xs
xsm
sm
md
lg

“ปานเทพ” ซัด “พล.อ.สนธิ” ถึงจุดเสื่อมสุด เห็นแก่ตัวทำสถาบันฯ ถูกโจมตี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ปานเทพ” ชี้ “พล.อ.สนธิ” ไม่กล้ายืนยันเหตุผล 4 ข้อรัฐประหาร เพราะน่าอายที่กลืนน้ำลายตัวเอง ซัดถึงจุดตกต่ำ เสื่อมที่สุด ชี้คำตอบ “ตายแล้วก็ตอบไม่ได้” จะยิ่งทำให้เสื้อแดงขยายผลกระทบสถาบันฯหนักขึ้นไปอีก


วันที่ 22 มี.ค. เมื่อเวลา 20.30 น. นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และนายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ร่วมแลกเปลี่ยนทัศนะในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV

นายปานเทพกล่าวว่า ในงานเสวนารายงานวิจัยการสร้างความปรองดองแห่งชาติของสถาบันพระปกเกล้า ไฮไลต์ที่สุดคือจุดที่ เสธ.หนั่น ตั้งคำถาม เพราะความขัดแย้งที่มันบานปลาย ส่วนหนึ่งก็คือการปลุกเร้าว่าอำมาตย์ หรือ พล.อ.เปรม อยู่เบื้องหลังการรัฐประหาร และหลายๆครั้งที่พูดถึง พล.อ.เปรม ปีกของเสื้อแดงก็ขยายผลไปมากกว่านั้น

ถ้าคำถามถูกประเด็นว่าสถาบันกษัตริย์ไม่เกี่ยวข้อง องคมนตรีไม่เกี่ยวข้อง เป็นเรื่องเฉพาะของ พล.อ.สนธิ กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ความขัดแย้งระหว่างมวลชนเสื้อแดงกับสถาบันกษัตริย์และองคมนตรี มันก็จะหายหลุดลอยไป แล้วถ้าเหลือแค่นี้ มันก็จะเป็นประเด็นว่ารัฐประหารไปเพื่ออะไร ก็จะเป็นตามเหตุผล 4 ข้อ (1. มีการทุจริตคอร์รัปชัน 2. เกิดความแตกแยกในหมู่ประชาชน 3. มีการแทรกแซงองค์กรอิสระ 4. เกิดการล่วงละเมิดสถาบัน) ซึ่งมันก็จะตอบไม่ได้ว่าทำไมต้องล้มเลิกผลแห่งคดีคตส.

นายปานเทพกล่าวทวนคำถามของ พล.ต.สนั่น ว่า “1. ครคือผู้อยู่เบื้องหลังการปฏิวัติ หากไม่พูดความจริง ประชาชนจะยังเคลือบแคลงใจอยู่ว่าอำมาตย์ หรือผู้มีอำนาจเหนือรัฐธรรมนูญ อยู่เบื้องหลังและสนับสนุนการปฏิวัติ”

2. พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ รู้เห็นกับการปฏิวัติหรือไม่ เคยแจ้งเรื่องการปฏิวัติต่อ พล.อ.เปรม ก่อนหน้านี้หรือไม่ และเมื่อเกิดการปฏิวัติแล้ว พล.อ.เปรม เป็นผู้นำเข้าเฝ้าฯ หรือไม่

3. หลังเกิดความขัดแย้งทางการเมืองและเกิดความวุ่นวาย พล.อ.เปรม เคยขอร้องให้ พล.อ.สนธิ ออกมาพูดความจริงกับเหตุการณ์ปฏิวัติ 19 ก.ย.2549 โดยผ่าน พล.อ.มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ จำนวน 2 ครั้งหรือไม่ และได้พูดความจริงตามนั้นหรือไม่”

แสดงว่า ล.ต.สนั่น ได้แหล่งข่าวมาจาก พล.อ.มงคล แล้ว พล.อ.มงคล ก็น่าจะไปเจรจากับ พล.อ.สนธิ 2 ครั้ง และ พล.อ.เปรมคงไม่ร้องขอให้ไปบอกว่าตัวอยู่เบื้องหลังรัฐประหารอยู่แล้ว

การตั้งคำถามของ พล.ต.สนั่น หลายคนสงสัยว่ามีเจตนาดึงสถาบันฯ เข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ ซึ่งวันนี้ พล.ต.สนั่นก็ออกมายืนยันแล้วว่า พล.อ.เปรมไม่เกี่ยวข้อง แล้วตนก็คิดว่า พล.ต.สนั่นมีเจตนาตั้งคำถามเพื่อกันอำมาตย์ให้พ้นจากความขัดแย้ง

แต่ที่รู้สึกมากกว่าคือคำตอบ พล.อ.สนธิ ในฐานะหัวหน้ารัฐประหาร โดยได้บอกว่า “ผมรู้สึกละอายตัวเอง สถาบันสอนให้มีความรัก จงรักภักดี ต่อชาติ บ้านเมือง อย่างยิ่งที่สุดในชีวิต คำถามนี้ไม่ควรมาถามผม เช่นเดียวกับคณะผู้วิจัยของสถาบันพระปกเกล้า คำถามบางประการตายแล้วก็ตอบไม่ได้”

ตรงนี้ทำให้คนคิดมากไปใหญ่เลยว่า พล.อ.สนธิเก็บงำความลับเอาไว้บางอย่าง แม้เอาชีวิตเข้าแลกก็เปิดเผยไม่ได้ ตรงนี้เสียหายหนัก ทำให้คนตีความ เกิดความเคลือบแคลงหนักขึ้น คำตอบของ พล.อ.สนธิไม่ชัดเจน ความจริงแล้วในฐานะหัวหน้ารัฐประหาร ต้องรับผิดชอบ แล้วถ้าทำด้วยความเชื่อตามประกาศของ คปค. (คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข) 4 ข้อ ถ้าเชื่ออย่างนั้นทำไมยังต้องคลุมเครืออีก ทำให้เสื้อแดงนำไปขยายผลใหญ่โต

โฆษกพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า พล.อ.สนธิ เห็นแก่ตัวไปหน่อย อาจลืมไปว่าเคยตอบคำถามนี้ไปแล้วในหนังสือลับลวงพราง เมื่อปี 2550 เขียนโดย วาสนา นาน่วม โดยระบุว่า "นอกจากเพื่อยุติการปะทะนองเลือดของม็อบทั้งฝ่ายสนับสนุนและต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แล้ว ยังเห็นว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ถูกพาดพิง พร้อมยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้เป็นคนตั้งเขาเป็น ผบ.ทบ. จึงไม่มีเรื่องหนี้บุญคุณใดๆ

คนที่ชื่อทักษิณ ชินวัตร เป็นนักธุรกิจ ที่มีความคิดก็อยู่แต่ในเรื่องพวกนี้เป็นหลัก ถ้าผมไม่ปฏิวัติ ก็ยังไม่รู้เลยว่า วันนี้ ชาติบ้านเมือง และสถาบันของเราจะเป็นอย่างไร จะยังมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อยู่หรือไม่

การวางแผนปฏิวัตินั้น คิดกันกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ที่เวลานั้นเป็น แม่ทัพภาค1 แค่ 2 คนเท่านั้น ส่วน พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร แม่ทัพภาค 3 ในเวลานั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

คณะปฏิวัติ ใช้บ้านเกษะโกมล เป็นที่วางแผนปฏิวัติ ตั้งแต่วันที่ 16-18 ก.ย. ที่มีแกนนำ 7-8 คน ที่เข้าร่วมประชุมหารือกันทุกวัน คือ พล.อ.สนธิ พล.อ.อนุพงษ์ พล.ท.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม่ทัพภาค 1 ที่เวลานั้น เป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 พ.อ.ภูมิพัฒน์ จันทร์สว่าง พ.อ.ธงชัย รอดย้อย นายทหารฝ่ายเสนาธิการของ พล.อ.สนธิ และนายทหารยศพันเอก ระดับผู้บังคับการกรมรบพิเศษ มือขวา พล.อ.สนธิ และทหารยศพันโท ผู้บังคับกองพันปฏิวัติ ลูกน้องของ พล.อ.อนุพงษ์ โดยมี พล.อ.วินัย เข้ามาร่วมด้วย ในวันที่ 18 ก.ย.

แต่อย่างไรก็ตาม พล.อ.สนธิ ปฏิเสธว่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิวัติ แต่ยอมรับว่าตั้งแต่ก่อนปฏิวัติได้มีการเข้าพบ พล.อ.เปรม เรื่อยมา สัปดาห์ละ 1ครั้งเป็นอย่างน้อย เพื่อเล่าสถานการณ์ต่างๆ ให้ฟัง”

ฉะนั้นไม่แฟร์เลยที่เคยระบุว่า พล.อ.เปรมไม่เกี่ยวข้อง แต่วันนี้มาพูดว่าตอบไม่ได้ ทำให้ถูกขยายผลไปไกลกว่านั้น แทนที่จะยืนยันคำพูดเดิมอย่างชายชาติทหาร ว่าตัวเองทำด้วยเหตุผลอะไร

“แต่ที่ไม่กล้าตอบอย่างเดิม เพราะถ้าตอบแบบเดิม มันจะตอบถึงเหตุผลที่แท้จริงในการรัฐประหารไม่ได้ เพราะมันจะขัดแย้งกับหน้าที่ในปัจจุบันที่เขาจะปรองดอง แล้วจะยกเลิก คตส.ด้วยตัวเอง หรืออีกนัยหนึ่งก็อาจเข้าใจได้ว่าในวันนั้น พล.อ.สนธิไม่ได้เชื่อตาม 4 ข้อของตัวเอง แต่เป็นเพียงรักษาอำนาจของตัวเองที่กลัวว่าจะถูกปลด เห็นแก่ตัว แล้วก็เลยอ้างเหตุผล 4 ข้อ พอตอนนี้จะยกเลิก คตส.ก็เหมือนกลืนน้ำลายตัวเอง ก็เลยอ้างว่าคำถามบางคำถามตายแล้วก็ตอบไม่ได้ เพราะมันน่าอายไง แต่ถ้ายืนยันตามเดิมที่ยืนยันมาตลอด ก็จะพูดต่อไม่ได้ว่าปรองดองทำไม ยกเลิก คตส.ทำไม ตรงนี้เป็นจุดที่ พล.อ.สนธิ ตกต่ำที่สุด เสื่อมที่สุด ไม่องอาจเหมือนสิ่งที่ตัวเองเคยสัมภาษณ์ไป” นายปานเทพกล่าว

ด้าน นายพิภพกล่าวว่า วันที่ทำรัฐประหาร พล.อ.สนธิเป็นนายทหาร ต้องการรักษาความถูกต้องเลยอ้างเหตุผลรัฐประหาร ตนเคยบอกว่าถ้า พล.อ.สนธิ เล่นการเมืองจะล้มเหลว แล้วก็พิสูจน์คำพูดของตนแล้ว เพราะวันนี้ พล.อ.สนธิทำตัวเป็นนักการเมือง เลยไม่กล้าตอบในสิ่งที่ตอนเป็นทหารทำ

อยากจะเตือนว่านี่เป็นปัญหาของชาติ ฉะนั้นการชิ่งหนีจากสิ่งที่ตัวเองเชื่อถือไว้ ไม่ได้เสียหายต่อเฉพาะตัว พล.อ.สนธิเอง แต่มันเสียหายต่อกระบวนการยุติธรรมและประเทศชาติทั้งหมด ด้วยความเป็นชายชาติทหาร คำสาบานที่มีไว้ แม้ว่าเป็นนักการเมืองแต่ยังใช้คำนำหน้าชื่อว่าพลเอกอยู่ ต้องนึกถึงตรงนี้ให้ดีๆ การปติเสธว่าบางคำถามถึงตายก็ตอบไม่ได้ คนจะไม่ได้สงสัยแค่ พล.อ.สนธิ แต่จะสงสัยไปหมด แล้วจะเป็นบ่อนทำลายสิ่งที่ พล.อ.สนธิเคยทำไว้ทั้งหมด


กำลังโหลดความคิดเห็น