ส.ส.ร. ซึ่งผมเชื่อว่าสมาชิกมีเกียรติมีศักดิ์ศรีและมีความเป็นตัวของตัวเอง น่าจะทำให้การสรรหาเป็นไปโดยบริสุทธิ์ยุติธรรม และการลงคะแนนยังเป็นการลงคะแนนลับไม่สามารถรู้ได้ว่าใครเป็นคนเลือกใคร ดังนั้น การจะไปบล็อกโหวตเป็นเรื่องที่ทำได้ลำบาก” นายสามารถ กล่าว
ด้าน นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย รองประธานกรรมาธิการฯ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ส่วนที่มีผู้เสนอความเห็นให้สมาชิกรัฐสภามีสิทธิออกเสียงเลือก ส.ส.ร.ได้มากกว่าคนละ 1 เสียงนั้น กรรมาธิการฯ ได้ออกแบบให้สิทธิของสมาชิกในการลงคะแนนเลือก ส.ส.ร.ทุกคนมีสิทธิเท่ากัน เหมือนกับประชาชนที่มีสิทธิในการเลือก ส.ส.ร.ได้คนละ 1 เสียงเท่ากัน ดังนั้น ตนเชื่อว่าระบบที่ใช้ในการเลือกตั้ง ส.ส.ร.ได้ออกแบบมาถูกต้องและเหมาะสมแล้ว