“พล.ต.จำลอง”เชิญชวนพี่น้องร่วมยื่นอัยการสูงสุด-ป.ป.ช.เอาผิด 416 นักการเมืองร่วมฉีกรัฐธรรมนูญ 26 เม.ย.นี้ ย้ำพันธมิตรฯ ไม่ได้ขัดแย้งใคร แต่ทำหน้าที่ตาม รธน. ยันไม่เห็นด้วย ปรองดองเพื่อทำลายบ้านเมือง ลบล้างความผิด“แม้ว”-คนเผาบ้านเผาเมือง จวกสภาสุดตกต่ำ หยาบคาย ภาพโป๊ว่อน ทำแต่เรื่องแย่ๆ เผยไม่เข้ารดน้ำ “ป๋าเปรม” ขอปฏิบัติบูชาดีกว่า
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวในรายการ “เพื่อชาติและราชบัลลังก์ฯ” ซึ่งออกอากาศทางเอเอสทีวีเป็นครั้งแรกเมื่อวันเสาร์ที่ 21 เม.ย.ว่า การที่พันธมิตรฯ จะยื่นฟ้องนักการเมือง 416 คนที่มีส่วนร่วมในการล้มล้างรัฐธรรมนูญ ต่ออัยการสูงสุดและ ป.ป.ช.ในวันที่ 26 เม.ย.นั้น ไม่ใช่เพิ่งมานึกตอนนี้ แต่พันธมิตรฯ นึกมานานแล้ว ตั้งแต่รัฐบาลชุดนี้เข้ามา และจะใช้เสียงข้างมากในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งที่จริงก็คือการฉีกรัฐธรรมนูญฉบับเดิมนั่นเอง
ทั้งนี้ในวันที่ 26 เม.ย. เวลา 09.00 น. พันธมิตรฯ จะใช้สิทธิตามมาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญ ยื่นต่ออัยการสูงสุดให้ดำเนินการกับ ส.ส. ส.ว.และรัฐมนตรีรวม 416 คนที่มีส่วนในการฉีกรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะนำไปสู่การยุบพรรค และตัดสิทธิทางการเมือง หลังจากนั้นในเวลา 11.00 น. จะยื่นร้องต่อ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นการใช้สิทธิตามมาตรา 275 ของรัฐธรรมนูญให้สอบสวนเอาผิดนักการเมือง 416 คน ฐานกระทำผิดต่อหน้าที่
พล.ต.จำลองย้ำว่า การยื่นฟ้องครั้งนี้ไม่ใช่เพราะว่าไม่ชอบหน้าใครก็ฟ้อง แต่เพราะเห็นว่าการฉีกรัฐธรรมนูญจะสร้างความเสียหายต่อบ้านเมือง ซึ่งในวันที่ 26 เม.ย. ไม่ใช่การชุมนุมใหญ่ แต่หากพี่น้องสะดวกจะไปร่วมก็ให้ไป มากน้อยไม่สำคัญ แต่ถ้าไปมากก็ดี ทั้งนี้ เราคัดค้านการฉีกรัฐธรรมนูญ 2550 เพราะเป็นรัฐธรรมนูญฉบับเดียวที่ผ่านการลงประชามติและมีประชาชนรับรองถึง 14.7 ล้านคน แล้วรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีปัญหาอะไรกับประชาชน พวกที่จะแก้ไขไม่เห็นบอก มีแต่จะแก้ไขเพื่อให้นักการเมืองและพรรคพวกได้ประโยชน์
พล.ต.จำลองกล่าวต่อว่า เคยมีความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 มาแล้วในรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช แต่พันธมิตรฯ ได้ออกมาชุมนุมคัดค้าน ทำให้การแก้ไขไม่สำเร็จ มาเที่ยวนี้ก็จะผลักดันที่จะแก้ไขอีก เท่านั้นยังไม่พอยังเตรียมจะออกกฎหมายปรองดอง เพื่อนิรโทษกรรมให้ผู้กระทำผิด จะเอาให้ได้ เพื่อผลประโยชน์ของคนคนเดียวและหมู่คณะของตัวเอง ให้คนที่หนีไปอยู่ต่างประเทศรวมทั้งคนเผาบ้านเผาเมือง คนยิงทหารตาย พ้นผิดด้วย ซึ่งถ้าเป็นอย่างนี้แล้ว ต่อไปใครทำความผิดแต่มีเงิน ก็ซื้อเสียงเข้าสภา แล้วออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้ตัวเองได้ แล้วบ้านเมืองจะอยู่ได้อย่างไร
พล.ต.จำลอง กล่าวอีกว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ มีการขยายระยะเวลาการประชุมออกไปโดยไม่มีกำหนด เพื่อเร่งแก้ไขให้เสร็จ ซึ่งตนไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน ทั้งที่ประชาชนกำลังเดือดร้อนกับปัญหาสินค้าราคาแพง การขึ้นราคาแก๊ส และมีปัญหาภัยพิบัติ แต่นักการเมืองกลับมัวแต่จะทำเพื่อประโยชน์ของตัวเอง ตนเคยทำหน้าที่ในสภาทั้งในฐานะเป็น ส.ส. ส.ว. และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติมาแล้ว ยังไม่เคยเห็นยุคไหนที่สภาไทยตกต่ำขนาดนี้ มีการด่าทอด้วยคำหยาบคาย มีภาพโป๊ว่อนสภา ซึ่งเป็นเรื่องที่แย่มากๆ เช่นเดียวกับเรื่องที่พูดในสภาคือการฉีกรัฐธรรมนูญ
“คราวนี้ถือเป็นความตกต่ำของสภาที่สุดแล้ว แต่ก็จะยังมีที่ตกต่ำกว่านี้อีก การจะยับยั้งความตกต่ำของสภา เราต้องเดินหน้าปฏิรูปประเทศไทย โดยเฉพาะเรื่องคุณธรรมของนักการเมือง คนจะมาเป็นนักการเมืองต้องเสียสละ ไม่ใช่บอกว่าทำเพื่อประชาชนแล้วเข้ามากอบโกยเอาๆ แต่ต้องเสียสละ ไม่ว่าคุณจะยากดีมีจน ถ้ามาเป็นนักการเมืองต้องเสียสละ ถ้าอยากรวยไปทำมาหากินอย่างอื่น ถ้าคุณไม่มาเป็นก็มีคนอื่นที่จะมาเป็น แล้วนักการเมืองไม่ใช่อาชีพ เพราะอาชีพคือการหารายได้” พล.ต.จำลองกล่าว
พล.ต.จำลองกล่าวถึงแนวทางการปรองดองที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ขณะนี้ว่า สถาบันพระปกเกล้าเคยมาขอสัมภาษณ์ตนในฐานะแกนนำพันธมิตรฯ แต่ได้ปฏิเสธไป และถามกลับไปว่าใครที่ขัดแย้งกันหรือทะเลาะกันถึงจะต้องมีการปรองดอง พันธมิตรฯ ไม่ได้ทะเลาะกับใคร ที่เราเคยชุมนุมปักหลักพักค้างยาวนานเป็นสถิติโลก เราไม่ได้ขัดแย้งกับใคร แต่เป็นการทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ และการปรองดองดีที่สุดต้องใช้กฎหมาย จะให้คนทำผิดกฎหมายกับคนทำถูกกฎหมายมาปรองดองกันไม่ได้หรอก
สำหรับคำว่า “สุนทรียเสวนา” ที่มีการยกมาอ้างเพื่อนำไปสู่การปรองดองนั้น พล.ต.จำลองกล่าวว่า น่าจะเรียกว่า อสุนทรียเสวนามากกว่า เพราะมันหมายถึงการนำไปสู่ความเสียหายของบ้านเมือง เป็นการตั้งหน้าตั้งตาทำเพื่อคนที่ถูกศาลพิพากษาให้ติดคุก ถูกยึดทรัพย์ คนทำผิดคิดร้าย เผาบ้านเผาเมือง ยิงทหารตาย คนเขารู้กันหมดแล้ว จะมาสุนทรียเสวนาอะไร ส่วนคำว่า “อภัยวิถี” นั้น ถ้าจะให้อภัย คนทำผิดต้องถูกลงโทษเสียก่อน ไม่ว่าใครก็ตามที่ยิงคนตาย เผาศาลากลางจังหวัด ต้องถูกลงโทษก่อน ถึงจะให้อภัยได้
พล.ต.จำลองกล่าวต่อว่า ในชีวิตของตนเคยติดคุกมาแล้วทั้งคุกตำรวจคุกทหาร เพื่อประคองไว้ซึ่งกระบวนการยุติธรรม ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่บอกให้นายวีระ สมความคิด ยอมรับความผิดเพื่อให้กัมพูชาอภัยโทษให้ แต่ตัวเขาเอง พอถูกตัดสินให้ผิดกลับหลบหนี แล้วไปกล่าวโจมตีกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย ทั้งที่ตัวเองอยู่เมืองนอกก็ฟ้องเอาๆ ตนต้องเดินทางไปขึ้นศาลทั่วประเทศจนแทบจะจำไม่ได้ว่าต้องไปจังหวัดไหนบ้าง แล้วทำไมมาบอกว่าศาลไทยไม่ยุติธรรม
ส่วนข้อกล่าวหาที่ว่าพันธมิตรฯ ทำลายบรรยากาศการปรองดองนั้น พล.ต.จำลองกล่าวว่า ตนบอกแล้วว่าพันธมิตรฯ ไม่เคยขัดแย้งกับใครหรือเห็นใครเป็นศัตรูเป็นรายบุคคล แต่เราเห็นว่าใครจะสร้างผลกระทบต่อชาติและราชบัลลังก์เราจึงออกมาต่อต้าน ซึ่งไม่ใช่เรื่องของบุคคล เพราะฉะนั้นการที่จะปรองดองแล้วสร้างความเสียหายต่อบ้านเมือง มุ่งช่วยคนที่ทำผิดให้พ้นผิด เราไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว ถึงคุณจะอ้างว่าการปรองดองไม่ได้ระบุถึงบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ เป็นการพูดในภาพรวม แต่มันก็รวมตัวคุณอยู่ด้วย มาอ้างว่าทุกฝ่ายจะได้ประโยชน์ ไม่ว่าพันธมิตรฯ หรือใครก็ตามก็จะได้รับการยกเว้นโทษ ไม่ต้องมาพูดเลย เราไม่กลัวการติดคุก ถ้าให้ติดก็จะติด พ้นโทษออกมาก็จบ
พล.ต.จำลอง กล่าวถึงการเข้าไปรดน้ำขอพรจาก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เนื่องในวันสงกรานต์ว่า แม้ว่าตนจะเคยเป็นเลขาธิการคณะรัฐมนตรีสมัย พล.อ.เปรมเป็นนายกฯ แต่ก็จะไม่เข้าไปกราบไหว้ เพราะไม่ต้องการประจบสอพลอ ไม่ว่าจะเป็นวันปีใหม่หรือสงกรานต์ และตนไม่ต้องการทำอามิสบูชา แต่จะทำปฏิบัติบูชาดีกว่า โดยเมื่อบ้านเมืองมีปัญหาก็จะลงมือทำ เพื่อช่วยท่านในฐานะที่ท่านเป็นประธานองคมนตรี
พล.ต.จำลองยังกล่าวอีกว่า ถ้าจะแสดงความเคารพต่อ พล.อ.เปรม ต้องเอาพวกโจรที่ไปตั้งเวทีด่า พล.อ.เปรมต่อเนื่อง 6 ชั่วโมง มาลงโทษให้ได้ แต่วันนี้ พวกโจรที่เคยด่าท่านก็เป็นลูกน้องของคนที่เข้าไปไหว้ท่านนั่นเอง
อนึ่ง รายการ “เพื่อชาติและราชบัลลังก์ฯ” ดำเนินรายการโดย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และนายมนตรี จอมพันธุ์ ออกอากาศทางเอเอสทีวี เวลา 18.15-19.00 น. ทุกวันเสาร์ เริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่ 21 เมษายน 2555 เป็นต้นไป และออกอากาศซ้ำทางเอฟเอ็มทีวี ทุกวันอาทิตย์ เวลา 18.15 น.
