xs
xsm
sm
md
lg

“ปานเทพ” ย้ำนิรโทษ “แม้ว” พธม.เคลื่อนแน่ ลั่นใช้ยุทธวิธีใหม่ประสิทธิภาพสูงสุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ปานเทพ” ชี้พวกมากลากไป ดันรายงาน กมธ.ปรองดองสำเร็จ แสดงให้เห็นแล้วว่าระบอบรัฐสภาไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ย้ำ “พันธมิตรฯ” ชุมนุมแน่ ถ้านิรโทษกรรม “แม้ว-พวก” ลั่นครั้งนี้ต้องใช้ยุทธวิธีใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเท่าที่จะทำได้ ด้าน “พิชาย” เชื่อ “ทักษิณ” อดกลับไทยอย่างเท่ เพราะคนค้านมีมากพอที่จะสู้กับความชั่วร้ายนี้


วันที่ 27 มี.ค. เมื่อเวลา 20.30 น. นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองคณบดีคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้ร่วมในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV

โดยนายปานเทพกล่าวว่า รายงานสถาบันพระปกเกล้ามีธงไว้ล่วงหน้า ทั้งๆที่เสียงส่วนมากเห็นด้วยกับกระบวนการยุติธรรมให้เดินหน้าต่อไป การประชุมรัฐสภาเที่ยวนี้ไม่ถ่ายทอดช่อง 11 ปรองดองทั้งทียังปกปิดไม่ให้ประชาชนรู้ เอารายงานที่ยังมีปัญหาอยู่เข้าสภา วันรุ่งขึ้นประชาชนก็จะเห็นแต่มติว่าให้เลื่อนการประชุมเข้ามาพิจารณา แต่ไม่เห็นข้อถกเถียงของฝ่ายที่คัดค้าน แม้พูดดีเพียงใดก็ตาม ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย

น่าเสียดายที่สถาบันพระปกเกล้ายืนหยัดไว้เองว่าห้ามนำรายงานนี้ไปลงเสียงข้างมาก ไม่ว่าจะในกรรมาธิการหรือในสภา แต่ถึงวันนี้ยังไม่ถอนออกจากวาระ เท่ากับนำรายงานของตัวเองที่ประกาศว่าห้ามลงมติไปสร้างความชอบธรรมให้เสียงข้างมากลากไปแล้วก็ลงมติ เพื่อชัยชนะของพวกตัวเองเท่านั้น

“ยิ่งสะท้อนว่าระบบรัฐสภาแก้ปัญหาไม่ได้ ถ้าเขายังไม่คิดแสวงหาหนทางใหม่ๆ ประเทศชาติไม่มีวันสงบ และถ้านำไปสู่การนิรโทษกรรมให้ทักษิณและพวก ก็จะเป็นหมากบังคับที่เราต้องชุมนุม และต้องชุมนุมให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ต้องดำเนินการในสิ่งที่ไม่ซ้ำในยุทธวิธีเดิม ต้องชุมนุมให้มีประสิทธิภาพสูงสุดเท่าที่จะทำได้” นายปานเทพกล่าว

นายปานเทพยังกล่าวอีกว่า สงสัยทำไมการพูดให้ลืมอดีต จึงเกิดขึ้นพร้อมๆ กัน ทั้ง พล.อ.สนธิ และ พ.ต.ท.ทักษิณ แม้กระทั่งแกนนำเสื้อแดงหลายๆ คน พล.อ.สนธิตอบคลุมเครือว่าใครอยู่เบื้องหลังรัฐประหาร แต่ในที่สุดคนเสื้อแดงไม่สนใจแล้ว แต่จะมองไปข้างหน้าว่าใครปรองดอง เพราะเมื่อรู้ว่าคนอยู่เบื้องหลังก้าวไปไม่ถึง พล.อ.เปรม และสถาบันกษัตริย์ ทำให้ไม่มีคำตอบว่า แล้วใครไปครอบงำศาล ในเมื่อกระบวนการรัฐประหารไม่ได้มีส่วนแต่งตั้งโยกย้ายปรับโครงสร้างของกระบวนการตุลาการ ฉะนั้นเขาเลยไม่ตอบ ไม่อยากพูดถึง เพราะทำให้เกิดความเข้าใจอยู่ 3 อย่าง ว่าถ้าอำมาตย์อยู่เบื้องหลังจริงแล้ววันนี้คนเสื้อแดงจับมือกับอำมาตย์ได้อย่างไร แปลว่าจับมือเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว แล้วที่ป่าวประกาศว่าอำมาตย์อยู่เบื้องหลัง เขาหลงเชื่อด้วยความบริสุทธิ์ใจ โง่จริง หรือรู้ทั้งรู้ว่าอำมาตย์ไม่เกี่ยวข้องแต่หาเอามาเป็นเหยื่อ มันก็คือการชั่วสุดขีด คนเสื้อแดงที่ถูกปลุกขึ้นมาสมควรประณามแกนนำเหล่านี้

โฆษกพันธมิตรฯ กล่าวต่อว่า ถ้าจะดูว่าใครอยู่เบื้องหลัง ต้องดูปรากฎการณ์และเหตุการณ์ด้วย ย้อนไปในอดีต พบว่าไม่มีใครในฝ่ายไทยรักไทย-เพื่อไทย ที่ไม่ไว้ใจกระบวนการยุติธรรมก่อนหน้านี้เลย ดูจากคำให้สัมภาษณ์ เช่น 19 มกราคม 2550 นาวาอากาศตรี ศิธา ทิวารี โฆษกพรรคไทยรักไทย ให้สัมภาษณ์ต่อข้อถามว่า หากเนื้อหารัฐธรรมนูญไม่ถูกใจนักการเมืองจะทำอย่างไร นายศิธาบอกว่าพรรคการเมืองไม่มีสิทธิทำอะไร อยู่ที่การลงมติของประชาชน ซึ่งทุกคนต้องยอมรับหลักการนั้นด้วย

จากนั้น 29 พฤษภาคม 2550 นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนศาลสั่งยุบพรรคไทยรักไทยว่า ไม่ว่าคำตัดสินจะออกมาเป็นอย่างไร ก็จะไม่ประท้วงคำตัดสิน แม้จะตัดสินให้ยุบพรรคและตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารพรรคก็ตาม แต่หลังจากนั้นมันไม่ใช่เลย

หรือแม้กระทั่ง 8 มกราคม พ.ต.ท.ทักษิณแจกแถลงการณ์ บอกว่าพร้อมกลับไทยเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตามกระบวนการยุติธรรมอันชอบด้วยกฎหมาย แล้วก็เดินทางเข้ามา ไม่เห็นท้วงติงเลยว่า คตส.ไม่ชอบธรรม จึงไม่ยอมรับกระบวนการศาลในชั้นนี้ ไม่มีเลย เพราะคิดว่าตัวเองจะได้ประโยชน์ เพราะ 10 มิถุนายน 2551 ทนายความของพ.ต.ท.ทักษิณ ได้ให้ถุงขนม 2 ล้านบาทกับศาล จนถูกตัดสินจำคุก แล้ววันนี้นายพิชิต ชื่นบาน ก็ได้เป็นส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย แล้วจะให้เชื่อมั่นว่าระบอบยุติธรรมที่พ.ต.ท.ทักษิณเชื่อมั่นมันเป็นระบอบแบบไหน เป็นระบอบแบบที่ตัวเองไม่มีวันผิด สามารถล็อบบี้ได้ใช่หรือไม่ วันนี้มาพูดเรื่องรื้อกระบวนการยุติธรรม เพราะคำตัดสินไม่ได้อย่างที่ตัวเองต้องการเท่านั้น

ด้าน นายพิชาย กล่าวถึงกรณี ส.ส.พรรคเพื่อไทยปรบมือให้พล.อ.สนธิ ในการประชุมรัฐสภา ว่า คงไม่ถึงขั้นเป็นสัญญาณว่าพ.ต.ท.ทักษิณจะสามารถกลับประเทศได้อย่างเท่ๆ แต่เป็นสัญญาณว่าสามารถดึงพล.อ.สนธิมาเป็นพวกได้ อีกนัยก็คือพร้อมที่จะทำงานรับใช้เพื่อไทย และ พ.ต.ท.ทักษิณอย่างชัดเจน ซึ่งมันก็แปลก คนที่เป็นศัตรูกันอย่างสุดขั้วแต่วันนี้กลับมาสนับสนุนกัน แสดงให้เห็นชัดเจน ว่าคนเล่นการเมืองของไทยไม่มีอุดมการณ์หรือจุดยืนอะไรเลย พร้อมเปลี่ยนได้ตลอดเวลา วันนี้ พล.อ.สนธิพูดว่าให้ลืมอดีต ทั้งๆ ที่พ.ต.ท.ทักษิณ เคยพูดไว้ก่อนหน้านี้

นายพิชายกล่าวอีกว่า ตนเชื่อว่าพ.ต.ท.ทักษิณกลับประเทศไทยยาก แม้เตรียมการทางสภาไว้อย่างดีก็ตาม รายงานการปรองดองแบบปิดประตูตีแมวนี้ เป็นวิจัยที่แปลก ทั้งๆที่เป็นเรื่องใหญ่ระดับประเทศ แต่ใช้เวลาศึกษาแค่ 90 วันเท่านั้นเอง น้อยมากถ้าเทียบกับงานวิจัยมาตรฐานทั่วไปซึ่งใช้เวลากันประมาณ 1 ปี สะท้อนให้เห็นสิ่งผิดปกติของกระบวนการวิจัย ว่ามีการตั้งธงวางกรอบไว้ชัดก่อนแล้ว

ขั้นบันไดนี้ พ.ต.ท.ทักษิณวางไว้ มีจังหวะที่รวดเร็ว เพื่อออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แต่หมากตรานี้ไม่ราบรื่นอย่างที่คิด คนเสื้อแดงเองก็มองเกมนี้ออก ว่าจริงๆ แล้วเพื่อไทยทำทุกอย่างเพื่อเอา พ.ต.ท.ทักษิณให้พ้นโทษ โดยไม่สนใจพี่น้องมวลชนที่ติดคุกอยู่ หมายความว่าเอาชีวิตของเสื้อแดงจำนวนมากไปผูกติดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณได้นิรโทษกรรม มวลชนที่ต้องโทษอยู่ก็ได้นิรโทษฯ ด้วย แต่ถ้าไม่ได้พี่น้องเสื้อแดงก็ติดคุกต่อไป

กระบวนการนี้ถ้าเดินต่อ คงมีการออกมาคัดค้านจากทุกฝ่าย ฉะนั้นเส้นทางที่จะกลับมาอย่างเท่ๆ เกิดยาก เพราะ หนึ่ง คิดว่า พ.ร.บ.นิรโทษกรรมไม่สามารถออกได้ ต่อให้สภาฯ กล้าออก วันนั้นคงมีการชุมนุมใหญ่ แล้ว พล.อ.สนธิ ก็จะเป็นคนกระทำผิดในเชิงประวัติศาสตร์ซ้ำซาก และอาจมีบาปพอๆ กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่กำลังจะทำความขัดแย้งครั้งใหม่ให้เกิดขึ้น และต้องรวมไปถึงทีมสถาบันพระปกเกล้านี้ด้วย สุดท้ายไม่คิดว่า พ.ร.บ.นิรโทษกรรมจะออกได้ เพราะคนที่คัดค้านเรื่องนี้มีมากพอ ที่จะสกัดกั้นความชั่วร้ายนี้ได้


กำลังโหลดความคิดเห็น