ทีม กม.พท.ออกโรงโต้ ปชป.ปัดเร่งรัดร่าง รธน.อ้างเป็นไปตามกรอบและกระบวนการรัฐสภา ยันไม่เกี่ยวช่วยเหลือแม้ว โบ้ยความต้องการแก้ รธน.ฉบับ 50 เป็นเสียง ปชช.ส่วนใหญ่ ที่ไม่เอาด้วยผลพวงจากรัฐประหาร
วันนี้ (10 เม.ย.) นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย ในฐานะฝ่ายกฎหมายของพรรค กล่าวปฏิเสธข้อกล่าวหาของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ระบุว่า พรรคเพื่อไทย เร่งรีบ และรวบรัดในการประชุมเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ความจริงแล้วทุกอย่างก็เป็นไปตามกรอบเวลา และกระบวนการของสมัยประชุมรัฐสภา ซึ่งมีตารางกิจกรรมกำหนดไว้อยู่แล้ว ไม่เกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งทุกฝ่ายก็รู้อยู่แล้วว่าจะมีการประชุมรัฐสภาในช่วงนี้ และขอยืนยันว่า พรรคเพื่อไทย ไม่ได้มีเจตนาที่จะรวบรัดรีบปิดการประชุม เพื่อไปร่วมงานเทศกาลสงกรานต์ กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ประเทศกัมพูชา อย่างที่พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหา แต่พรรคเพื่อไทย ก็จะเปิดโอกาสให้พรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งฝ่ายค้านพรรคอื่นๆ และ ส.ว.ได้แสดงความเห็นอย่างเต็มที่
โดยหากการประชุมยืดเยื้อ พรรคเพื่อไทย ก็ยินดีที่จะขยายเวลาการประชุมออกไป แม้จะกระทบต่อการลงพื้นที่ เพื่อร่วมกิจกรรมกับประชาชนในพื้นที่ในช่วงสงกรานต์ เนื่องจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถือเป็นความจำเป็นที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพราะการเดินหน้าวางรากฐานสังคมให้มีความเป็นธรรมนั้น ต้องเริ่มต้นที่การวางกติกาสูงสุดของประเทศ
นายพีรพันธุ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญเป็นจุดเริ่มต้นของการออกแบบประเทศ เพื่อที่จะนำไปสู่การพัฒนาด้านอื่นๆ จึงต้องรีบดำเนินการ เพราะยังมีขั้นตอนอีกมากมายที่ต้องทำต่อ หลังจากนั้น หากจะสร้างบ้าน แล้วไม่เขียนแบบให้เสร็จแล้วเมื่อไหร่จะได้เข้าไปอยู่ในบ้านเสียที ส่วนเนื้อหาของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะเป็นอย่างไรนั้นก็เป็นเรื่องของ ส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้งของพี่น้องประชาชนจะเป็นผู้กำหนด ในขั้นนี้พรรคเพื่อไทยมีเป้าหมายเพียงอย่างเดียว คือ การผลักดันให้มีการแก้ไขกฎหมาย เพื่อให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.ร.
และขอยืนยันว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ไม่ใช่ความต้องการของพรรคเพื่อไทยฝ่ายเดียว แต่เป็นความต้องการของคนส่วนใหญ่ของประเทศ ที่ไม่ยอมรับที่มาของรัฐธรรมนูญ 2550 เนื่องจากเป็นผลผลิตจากการยึดอำนาจโดยคณะรัฐประหาร สิ่งที่บ่งบอกได้ดีที่สุดว่า การแก้รัฐธรรมนูญ เป็นความต้องการของคนส่วนใหญ่ของประเทศ ดูได้จากคะแนนเสียงเลือกตั้งที่ประชาชนให้พรรคเพื่อไทยอย่างท้วมท้น ในการเลือกตั้ง 3 ก.ค.54 เนื่องจากพรรคเพื่อไทยกำหนดให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 เป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วนในช่วงหาเสียง โดยพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่สนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 50 ทั้งฉบับ เพราะมีเนื้อหาที่บกพร่องหลายอย่าง โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับสถาบันทางการเมือง นอกจากนี้ ในการลงมติของ 2 สภา เพื่อรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา ก็มีเสียงสนับสนุนรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างท่วมท้นถึง 399 ต่อ199 เสียง ซึ่งไม่ใช่เสียงของพรรคเพื่อไทยพรรคเดียว แต่เป็นเสียงสนับสนุนจากพรรคฝ่ายค้านบางส่วนและ ส.ว.บางกลุ่ม ด้วย
วันนี้ (10 เม.ย.) นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย ในฐานะฝ่ายกฎหมายของพรรค กล่าวปฏิเสธข้อกล่าวหาของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ระบุว่า พรรคเพื่อไทย เร่งรีบ และรวบรัดในการประชุมเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ความจริงแล้วทุกอย่างก็เป็นไปตามกรอบเวลา และกระบวนการของสมัยประชุมรัฐสภา ซึ่งมีตารางกิจกรรมกำหนดไว้อยู่แล้ว ไม่เกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งทุกฝ่ายก็รู้อยู่แล้วว่าจะมีการประชุมรัฐสภาในช่วงนี้ และขอยืนยันว่า พรรคเพื่อไทย ไม่ได้มีเจตนาที่จะรวบรัดรีบปิดการประชุม เพื่อไปร่วมงานเทศกาลสงกรานต์ กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ประเทศกัมพูชา อย่างที่พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหา แต่พรรคเพื่อไทย ก็จะเปิดโอกาสให้พรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งฝ่ายค้านพรรคอื่นๆ และ ส.ว.ได้แสดงความเห็นอย่างเต็มที่
โดยหากการประชุมยืดเยื้อ พรรคเพื่อไทย ก็ยินดีที่จะขยายเวลาการประชุมออกไป แม้จะกระทบต่อการลงพื้นที่ เพื่อร่วมกิจกรรมกับประชาชนในพื้นที่ในช่วงสงกรานต์ เนื่องจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถือเป็นความจำเป็นที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพราะการเดินหน้าวางรากฐานสังคมให้มีความเป็นธรรมนั้น ต้องเริ่มต้นที่การวางกติกาสูงสุดของประเทศ
นายพีรพันธุ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญเป็นจุดเริ่มต้นของการออกแบบประเทศ เพื่อที่จะนำไปสู่การพัฒนาด้านอื่นๆ จึงต้องรีบดำเนินการ เพราะยังมีขั้นตอนอีกมากมายที่ต้องทำต่อ หลังจากนั้น หากจะสร้างบ้าน แล้วไม่เขียนแบบให้เสร็จแล้วเมื่อไหร่จะได้เข้าไปอยู่ในบ้านเสียที ส่วนเนื้อหาของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะเป็นอย่างไรนั้นก็เป็นเรื่องของ ส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้งของพี่น้องประชาชนจะเป็นผู้กำหนด ในขั้นนี้พรรคเพื่อไทยมีเป้าหมายเพียงอย่างเดียว คือ การผลักดันให้มีการแก้ไขกฎหมาย เพื่อให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.ร.
และขอยืนยันว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ไม่ใช่ความต้องการของพรรคเพื่อไทยฝ่ายเดียว แต่เป็นความต้องการของคนส่วนใหญ่ของประเทศ ที่ไม่ยอมรับที่มาของรัฐธรรมนูญ 2550 เนื่องจากเป็นผลผลิตจากการยึดอำนาจโดยคณะรัฐประหาร สิ่งที่บ่งบอกได้ดีที่สุดว่า การแก้รัฐธรรมนูญ เป็นความต้องการของคนส่วนใหญ่ของประเทศ ดูได้จากคะแนนเสียงเลือกตั้งที่ประชาชนให้พรรคเพื่อไทยอย่างท้วมท้น ในการเลือกตั้ง 3 ก.ค.54 เนื่องจากพรรคเพื่อไทยกำหนดให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 เป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วนในช่วงหาเสียง โดยพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่สนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 50 ทั้งฉบับ เพราะมีเนื้อหาที่บกพร่องหลายอย่าง โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับสถาบันทางการเมือง นอกจากนี้ ในการลงมติของ 2 สภา เพื่อรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา ก็มีเสียงสนับสนุนรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างท่วมท้นถึง 399 ต่อ199 เสียง ซึ่งไม่ใช่เสียงของพรรคเพื่อไทยพรรคเดียว แต่เป็นเสียงสนับสนุนจากพรรคฝ่ายค้านบางส่วนและ ส.ว.บางกลุ่ม ด้วย