“ชายจืด” อัดพวกต้านปรองดองกลัวเสียอำนาจ ชี้ควรแนะจะเอาวิธีไหน รับการปรองดองไม่ใช่เรื่องง่าย แต่จะทำให้บ้านเมืองไปรอดยันไม่ทำเพื่อคนเดียว ย้อนถาม “ทักษิณ” ได้อานิสงส์ผิดตรงไหน ถ้าได้จากส่วนรวม แล้วอยากกลับบ้านผิดตรงไหน เชื่อไม่กลับมาทำลายบ้านเมือง จะกลับมาอย่างเท่ๆ แสดงว่ากลับมาแบบถูก กม. บอก “แม้ว” เคารพ “ป๋าเปรม” ตลอด อวยเป็นผู้ใหญ่เมตตา “ยิ่งลักษณ์”
วันนี้ (14 เม.ย.) ที่หมู่บ้านซัมมิท กรีนวัลเลย์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรีและแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่างถึงการเดินหน้าสร้างความปรองดองของรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชิวัตร” นายกรัฐมนตรี ที่ถูกหลายฝ่ายคัดค้านและต้องคำถามว่าทำเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าหากการปรองดองเป็นไปได้ โดยสังคมทุกฝ่ายพอใจ มีความสงบสุขถือเป็นเรื่องที่ดี ควรให้กระบวนการเดินหน้ากันไปก่อน การขัดขวางไม่ใช่วิธีที่ดี ถ้าไม่เห็นด้วยกับวิธีการที่รัฐบาลเดินหน้า ต้องมาช่วยกันแนะนำ และในความรู้สึกของตนเองมองว่า แม้จะไม่สำเร็จยังดีกว่ายังไม่ได้เริ่มทำ แต่ยอมรับว่าการปรองดองไม่ใช่เรื่องง่าย
“คนที่ออกมาคัดค้านการปรองดอง เพราะคิดว่าการปรองดองนั้นจะทำให้ตัวเองไม่มีอำนาจ ฉะนั้นอย่าคิดเรื่องอำนาจของตัวเองหรือเรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง ขอให้ทุกคนมองประโยชน์ส่วนร่วมแล้วช่วยแนะนำกัน ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณได้ประโยชน์จากการปรองดองร่วมกับคนอื่น มันก็ไม่น่าจะแปลก และมันเป็นไปไม่ได้ที่จะปรองดองเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณคนเดียว การคัดค้านควรจะมีข้อแนะนำที่สร้างสรรค์ การปรองดองเกิดยาก แต่เมื่อได้เริ่มต้นถือเป็นสิ่งที่ดี และดีกว่าไม่ทำอะไรเลย” นายสมชายกล่าว
เมื่อถามว่าบรรยากาศตอนนี้ ในฐานะที่อยู่ในวงการเมืองคิดว่าแนวทางปรองดองจะประสบความสำเร็จหรือไม่ เพราะยังมีการขัดขวาง นายสมชายกล่าวว่า ถ้าไม่ช่วยกันก็คงไม่สำเร็จ หากไม่สำเร็จบ้านเมืองก็ยังขัดแย้งและอยู่ในวังวนของความสับสน ทั้งนี้ เห็นว่าควรช่วยกันให้สำเร็จ บางคนปากบอกสนับสนุนเพียงอย่างเดียว แต่ก็ยังไม่ทำอะไร ถ้าเห็นว่าการเดินหน้าปรองดองทำเพื่อคนคนเดียวไม่เอาด้วยก็ขอให้บอกว่าจะทำอย่างไร ซึ่งยืนยันว่าตนไม่เกี่ยวกับการเมืองฝ่ายไหน แต่สนับสนุนการปรองดอง เพราะทำให้บ้านเมืองไปรอด
เมื่อถามว่าในฐานะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ความเป็นผู้หญิงจะเป็นประโยชน์อะไรต่อการสร้างความปรองดอง นายสมชายกล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีอุปนิสัยประนีประนอมปรองดองอยู่แล้ว ไม่ใช่ความเป็นหญิงหรือชาย ไม่มีความสำคัญ ถ้าเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายปรองดองก็จะเกิดขึ้นได้ และนายกฯ เองก็มีความปรารถนาดีอยากปรองดองตั้งแต่แรก ดังนั้น ทุกฝ่ายในบ้านเมืองต้องช่วยเหลือกัน ไม่ใช่การปรองดองจะต้องทำเพื่อคนใดคนหนึ่งหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งตอนนี้เป็นเพียงการพูดตีปลาหน้าไซ ยังไม่เห็นว่าจะออกมาในรูปแบบไหน ก็ขัดขวางกันแล้ว ไม่ใช่หนทางที่จะนำไปสู่ความสงบสุข ตนรู้ว่าทุกคนหวังดีต่อบ้านเมือง แต่บางครั้งต้องยอมเสียสละเพื่อชาติบ้านเมือง และส่วนรวมตรงนี้ถึงเรียกว่าวีรบุรุษ ไม่ใช่ทำอะไรก็ได้เพื่อให้ตัวเองมีอำนาจ หรือทำลายฝั่งตรงข้ามอย่างนั้นไม่ใช่วิสัยของนักการเมืองที่ดี
เมื่อถามว่าขณะนี้สังคมไทยส่วนหนึ่งมองว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะเป็นตัวสำคัญในการดับชนวนความขัดแย้ง นายสมชายกล่าวว่า ไม่เห็นว่าจะเกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณถูกกระทำมากกว่า และไม่ใช่เรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณที่จะออกมาดับหรือไม่ดับชนวน แต่เป็นหน้าที่ของคนการเมือง ถ้าจะบอกว่าให้ พ.ต.ท.ทักษิณออกมาดำเนินการถามว่าจะยอมให้ทำหรือไม่ ตนเห้นว่าไม่จำเป็นที่จะให้ พ.ต.ท.ทักษิณออกมาเดินหน้าปรองดองเพราะไม่มีหน้าที่อะไร และพ้นไปแล้ว ส่วนความร้าวฉาวที่เกิดขึ้นในจิตใจของ พ.ต.ท.ทักษิณ ท่านก็บอกแล้วว่าไม่ได้เคียดแค้น อาฆาตใคร ตนเห็นว่าการที่ พ.ต.ท.ทักษิณถูกปฏิวัติไม่เป็นธรรม ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยแต่กลับแก้ปัญหาด้วยการปฏิวัติ ทั้งที่รัฐบาลมาจากประชาชน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ก็ยังยอมรับว่าที่ทำไปนั้นไม่ถูกต้องจึงมาเป้นประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ
“ถ้าจะกะเกณฑ์ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ มาเป็นหัวหอกในการปรองดองมันเป็นไปไม่ได้ และถ้า พ.ต.ท.ทักษิณออกมาฝ่ายค้านจะขานรับหรือไม่ มันไม่ใช่ มันเป็นหน้าที่ของคนที่ยังอยู่ดำเนินการเพื่อส่วนร่วม แต่ถ้าตกประโยชน์ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ มันก็ช่วยไม่ได้ แต่เราไม่ได้ทำเพื่อคนคนเดียว และถ้าจะบอกว่าทำเพื่อทุกคน ยกเว้น พ.ต.ท.ทักษิณ มันก็ไม่ได้” นายสมชายกล่าว
เมื่อถามว่าล่าสุด พ.ต.ท.ทักษิณบอกว่าจะกลับเมืองไทยภายในปีนี้ คิดว่าเป็นไปได้หรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า คนที่ถูกขับไล่ออกจากประเทศไป 7 ปี ใครๆ ก็อยากกลับบ้าน ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ พูดว่าอยากกลับบ้านจะผิดตรงไหน หากกลับได้โดยไม่มีปัญหา แต่ถ้าสมมติกลับได้ก็คือไม่ได้ เราจะฟัง พ.ต.ท.ทักษิณพูดแล้วเป็นไปตามนั้นก็ไม่ใช่ ซึ่งยืนยันว่าคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีนัยอะไร แค่คนอยากกลับบ้าน ตนได้พูดเพราะใกล้ชิด แต่พูดเพื่อความเป็นธรรมและเป็นกลาง
เมื่อถามว่าคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กลับบ้าน สถานการณ์ทางการเมืองจะดีขึ้นหรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า รอให้กลับมาก่อน แล้วค่อยดูว่าดีไม่ดี บ้านเมืองไม่ใช่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ คนเดียว ทุกคนต้องช่วยกันทำถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาอยากให้ทุกสิ่งทุกอย่างเดินไปตามกฎหมายบ้านเมือง และทุกคนต้องเคารพกฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ต้องเคาพกฎหมาย ทุกอย่างก็จะจบ จะไปกีดกันทำไม
เมื่อถามว่าในฐานะที่อยู่ในวงการกฎหมายคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ถ้ากลับไทย ต้องมารับโทษตามกระบวนการกฎหมายที่ถูกตัดสินไว้แล้วหรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า ตรงนั้นไม่ใช่ปัญหา วันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณไปอยู่ต่างประเทศ ฝ่ายที่ไล่ล่ายังติดตามยและยังทำงานอยู่ไม่มีใครขัดขวาง
“ผมมั่นใจว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่กลับมาทำลายกฎหมายบ้านเมือง ไม่ต้องห่วง เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ ก็พูดแล้วว่าจะกลับมาอย่างเท่ๆ แสดงให้เห็นว่ากลับมาแล้วต้องถูกต้องตามกฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เคยพูดว่าไม่กลัวกฎหมาย” นายสมชายกล่าว
เมื่อถามว่าได้เดินทางไปร่วมรดน้ำดำหัว พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.) หรือไม่ นายสมชายกล่าวปฏิเสธว่าตนไม่ได้ไป แต่ยอมรับว่าต่อสายคุยกันบ่อยๆ ถามสารทุกข์สุกดิบ พ.ต.ท.ทักษิณบอกว่าเมื่อมาอยู่ใกล้ๆ บ้านแล้วรู้สึกอบอุ่น
เมื่อถามว่าผู้ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 111 คนจะพ้นพันธการคิดว่าบุคคลเหล่านี้จะเข้ามาเป็นประโยชน์อะไรแก่ประเทศชาติได้บ้าง นายสมชายกล่าวว่า หมดพันธการก็ถือว่าดี เพราะตนเห็นว่าคนเหล่านี้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองแบบไม่เป็นธรรม แม้แต่กรณีของตนเองที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองก็ยังไม่เคยได้ขึ้นศาลชี้แจงสู้คดีอะไร แม้จะขอยื่นเอกสารก็ยังไม่ได้ แต่กลับถูกตัดสิทธิ์และตัดสินยุบพรรค เป็นอย่างนี้เคยเห็นหรือไม่
เมื่อถามว่าบ้านเลขที่ 111 หลุดจากการถูกตัดสิทธิจะทำให้รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์เข้มแข็งขึ้นได้หรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน รัฐบาลนี้จะเข้มแข็งขึ้นอยู่กับทีมงานและความสามารถของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ รวมถึงความศรัทธาของประชาชน ถ้าเห็นว่าสามารถทำงานให้บ้านเมืองได้ รัฐบาลก็เข้มแข็ง 111 ไม่ใช่ยาขนานวิเศษ แม้บางคนจะกลับมาสู่การเมือง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเมื่อถูกปลดแล้วจะเข้ามารวมทีม รัฐบาลก็เดินหน้าทำงานต่อไป การปรับคณะรัฐมนตรีเป็นหน้าที่ของนายกฯ ไม่คิดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะปรับเพื่อ 111 แต่หากบังเอิญวันไหนปรับแล้วมีสมาชิก 111 เข้ามาบ้างก็ถือเป็นเรื่องปกติ ไม่มีความพิเศษอะไร ซึ่งยืนยันว่าเป็นความคิดส่วนตัวไม่ได้รู้เรื่องอะไร
นายสมชายกล่าวต่อว่า ในฐานะที่เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี คงไม่มีอะไรที่จะแนะนำรัฐบาลและเห็นว่ารัฐบาลกำลังพยายามทำงานเพื่อประชาชน และทำไปได้พอสมควร แต่อาจจะไม่หวือหวาเท่าที่บางคนคาดหวัง แต่รัฐบาลก็ทำเพื่อส่วนรวมตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา แต่ยอมรับยังมีสิ่งที่ยังทำไม่ได้
ส่วนแนวทางการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติเพื่อให้ประเทศเกิดความสงบสุขนั้น เห็นว่าวันเวลาล่วงเลยมาแล้ว เพราะทุกอย่างได้ถูกตัดสินด้วยการเลือกตั้งแล้วถือว่าจบ ถ้าอยากให้ปรองดองเกิดขึ้นก็อย่าขัดขวาง ต้องช่วยกันแนะนำ และขั้นตอนในสภาอย่าใช้คำพูดว่าพวกมากลากไป เพราะเราใช้ระบอบประชาธิปไตย มีกฎหมายไหนที่ออกไปโดยไม่ใช้เสียงข้างมาก เราตกลงกติกาตามรัฐธรรมนูญแล้วว่าเสียงข้างมากได้เป็นรัฐบาล เพราะเป็นการตัดสินของประชาชน แต่ก็ยอมรับว่าเสียงข้างมากอาจไม่ถูกใจคน 100% แต่ก็ต้องยอมรับเสียงข้างมาก และตอนพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลก็ใช้เสียงข้างมากในสภาเช่นกัน
เมื่อถามว่ามองความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับทหารอย่างไร นายสมชายกล่าวว่า ดีกว่าสมัยที่ตนเองเป็นนายกรัฐมนตรี อาจเป็นเพราะผู้นำทางการทหารยุคนี้มีวิสัยทัศน์ที่ดี เห็นว่าเป็นเรื่องถูกต้องแล้ว เพราะทหารเป็นข้าราชการมีระบบการบังคับบัญชา มีระเบียบวินัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. การสัมภาษณ์ในบางครั้งที่อาจดูดุดัน แต่ก็เป็นคนที่พูดมีเหตุผล โดยเฉพาะคำพูดที่บอกว่าเรื่องการไม่ยุ่ง ตรงนั้นถูกแล้ว สมัยตนเป็นนายกฯ ผบ.ทบ.ในยุคนั้นให้สัมภาษณ์ในลักษณะเข้ามายุ่งเกี่ยวการเมืองและรัฐบาล
เมื่อถามว่ารัฐบาลชุดนี้จะอยู่ครบเทอมหรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า ถ้าตามความคิดของตนเองก็คิดว่าอยู่ครบ เพราะรัฐบาลมาจากการเลือกตั้งของประชาชน หากจะอยู่ไม่ครบจะเกิดจากวิธีรัฐประหาร ซึ่งทหารในปัจจุบันบอกว่าไม่ทำแล้ว ตรงนั้นถือเป็นข่าวดี และหากจะอยู่ไม่ครบเทอมเพราะนายกฯ ลาออกก็จะมีการเลือกนายกฯ คนใหม่ในสภายุคนี้ ก็แปรว่าครบเทอมเหมือนกัน
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้เคลียร์ใจกับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษแล้วหรือไม่ นายสมชายยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณเคารพ พล.อ.เปรม มาโดยตลอด ขณะเดียวกัน พล.อ.เปรมก็เป็นผู้ใหญ่ และท่านเองก็คิดว่าวันนี้บ้านเมืองมีปัญหา ควรจะต้องเดินหน้าทำอะไรให้บ้านเมืองเกิดความสงบสุข ส่วน น.ส.ยิ่งลักษณ์นั้น พล.อ.เปรมก็ให้ความเมตตามาก อย่าไปมองว่านายกฯ คนไหนไม่ได้เข้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ แล้วจะไม่ได้รับการเห็นใจ ทั้งนี้ นายสมชายกล่าวว่า เรื่องที่ผ่านมาที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ ได้ไปชุมนุมหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์นั้น ตนก็ไม่อยากให้กล่าวถึงเรื่องที่ผ่านมาแล้ว
