โฆษกนายกฯ จ้อครั้งแรก ยันงานไม่ซ้ำโฆษกรัฐ,พรรค อ้างอาสาขอนายกฯ ทำเอง หวังแจงแทนทุกเรื่องที่เจ้าตัวสั่ง ขยายความเวลาให้สัมภาษณ์สั้นๆ ไม่ได้ต้องการตำแหน่งหลังพ้นแบน แต่กั๊กอนาคตไม่มีใครรู้ ปัด “ยิ่งลักษณ์” ไม่ทันเกมการเมือง ลั่นไม่ได้รับใบสั่งจากจันทร์ส่องหล้า ยันไม่ได้ขัดแย้ง “บัณฑูร” ไม่ได้มีปัญหา “เจ๊หน่อย” เชื่อพวกปล่อยข่าว
วันนี้ (1 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 11.00 น.นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ โฆษกประจำตัวนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เป็นครั้งแรกถึงการเข้ามารับหน้าที่ว่า บทบาทของตนจะไม่ซ้ำกับโฆษกรัฐบาล โฆษกพรรค ซึ่งจริงๆ แล้วตนอาสาเข้ามาทำงานตั้งแต่ช่วงน้ำท่วมและนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายงานเป็นชิ้นๆ และให้ประสานงานบางเรื่องแล้วแต่ทักษะที่เราจะทำได้ ซึ่งบางครั้งทำงานในทำเนียบเป็นการประสานงานไม่ได้ทำงานอะไรเกินเลย จากที่นายกฯมอบหมาย กระทั่งมีกรณี ว.5 โฟร์ซีซั่นส์และการโจมตีในช่วงหลัง จึงเห็นว่าอาจมีช่องว่างอยู่ ระหว่างโฆษกรัฐบาลกับโฆษกพรรค ซึ่งนายกฯ ไม่มีเวลาตอบนักข่าว หรือตอบได้ไม่กี่ประโยค ตนเองจึงอาสานายกฯ เข้ามาอธิบายเรื่องต่างๆ ซึ่งนายกฯ กลับไปคิด 2-3 วันจึงมาให้คำตอบ โดยบอกว่าเป็นการมอบหมายงานไม่มีคำสั่งแต่งตั้งเป็นทางการ ไม่มีชื่อตำแหน่ง ไม่มีเงินเดือน นอกจากนี้ คนที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองสามารถรับตำแหน่งทางการเมืองอื่นๆ ได้ยกเว้นการเป็น ส.ส. รัฐมนตรี หรือกรรมการบริหารพรรคเท่านั้น
นายสุรนันทน์กล่าวว่า ตนมีหน้าที่ช่วยอธิบายความคิดของนายกฯ บางเรื่อง ซึ่งต้องเป็นเรื่องที่นายกฯมอบหมายไม่ใช่จะพูดเอง แต่ตนจะไม่เข้ามาโต้ตอบทางการเมืองแบบเดิมๆ ที่สรรหาคำมาโต้ตอบกัน เพราะคิดว่าประชาชนคงเบื่อ คงไม่ใช่หน้าที่ตน อย่างไรก็ตาม ตนได้คุยกับโฆษกรัฐบาลก่อนหน้านี้แล้ว รวมทั้งโฆษกพรรคด้วย เข้าใจกันหมด ไม่เป็นองคาพยพที่จะมาซ้ำซ้อนกัน จริงๆ จะไม่ออกมาพูดเป็นรายวัน จะออกมาพูดเฉพาะเรื่องที่คิดว่ามีความจำเป็นและสื่ออยากให้อธิบายเพิ่มเติม แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องที่ตนจะตอบจะปัดตอบให้ไปถามโฆษกพรรคหรือโฆษกรัฐบาลเพราะการทำงานที่จะทำความเข้าใจกับประชาชน ต้องประสานสอดคล้องให้ไปในทิศทางเดียวกัน ไม่เช่นนั้นคนที่รับข้อมูลข่าวสารอาจเกิดความรู้สึก พูดหรือเข้าใจไม่ตรงกัน ทั้งที่เป็นเรื่องเดียวกัน อาจเป็นช่วงโหว่ให้ถูกโจมตีกลับ
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นเพราะนายกฯ ไม่ทันเกมทางการเมืองหรือไม่ นายสุรนันทน์กล่าวว่า คิดว่าไม่ใช่ จากการทำงานกับนายกฯ มา 6 เดือน นายกฯ เป็นนักบริหาร เป็นคนอยากทำงานในพื้นที่ หรือแม้กระทั่งนั่งหัวโต๊ะจะเห็นว่านายกฯสั่งการและพูดจาทำให้คนเข้าใจ ไม่มีปัญหาในการสื่อสาร และนายกฯ รู้ตัวเองและปรับปรุงตัวเสมอ ตนคงไม่ต้องแนะแนวทางอะไร ทั้งนี้ นายกฯ มองว่าการจะทำความเข้าใจกับสาธารณะ นายกฯ อยากมีโอกาสพูดยาวๆ และเมื่อมีโอกาสพูดยาวๆ นายกฯ จะไม่มีปัญหา แต่ถ้าถูกรุมถามและตอบประโยคสั้นๆ บางครั้งทำให้คนเกิดความเข้าใจผิด ซึ่งนายกฯ ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น จึงมีกระบวนการนี้ขึ้นมา
เมื่อถามว่า จากนี้ไปจะมีการเปิดให้นายกฯ พบสื่อหรือไม่เพื่อเปิดโอกาสให้นายกฯ พูดยาว นายสุรนันทน์กล่าวว่า ต้องถามสื่อ และคงไม่ใช่การเปิดใจ แต่อาจจะเป็นเวทีที่เป็นเรื่องเป็นราว กำลังดูกันอยู่ ก็อยากถามสื่อว่าคิดอย่างไร เพราะบางครั้งพูดทุกวันก็ประเด็นเดิมๆ แต่ถ้ามีประเด็นใหญ่นายกฯ พร้อมพูด และสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แม้เปิดพบสื่อเดือนละครั้งก็ยังถูกสัมภาษณ์ทุกวัน คงแล้วแต่จังหวะข่าวมากกว่า
เมื่อถามว่า กับข้อครหาที่ว่ามีความขัดแย้งกับนายบัณฑูร สุภัควนิช จนต้องลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายสุรนันทน์กล่าวว่า ยืนยันไม่มี จริงๆแล้วตนทำงานตามที่นายกฯมอบหมาย และตนกับนายบัณฑูรมีความสัมพันธ์ที่ดี ความจริงรู้จักกันมาตั้งแต่ตนเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลสำนักงบประมาณ และนายบัณฑูรก็มีความกรุณามาโดยตลอด พอมาทำงานตรงนี้นายบัณฑูรรู้ว่านายกฯ มอบหมายงานอะไร และอะไรที่ติดขัดในเรื่องราชการ ซึ่งนายบัณฑูรมีอำนาจสั่งการก็สั่งการให้ตลอด ฉะนั้นไม่มีปัญหาอะไร ไม่รู้ข่าวมาจากไหน เชื่อว่าไม่ได้มาจากนายบัณฑูร หรือตน หรือใครเป็นข่าวที่ไม่น่าเป็นข่าว และนายบัณฑูรก็ลาออกด้วยปัญหาสุขภาพ ขณะที่นายกฯ เห็นว่านายบัณฑูรยังสามารถทำงานได้ แม้ไม่เป็นเลขาธิการนายกฯ ตามที่นายบัณฑูรต้องการ จึงขอให้เป็นที่ปรึกษานายกฯ ซึ่งไม่ใช่ตำแหน่งที่ไปแขวนอะไร ยังมีบทบาทช่วยเหลือนายกฯ และรัฐมนตรีอยู่ ส่วนกระแสพุ่งเป้ามาที่ตนทั้งกลุ่ม กทม. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยนั้นยืนยันไม่มีปัญหาอะไรและมีโอกาสพูดคุยกับคุณหญิงสุดารัตน์หลายครั้ง แลกเปลี่ยนความเห็นตลอด คิดว่ามีขบวนการปล่อยข่าวที่ทำให้เกิดความแตกแยกกัน เป็นเรื่องไม่สร้างสรรค์ และไม่ใช่เรื่องที่ตนต้องชี้แจง
เมื่อถามว่า มีข่าวว่ามีการทำงานซ้ำซ้อนกัน นายสุรนันทน์กล่าวว่า ขอพูดตรงๆ ว่าไม่มี ถ้าได้เห็นบรรยากาศบนตึกไทยที่ตนมีโอกาสได้เข้าไปทำงาน ตนได้คุยกับนายบัณฑูรตลอด ไม่มีปัญหา
“การที่มาทำงานตรงนี้ผมพูดกับนายกฯ ว่าอาสามาทำงานและไม่ต้องการตำแหน่งใดๆ ก่อนหรือหลังพฤษภาคม 2555 ซึ่งผมเชื่อในความสามารถของบุคคลที่ถูกตัดสิทธิ์เลือกตั้งเมื่อออกมาแล้วคนเหล่านั้นมีความสามารถเต็มที่ได้เลยไม่ต้องห่วงผม วันไหนหมดความจำเป็นและมีคนเข้ามาเต็มเม็ดเต็มหน่วย ผมก็กลับไปจัดรายการทีวีเหมือนเดิมได้” นายสุรนันทน์กล่าว
เมื่อถามว่า มาทำงานตรงนี้เพราะมีใบสั่งจากบ้านจันทร์ส่องหล้า นายสุรนันทน์กล่าวว่า ยืนยันไม่มีใบสั่งจากใครทั้งสิ้น ขอบอกว่าถ้าตนจะรับคำสั่งใครในวันนี้คือนายกรัฐมนตรีที่ชื่อยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่การประสานงานองคาพยพทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นพรรค ในรัฐบาลตนเองต้องประสานงาน ส่วนที่ถามว่าหลัง พ.ค.55 สนใจมาทำงานในรัฐบาลอย่างเปิดเผยหรือไม่ นายสุรนันทน์กล่าวว่า เหลือเวลาอีก 3 เดือน อย่าเพิ่งไปพูดถึงอนาคต การเมืองไทย 1 สัปดาห์ก็ยาวแล้ว วันนี้มีงานให้ ทำได้และอาสามา ตำแหน่งโฆษกเป็นสิ่งอุปโลกน์ขึ้นมา ดังนั้นเรียกว่าไม่มีตำแหน่ง ไม่มีเงินเดือน ไม่ได้ผลประโยชน์ใดๆ เมื่อถึง พ.ค.55 เงื่อนไขการเมืองสภาพแวดล้อมอาจเปลี่ยนไปมากกว่านี้ไม่มีใครรู้อนาคต
เมื่อถามว่า วันนี้มีอะไรที่ต้องชี้แจงแทนนายกฯในฐานะที่เข้ามาเป็นโฆษกประจำตัวหรือไม่ นายสุรนันทน์กล่าวว่า กำลังดูเป็นเรื่องๆ ไป ขึ้นอยู่กับสื่อมวลชน ถ้าคิดว่านายกฯ ยังไม่เข้าใจอยากให้ช่วยอธิบายตนก็พร้อม เมื่อถามว่า การชี้แจงกับผู้ตรวจการแผ่นดินทำหนังสือชี้แจงแล้วหรือไม่ นายสุรนันทน์กล่าวว่า ยังไม่ได้ทำหนังสือชี้แจงและไม่จำเป็นต้องเดินไปด้วยตัวเอง
วันนี้ (1 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 11.00 น.นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ โฆษกประจำตัวนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เป็นครั้งแรกถึงการเข้ามารับหน้าที่ว่า บทบาทของตนจะไม่ซ้ำกับโฆษกรัฐบาล โฆษกพรรค ซึ่งจริงๆ แล้วตนอาสาเข้ามาทำงานตั้งแต่ช่วงน้ำท่วมและนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายงานเป็นชิ้นๆ และให้ประสานงานบางเรื่องแล้วแต่ทักษะที่เราจะทำได้ ซึ่งบางครั้งทำงานในทำเนียบเป็นการประสานงานไม่ได้ทำงานอะไรเกินเลย จากที่นายกฯมอบหมาย กระทั่งมีกรณี ว.5 โฟร์ซีซั่นส์และการโจมตีในช่วงหลัง จึงเห็นว่าอาจมีช่องว่างอยู่ ระหว่างโฆษกรัฐบาลกับโฆษกพรรค ซึ่งนายกฯ ไม่มีเวลาตอบนักข่าว หรือตอบได้ไม่กี่ประโยค ตนเองจึงอาสานายกฯ เข้ามาอธิบายเรื่องต่างๆ ซึ่งนายกฯ กลับไปคิด 2-3 วันจึงมาให้คำตอบ โดยบอกว่าเป็นการมอบหมายงานไม่มีคำสั่งแต่งตั้งเป็นทางการ ไม่มีชื่อตำแหน่ง ไม่มีเงินเดือน นอกจากนี้ คนที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองสามารถรับตำแหน่งทางการเมืองอื่นๆ ได้ยกเว้นการเป็น ส.ส. รัฐมนตรี หรือกรรมการบริหารพรรคเท่านั้น
นายสุรนันทน์กล่าวว่า ตนมีหน้าที่ช่วยอธิบายความคิดของนายกฯ บางเรื่อง ซึ่งต้องเป็นเรื่องที่นายกฯมอบหมายไม่ใช่จะพูดเอง แต่ตนจะไม่เข้ามาโต้ตอบทางการเมืองแบบเดิมๆ ที่สรรหาคำมาโต้ตอบกัน เพราะคิดว่าประชาชนคงเบื่อ คงไม่ใช่หน้าที่ตน อย่างไรก็ตาม ตนได้คุยกับโฆษกรัฐบาลก่อนหน้านี้แล้ว รวมทั้งโฆษกพรรคด้วย เข้าใจกันหมด ไม่เป็นองคาพยพที่จะมาซ้ำซ้อนกัน จริงๆ จะไม่ออกมาพูดเป็นรายวัน จะออกมาพูดเฉพาะเรื่องที่คิดว่ามีความจำเป็นและสื่ออยากให้อธิบายเพิ่มเติม แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องที่ตนจะตอบจะปัดตอบให้ไปถามโฆษกพรรคหรือโฆษกรัฐบาลเพราะการทำงานที่จะทำความเข้าใจกับประชาชน ต้องประสานสอดคล้องให้ไปในทิศทางเดียวกัน ไม่เช่นนั้นคนที่รับข้อมูลข่าวสารอาจเกิดความรู้สึก พูดหรือเข้าใจไม่ตรงกัน ทั้งที่เป็นเรื่องเดียวกัน อาจเป็นช่วงโหว่ให้ถูกโจมตีกลับ
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นเพราะนายกฯ ไม่ทันเกมทางการเมืองหรือไม่ นายสุรนันทน์กล่าวว่า คิดว่าไม่ใช่ จากการทำงานกับนายกฯ มา 6 เดือน นายกฯ เป็นนักบริหาร เป็นคนอยากทำงานในพื้นที่ หรือแม้กระทั่งนั่งหัวโต๊ะจะเห็นว่านายกฯสั่งการและพูดจาทำให้คนเข้าใจ ไม่มีปัญหาในการสื่อสาร และนายกฯ รู้ตัวเองและปรับปรุงตัวเสมอ ตนคงไม่ต้องแนะแนวทางอะไร ทั้งนี้ นายกฯ มองว่าการจะทำความเข้าใจกับสาธารณะ นายกฯ อยากมีโอกาสพูดยาวๆ และเมื่อมีโอกาสพูดยาวๆ นายกฯ จะไม่มีปัญหา แต่ถ้าถูกรุมถามและตอบประโยคสั้นๆ บางครั้งทำให้คนเกิดความเข้าใจผิด ซึ่งนายกฯ ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น จึงมีกระบวนการนี้ขึ้นมา
เมื่อถามว่า จากนี้ไปจะมีการเปิดให้นายกฯ พบสื่อหรือไม่เพื่อเปิดโอกาสให้นายกฯ พูดยาว นายสุรนันทน์กล่าวว่า ต้องถามสื่อ และคงไม่ใช่การเปิดใจ แต่อาจจะเป็นเวทีที่เป็นเรื่องเป็นราว กำลังดูกันอยู่ ก็อยากถามสื่อว่าคิดอย่างไร เพราะบางครั้งพูดทุกวันก็ประเด็นเดิมๆ แต่ถ้ามีประเด็นใหญ่นายกฯ พร้อมพูด และสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แม้เปิดพบสื่อเดือนละครั้งก็ยังถูกสัมภาษณ์ทุกวัน คงแล้วแต่จังหวะข่าวมากกว่า
เมื่อถามว่า กับข้อครหาที่ว่ามีความขัดแย้งกับนายบัณฑูร สุภัควนิช จนต้องลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายสุรนันทน์กล่าวว่า ยืนยันไม่มี จริงๆแล้วตนทำงานตามที่นายกฯมอบหมาย และตนกับนายบัณฑูรมีความสัมพันธ์ที่ดี ความจริงรู้จักกันมาตั้งแต่ตนเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลสำนักงบประมาณ และนายบัณฑูรก็มีความกรุณามาโดยตลอด พอมาทำงานตรงนี้นายบัณฑูรรู้ว่านายกฯ มอบหมายงานอะไร และอะไรที่ติดขัดในเรื่องราชการ ซึ่งนายบัณฑูรมีอำนาจสั่งการก็สั่งการให้ตลอด ฉะนั้นไม่มีปัญหาอะไร ไม่รู้ข่าวมาจากไหน เชื่อว่าไม่ได้มาจากนายบัณฑูร หรือตน หรือใครเป็นข่าวที่ไม่น่าเป็นข่าว และนายบัณฑูรก็ลาออกด้วยปัญหาสุขภาพ ขณะที่นายกฯ เห็นว่านายบัณฑูรยังสามารถทำงานได้ แม้ไม่เป็นเลขาธิการนายกฯ ตามที่นายบัณฑูรต้องการ จึงขอให้เป็นที่ปรึกษานายกฯ ซึ่งไม่ใช่ตำแหน่งที่ไปแขวนอะไร ยังมีบทบาทช่วยเหลือนายกฯ และรัฐมนตรีอยู่ ส่วนกระแสพุ่งเป้ามาที่ตนทั้งกลุ่ม กทม. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยนั้นยืนยันไม่มีปัญหาอะไรและมีโอกาสพูดคุยกับคุณหญิงสุดารัตน์หลายครั้ง แลกเปลี่ยนความเห็นตลอด คิดว่ามีขบวนการปล่อยข่าวที่ทำให้เกิดความแตกแยกกัน เป็นเรื่องไม่สร้างสรรค์ และไม่ใช่เรื่องที่ตนต้องชี้แจง
เมื่อถามว่า มีข่าวว่ามีการทำงานซ้ำซ้อนกัน นายสุรนันทน์กล่าวว่า ขอพูดตรงๆ ว่าไม่มี ถ้าได้เห็นบรรยากาศบนตึกไทยที่ตนมีโอกาสได้เข้าไปทำงาน ตนได้คุยกับนายบัณฑูรตลอด ไม่มีปัญหา
“การที่มาทำงานตรงนี้ผมพูดกับนายกฯ ว่าอาสามาทำงานและไม่ต้องการตำแหน่งใดๆ ก่อนหรือหลังพฤษภาคม 2555 ซึ่งผมเชื่อในความสามารถของบุคคลที่ถูกตัดสิทธิ์เลือกตั้งเมื่อออกมาแล้วคนเหล่านั้นมีความสามารถเต็มที่ได้เลยไม่ต้องห่วงผม วันไหนหมดความจำเป็นและมีคนเข้ามาเต็มเม็ดเต็มหน่วย ผมก็กลับไปจัดรายการทีวีเหมือนเดิมได้” นายสุรนันทน์กล่าว
เมื่อถามว่า มาทำงานตรงนี้เพราะมีใบสั่งจากบ้านจันทร์ส่องหล้า นายสุรนันทน์กล่าวว่า ยืนยันไม่มีใบสั่งจากใครทั้งสิ้น ขอบอกว่าถ้าตนจะรับคำสั่งใครในวันนี้คือนายกรัฐมนตรีที่ชื่อยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่การประสานงานองคาพยพทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นพรรค ในรัฐบาลตนเองต้องประสานงาน ส่วนที่ถามว่าหลัง พ.ค.55 สนใจมาทำงานในรัฐบาลอย่างเปิดเผยหรือไม่ นายสุรนันทน์กล่าวว่า เหลือเวลาอีก 3 เดือน อย่าเพิ่งไปพูดถึงอนาคต การเมืองไทย 1 สัปดาห์ก็ยาวแล้ว วันนี้มีงานให้ ทำได้และอาสามา ตำแหน่งโฆษกเป็นสิ่งอุปโลกน์ขึ้นมา ดังนั้นเรียกว่าไม่มีตำแหน่ง ไม่มีเงินเดือน ไม่ได้ผลประโยชน์ใดๆ เมื่อถึง พ.ค.55 เงื่อนไขการเมืองสภาพแวดล้อมอาจเปลี่ยนไปมากกว่านี้ไม่มีใครรู้อนาคต
เมื่อถามว่า วันนี้มีอะไรที่ต้องชี้แจงแทนนายกฯในฐานะที่เข้ามาเป็นโฆษกประจำตัวหรือไม่ นายสุรนันทน์กล่าวว่า กำลังดูเป็นเรื่องๆ ไป ขึ้นอยู่กับสื่อมวลชน ถ้าคิดว่านายกฯ ยังไม่เข้าใจอยากให้ช่วยอธิบายตนก็พร้อม เมื่อถามว่า การชี้แจงกับผู้ตรวจการแผ่นดินทำหนังสือชี้แจงแล้วหรือไม่ นายสุรนันทน์กล่าวว่า ยังไม่ได้ทำหนังสือชี้แจงและไม่จำเป็นต้องเดินไปด้วยตัวเอง
